ผู้ยื่นจดทะเบียนธุรกิจพ.ย.แผ่ว
ค้าสลาก 450 รายเลิกกิจการ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยเดือนพฤศจิกายน 2558 มีผู้ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัททั่วประเทศ จำนวน 4,520 ราย เพิ่มขึ้น 98 ราย คิดเป็น 2% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2557 ซึ่งมีจำนวน 4,422 ราย แต่ลดลง 711 ราย คิดเป็น 14% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 5,231 ราย สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกทั่วประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2558 มีจำนวน 2,722 ราย โดยธุรกิจที่เลิกสูงสุดคือธุรกิจค้าสลาก จำนวน 450 ราย คิดเป็น 17%
สาเหตุที่เลิกส่วนใหญ่เนื่องจากธุรกิจไม่ได้ประกอบกิจการ และกรมมีการติดตามอย่างเข้มงวด
สำหรับมูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ในเดือนพฤศจิกายน 2558 มีจำนวนทั้งสิ้น 15,724 ล้านบาท ลดลงจำนวน 5,361 ล้านบาท คิดเป็น 25% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 21,085 ล้านบาท และลดลงจำนวน 20,186 ล้านบาท คิดเป็น 56% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2557 ซึ่งมีจำนวน 35,910 ล้านบาท
ส่วนประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 659 รายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 231 ราย ภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 122 ราย ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 94 ราย และขายส่งเครื่องจักร จำนวน 90 ราย
ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2558 มีห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น 1,292,783 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนรวม 19.64 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 620,157 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 15.38 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 439,320 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,110 ราย และห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 179,727 ราย
นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้ากล่าวว่า การจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทในเดือนพฤศจิกายน 2558 เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (พ.ย.57) และลดลงจากเดือนก่อน (ต.ค.58) คิดเป็น 14% เป็นไปตามแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในช่วงสิ้นปีที่ลดลงใน 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2554-2558) เพราะช่วงปลายปีธุรกิจจะจัดตั้งน้อยเพราะไม่ประสงค์ที่จะเป็นภาระในการต้องนำส่งงบการเงินประจำปี
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีสัญญาณการฟื้นตัวจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของสำนักเศรษฐกิจการคลัง ที่คาดว่าเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปี 2558 จะสามารถขยายตัวได้ร้อยละ 2.9 จากมาตรการด้านการเงินและการคลังที่ผลักดันตามนโยบายรัฐบาล จะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งนี้ ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกราคาน้ำมัน การส่งออก ภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และส่งผลต่อภาพรวมการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัท