มหาดไทยแถลงความพร้อมอำนวยความสะดวกผู้เดินทางประกอบพิธีฮัจย์ ปี68

กระทรวงมหาดไทยแถลงความพร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ปี 2568 (ฮ.ศ.1446) วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568ณ ห้องประชุมราชสีห์ กระทรวงมหาดไทย

กระทรวงมหาดไทย นำโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย จัดแถลงข่าวเพื่อชี้แจงแนวทางการอำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ประจำปี พ.ศ. 2568 (ฮ.ศ. 1446) ภายใต้แนวคิด “Hajj 5G 5Good” ได้แก่ Good Price (ราคาดี มีคุณภาพ), Good Service (บริการดี), Good Care (เอาใจใส่ดี), Good Health (สุขภาพดี) และ Good Relations (ความสัมพันธ์ดีระหว่างประเทศ)

ปีนี้ประเทศไทยมีผู้แสวงบุญจำนวน 6,603 คน โดยกระทรวงมหาดไทยได้ร่วมมือกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบียและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้แสวงบุญได้รับบริการที่ดีขึ้นและมีค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม เป็นธรรมซึ่งมีมาตรการสำคัญดังนี้:


1. Good Price – ราคาดี มีคุณภาพ ค่าใช้จ่ายพื้นฐานในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ต่อคนปีนี้อยู่ที่ 173,000-187,000 บาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนที่อยู่ 250,000บาท การลดค่าใช้จ่ายเป็นผลจากการเจรจาลดค่าบริการพื้นฐานของรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย, ค่าโดยสารเครื่องบิน และค่าขนส่งระหว่างเมือง และการเปิดโอกาสให้ใช้เที่ยวบินพาณิชย์ (Commercial Flights) เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ควบคู่กับเที่ยวบินเช่าเหมาลำ (Charter Flights) ช่วยลดราคาตั๋วโดยสารได้อย่างมาก นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี ได้มีมติเห็นชอบให้การนำส่งผู้แสวงบุญที่เดิมจะต้องนำส่งผ่านสายการบินไทยเท่านั้น เป็นดำเนินการโดยสายการบินที่มาจากการตกลงระหว่างประเทศไทย และประเทศซาอุดิอาระเบียที่จะกำหนดขึ้นในแต่ละปี ซึ่งจะเปิดโอกาสให้มีสายการบินในการขนส่งมากขึ้น จะทำให้ราคาบัตรโดยสารถูกลง รวมถึงคุณภาพและการให้บริการดีขึ้น เนื่องจากมีการแข่งขันด้านการค้าและการให้บริการ

2. Good Service – บริการดี เพิ่มพัดลมและเครื่องปรับอากาศในเต็นท์พักบริเวณทุ่งมีนา เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงไฟฟ้าและประปาให้พร้อมแก้ไขปัญหาทันที ลดความแออัดของพื้นที่พักในทุ่งมีนาโดยเพิ่มจำนวนมัคตับ และกำกับดูแลที่พักและคุณภาพอาหารให้เป็นไปตามมาตรฐาน และประโยชน์แก่ผู้แสวงบุญ

3. Good Care – เอาใจใส่ดี เจรจาขอเงินคืนจากรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้แสวงบุญ ในปี 2566 ได้เงินเยียวยาค่าชดเชยไฟฟ้าดับที่ทุ่งมีนา คนละ 1,600 บาท รวมกว่า 19 ล้านบาท

ปี 2567 ได้เงินคืนค่าบริการต่าง ๆ คนละประมาณ 9,000 บาท รวมกว่า 74 ล้านบาท ซึ่งจะโอนคืนให้ผู้แสวงบุญโดยตรง รวมทั้งจัดตั้งสำนักงานกิจการฮัจย์ไทยที่เมืองมาดีนะห์และเมืองมักกะห์ เพื่อให้บริการตลอดระยะเวลาการประกอบพิธีฮัจย์

4. Good Health – สุขภาพดี กระทรวงมหาดไทยร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข ส่งทีมแพทย์ 26 คน ไปดูแลสุขภาพผู้แสวงบุญอย่างใกล้ชิดให้บริการทางการแพทย์ที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ


5. Good Relations – ความสัมพันธ์ดีระหว่างประเทศ การหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงฮัจย์และอุมเราะห์ของซาอุดีอาระเบีย เพื่อพัฒนาคุณภาพการให้บริการ ได้รับการตอบรับอย่างดี นอกจากนี้ ยังจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ด้านศาสนาและภาษา เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างสองประเทศ

ตั้งแต่ปี 2569 เป็นต้นไป กระทรวงมหาดไทย จะควบคุมค่าใช้จ่ายฮัจย์ไม่ให้เกิน 195,000 บาทต่อรายประชาชนสามารถลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ได้ที่ที่ว่าการอำเภอทั่วประเทศ


รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยกล่าวว่า “รัฐบาล มุ่งมั่นพัฒนากิจการฮัจย์ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมได้รับบริการที่ดีขึ้น ด้วยค่าใช้จ่ายที่เป็นธรรม เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงโอกาสแห่งศรัทธาได้อย่างสะดวกและปลอดภัย รัฐบาล และกระทรวงมหาดไทย มุ่งมั่นที่จะพัฒนากิจการฮัจย์ให้ดียิ่งขึ้นในทุกมิติ เพื่อให้พี่น้องชาวไทยมุสลิม ได้รับโอกาสที่สามารถเข้าถึงได้ ตลอดจนได้รับความสะดวกในการเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ซึ่งถือเป็นของขวัญแด่พี่น้องชาวไทยมุสลิมในเดือนรอมฎอนที่กำลังจะมาถึงนี้”