“เวิลด์ลีส”เครือซีไอเอ็มบีไทย
สวนกระแส11เดือนกำไร 478%
บริษัท เวิลด์ลีส ในเครือธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย สวนกระแสตลาดเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ คุมคุณภาพหนี้อยู่หมัด ควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้ดี ดันผลการดำเนินงาน 11 เดือนทะลุเป้า กำไรเติบโต 478% หรือทำกำไรได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่ผ่านมาถึง 100 ล้านบาท ดีเกินแผนที่ตั้งไว้ ณ ไตรมาส 3 ของปี 2558 มียอดอนุมัติสินเชื่อใหม่จำนวน 639.16 ล้านบาท มองปีหน้า 2559 เศรษกิจโตใกล้เคียงปีนี้ ยังต้องระวัง
นายทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์ลีส จำกัด (WL) กล่าวว่า บริษัทฯใช้กลยุทธ์นี้ต่อเนื่องจากปีที่แล้ว เราเน้นขยายสินเชื่อควบคู่ไปกับการควบคุมคุณภาพ โดยคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพในการชำระหนี้ และพิจารณาศักยภาพลูกค้าตามพื้นที่ ตามรายอุตสาหกรรม วิเคราะห์จากภาพรวมเศรษฐกิจ ซึ่งจากประสบการณ์ทำเช่าซื้อรถจักรยานยนต์มา 20 ปีของเวิลด์ลีสทำให้เราเห็นวงจรและวัฏจักรของลูกค้าเรา พบว่าลูกค้าเช่าซื้อจักรยานยนต์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้ากลุ่มพื้นฐานที่มีรายได้ไม่แน่นอนนั้น กำลังซื้อจะแปรผันตามเศรษฐกิจภาพใหญ่แบบทันที แทบจะเป็นดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจที่จับต้องได้ ยามที่เศรษฐกิจดี จึงได้เห็นผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแข่งขันกันปล่อยกู้ดุเดือด แต่ในยามเศรษฐกิจไม่คึกคัก โอกาสเกิดหนี้เสียสูงมาก เราจึงต้องระมัดระวังและคัดกรองให้ดี ซึ่งปี 2558 เศรษฐกิจไม่ได้โตมากนักแต่บริษัทฯสามารถขยายสินเชื่อให้เติบโตได้ แม้ไม่โตมากแต่คุมคุณภาพได้อยู่หมัด และส่งผลให้ต้นทุนของคุณภาพสินเชื่อดีกว่าปี 56 และ 57
สำหรับผลการดำเนินงานช่วง 11 เดือนของปี 2558 ในภาพรวมสามารถทำกำไรได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 100 ล้านบาท คิดเป็น 478% และเมื่อคาดการณ์กำไรสุทธิของทั้งปี 2558 น่าจะมากกว่า 170 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตขึ้นกว่า 380% เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิของปี 2557
ด้านการขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ณ ไตรมาส 3 ของปี 2558 มียอดอนุมัติสินเชื่อใหม่จำนวน 639.16 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ 95% โดยคาดว่าทั้งปี 2558 จะมียอดอนุมัติสินเชื่อใหม่ 2,445 ล้านบาท และจะส่งผลให้สิ้นปี 2558 บริษัทฯจะมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ประมาณ 3,480 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มียอดสินเชื่อคงค้าง 3,200 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน สามารถควบคุมหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไว้ได้ในระดับที่ดี โดยปัจจุบันเอ็นพีแอลอยู่ที่ 4.1% ของสินเชื่อทั้งหมด ซึ่งเมื่อเทียบกับตลาดถือว่าเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระบวนการปล่อยสินเชื่อและการบริหารความเสี่ยงที่ดี
นายทวีพล เปิดเผยว่า กลยุทธ์ในการทำธุรกิจปี 2559 จะเป็นกลยุทธ์ที่ต่อเนื่องจากปีนี้ เพราะมองว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้าน่าจะเติบโตใกล้เคียงปีนี้ จึงต้องระมัดระวังในการปล่อยกู้
“ลูกค้าเช่าซื้อมอเตอร์ไซค์เป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจเร็วที่สุด เกษตรกร ค้าขาย หาบเร่ แผงลอย รายได้ไม่แน่นอน ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ เช่น ราคายางที่เคยดีแต่พอราคาตกมาแล้ว 2 ปี ลูกค้ากรีดยางรายได้พลิกกลับตอนนี้น่าเป็นห่วง ส่วนลูกค้าเกษตรกรในภาคเหนือและอิสานแม้กลุ่มนี้ราคาสินค้าเกษตรผันผวนน้อยกว่าภาคใต้แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลักๆคือ ภัยแล้งกับน้ำท่วม ขณะที่ลูกค้าเช่าซื้อที่มีรายได้ประจำอย่างพนักงานโรงงานเอาเข้าจริงก็ผันผวนตามเศรษฐกิจเช่นกัน ถ้าโรงงานยอดขายไม่ดีโอทีที่เคยได้เยอะๆก็ลดลง โดยสรุปลูกค้ากลุ่มเช่าซื้อรายได้แปรผันตามเศรษฐกิจมากๆ และเป็นกลุ่มที่ไม่ค่อยมีเงินออมสำรองไว้ใช้ยามจำเป็น เราจึงให้สาขาของเราทั้ง 12 แห่ง ติดตามลูกค้าและพูดคุยลูกค้าอย่างใกล้ชิด” นายทวีพล กล่าว