“OKMD” จับมือ “ธนาคารออมสิน” พัฒนามุมความรู้บนเกาะลิบง จ.ตรัง
“OKMD” จับมือ “ธนาคารออมสิน” พัฒนามุมความรู้บนเกาะลิบง จ.ตรัง ให้ความรู้ ทักษะ วางแผนการเงิน ติดอาวุธทางปัญญาให้เด็กและเยาวชน
ในระหว่างวันที่ 22-23 มกราคม 2568 ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) หรือ OKMD พร้อมด้วยผู้บริหารธนาคารออมสินและคณะ นำทีมลงพื้นที่ เกาะลิบง จ.ตรัง เพื่อร่วมกิจกรรม SOFT OPENNING “มุมความรู้ลิบง” ภายใต้โครงการ พัฒนาพื้นที่การเรียนรู้เกาะลิบง
ดร.ทวารัฐ กล่าวว่า สืบเนื่องจาก OKMD และธนาคารออมสินซึ่งเป็นหนึ่งภาคีเครือข่ายความรู้ด้านการเงินการลงทุน สำหรับเด็กและเยาวชน และได้ร่วมกันดำเนินโครงการคาราวานความรู้ตลาดทุนรุกสู่ภูมิภาค และบ่มเพาะต้นแบบ คนรุ่นใหม่เข้าสู่ตลาดทุน (Fin Lab) โดยมีกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF) เป็นผู้สนับสนุนหลัก ซึ่งได้ดำเนินการมาตลอดปี 2567 และประสบความสำเร็จโดยมีเด็กเข้าร่วมกิจกรรมทะลุเป้าที่ตั้งไว้ และได้ปิดโครงการไปเมื่อวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา
ดร.ทวารัฐ กล่าวว่า ในส่วนของธนาคารออมสินนั้น ได้ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องในมิติต่างๆ บนพื้นที่เกาะลิบง ในฐานะสถาบันการเงินเพื่อการออมของประเทศ และเป็นธนาคารเพื่อสังคมที่เป็นผู้นำด้านการส่งเสริม การออมและสร้างความมั่นคงให้กับประชาชนนั้น สอดรับกับภารกิจของ OKMD ในการจัดระบบการเรียนรู้สาธารณะและการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ภูมิปัญญาของประชาชนโดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ที่ทันสมัย และพัฒนาขยายผลแหล่งบริการองค์ความรู้รูปแบบใหม่ที่ทันสมัย มีชีวิตชีวาและอุดมด้วยความรู้ที่สร้างสรรค์สอดประสานกันอย่างลงตัว
“OKMD จึงผนึกกำลังกับธนาคารออมสินร่วมกันพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ (Learning Space) เพื่อจัดให้มีพื้นที่
การเรียนรู้ของชุมชนที่มีคุณภาพ ให้บริการองค์ความรู้แก่คนในชุมชน ส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพและส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดช่วงชีวิตให้กับคนทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเด็ก เยาวชน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ ได้คัดเลือกพื้นที่ที่มีความต้องการด้านการศึกษาและการเรียนรู้ และค้นหาพันธมิตรในการร่วมดำเนินงาน ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลเกาะลิบง สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการศึกษานอกระบบที่ให้การสนับสนุนการเรียนรู้ บริการความรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนทุกช่วงวัยในพื้นที่ด้วย” ดร.ทวารัฐ กล่าว
ดร.ทวารัฐ กล่าวถึงเกณฑ์การคัดเลือกพื้นที่ที่มีความต้องการด้านการศึกษาและการเรียนรู้ ตลอดจนค้นหาพันธมิตร ในการร่วมดำเนินงาน ว่า เราได้คัดเลือก ศูนย์การเรียนรู้ตำบลเกาะลิบง สังกัดกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการศึกษานอกระบบที่ให้การสนับสนุนการเรียนรู้ บริการความรู้ และส่งเสริมการเรียนรู้ของประชาชนทุกช่วงวัยในพื้นที่
ส่วนแนวทางการพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้เกาะลิบง มีแนวทางในการพัฒนา 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านพื้นที่กายภาพ โดยการ ปรับปรุงพื้นที่การเรียนรู้ ในรูปแบบ “มุมความรู้ลิบง” เพื่อให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ของชุมชน สร้างบรรยากาศเพื่อสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ 2) ด้านองค์ความรู้ โดยการสนับสนุนอุปกรณ์และสื่อการเรียนรู้ภายในมุมความรู้ ให้มีเนื้อหาความรู้ที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ หนังสือ บอร์ดเกม สื่อมัลติมีเดียต่างๆ 3) ด้านบริการ โดยการ ถ่ายทอดความรู้ด้วยกิจกรรมที่สร้างสรรค์และเหมาะสม สนับสนุนองค์ความรู้และ จัดกิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ Creative Workshop สำรับเด็ก เยาวชน และกลุ่มวิสาหกิจชุมชนหรือผู้ประกอบการ
ทั้งนี้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์การดำเนินงาน ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาพื้นที่การเรียนรู้ของชุมชน ในรูปแบบ “มุมความรู้ ลิบง” 2) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงองค์ความรู้สำคัญในการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และแหล่งเรียนรู้ที่มีคุณภาพ และลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้ เช่น ความรู้ด้านการเงินการลงทุน ความรู้ด้านอาชีพหรือทักษะจำเป็นในศรวรรษที่ 21 และ 3) เพื่อส่งเสริมให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต อันจะเกิดประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่ที่จะได้รับการบริการความรู้ที่เหมาะสมตามบริบทของพื้นที่ และสามารถนำความรู้ไปต่อยอดเพื่อพัฒนาการเรียนการศึกษา การประกอบอาชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้ รวมถึงส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต ดร.ทวารัฐ กล่าวทิ้งท้าย
นายวัชรพันธ์ สมพงศ์ ผู้อำนวยเขต ธนาคารออมสินเขตตรัง กล่าวว่า ในการดำเนินการเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ ณ ศูนย์การเรียนรู้ตำบลเกาะลิบง ธนาคารออมสินให้การสนับสนุนในการพัฒนาพื้นที่ในหลากหลายมิติ ตั้งแต่การปรับปรุงพื้นที่พร้อมใช้งานและการสนับสนุนคอมพิวเตอร์เพื่อยกระดับการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งส่งเสริมทักษะด้านเทคโนโลยีและการเรียนรู้ผ่านการเข้าถึงองค์ความรู้ที่น่าสนใจผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล และสื่อการเรียนรู้ที่ทันสมัยเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและการใช้งาน อันนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพและทักษะของคนทุกช่วงวัยสำหรับการพัฒนาทักษะ การสร้างรายได้ และการพัฒนาอาชีพอันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และสังคมได้ในอนาคต
นางสาวทิวาวรรณ พิทักษ์จินดา ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอกันตัง กล่าวว่า ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับตำบลเกาะลิบง จัดการศึกษาในรูปแบบ การจัดการเรียนรู้นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย ปัจจุบันมีนักศึกษาจำนวน 61 คน
สำหรับบรรยากาศภายในงาน มีกิจกรรมที่สนใจมากมาย อาทิ “CPR การช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน ด้วย Game-based Learning จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ การถ่ายภาพและการตลาดออนไลน์ กิจกรรม “เพื่อนสอนเพื่อน” และ “กิจกรรมพี่สอนน้อง” โดยคณะนักเรียนชมรม “BudgetBuddy” จาก NIST International school ในเรื่อง Financial Literacy ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
โดยกิจกรรม “เพื่อนสอนเพื่อน” เป็นกิจกรรมที่ถ่ายทอดความรู้ด้าน Financial Literacy ให้กับโรงเรียนระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนบาตูปูเต๊ะ โดยน้อง ๆ จาก NIST ได้ถ่ายทอดแนวทางส่งเสริมการออม ที่ชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างความจำเป็น และความต้องการ (Need & Want) สร้างทัศนคติที่ดีด้านการเงิน การออม เพื่อให้เข้าใจและมีแนวทางในการตั้งเป้าหมายชีวิต และเป้าหมายทางการเงินของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย อีกทั้งยังได้ตระหนักถึงความสำคัญวิธีสร้างรายได้เพื่อความยั่งยืนในการออม นอกจากนี้ยังสอนให้เพื่อน ๆ ได้เรียนรู้ทักษะด้านภาษาอังกฤษสำหรับการสื่อสารที่ดี และต่อยอดรายได้ในอนาคต ซึ่งเป็นช่องทางโอกาสโดยเฉพาะในพื้นที่เกาะลิบง ซึ่งมีชาวต่างชาติเข้ามาพักผ่อนระยะยาวกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งนอกจากการจัดกิจกรรมในพื้นที่แล้ว น้อง ๆ จาก NIST ยังมีการให้คำปรึกษาและติดตามความก้าวหน้าอย่างสม่ำเสมอผ่านการพูดคุยออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ซึ่งกิจกรรมจิตอาสาที่น่าชื่นชมมาก
ส่วนกิจกรรม “พี่สอนน้อง”เป็นกิจกรรมที่สร้างการเรียนรู้ที่สนุกสนานด้านการเงินและการออมให้กับน้อง ๆ ระดับประถมศึกษา โรงเรียนบ้านเกาะลิบง ให้มีความรู้เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายชีวิตและการเพื่อสิ่งจำเป็นมากกว่าการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยตามความต้องการที่ไม่ตอบโจทย์เป้าหมายของตนเอง และยังได้สนุกสนานกับการเรียนรู้ทักษะการใช้ภาษาอังกฤษอย่างง่ายให้กล้าพูด กล้าสนทนา และมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้และการสื่อสารภาษาต่างประเทศ ในยุคการสื่อสารไร้พรหมแดนเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวัน
“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นถึงพลังของเครือข่าย และศักยภาพของเด็ก เยาวชน ตลอดจนชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ที่สามารถพัฒนาได้ หากได้รับโอกาสเข้าถึงองค์ความรู้ที่เหมาะสม สอดรับกับเป้าหมายหลักของโครงการนี้คือ การลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงองค์ความรู้ เสริมทักษะการเงิน การอาชีพ และส่งเสริมวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนบนเกาะลิบง”