“PAUL” เฟรนช์เบเกอรี่พรีเมี่ยม
ลงดิเอ็มโพเรียม-เซ็นทรัลเวิลด์

พอล “PAUL” เฟรนช์เบเกอรี่ระดับโลก โหมตลาดอย่างหนัก สยายปีกเพิ่มอีก 2 สาขารวด ด้วยงบลงทุนกว่า 20 ล้านบาท สาขาศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม ชั้น 1 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2 เพื่อต่อยอดความอร่อยอย่างต่อเนื่อง หลังจากเปิดสาขาแรกที่ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ด้วยตำนานคุณภาพร้านอาหาร และเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสแบบดั้งเดิมมากกว่า 125 ปี

ดร.ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ กรรมการ บริษัท เบคเฮาส์ จำกัด เจ้าของแฟรนไชส์ PAULแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย กล่าวว่า “ ได้เปิดร้านพอลในประเทศไทยไปแล้วในสาขาเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ผลตอบรับนั้นดีมาก เราได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะลูกค้าหลายคนจำแบรนด์ PAUL ได้จากต่างประเทศจึงชื่นชอบและแวะเข้ามาสัมผัสรสชาติเบเกอรี่สไตล์ฝรั่งเศสที่ประเทศไทย ที่สำคัญทางร้านได้นำเข้าวัตถุดิบสำคัญจากประเทศฝรั่งเศส ทำให้ลูกค้าได้สัมผัสกับรสชาติที่ทุกคนต่างติดใจในขนมปัง PAUL แบบเดียวกันจากทุกสาขาทั่วโลก เราจึงได้ขยายสาขาในช่วงสิ้นปี 2558เพื่อขยายสาขาให้ครอบคลุมตามต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น อีก 2 แห่ง คือ สาขาดิเอ็มโพเรียม ชั้น 1และ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2”  

“PAUL” สาขาดิเอ็มโพเรียม ชั้น 1 และสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2  มีดีไซต์ในคอนเซ็ปต์ ของเฟรนช์เบเกอรี่เรสเตอร์รอง (French Bakery Restaurant)  ที่ออกแบบในธีมเดียวกันทั่วโลก โดยสาขาดิเอ็มโพเรียม มีพื้นที่กว่า 220 ตารางเมตร รองรับด้วยที่นั่งกว่า 52 ที่นั่ง และสาขาศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 2  มีพื้นที่ที่กว่า 220 ตารางเมตร มีที่นั่งกว่า 60 ที่นั่ง โดยทั้ง 2 สาขานี้ ได้ออกแบบมาเพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบตามต้นฉบับ เปรียบเสมือนลูกค้าได้นั่งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ผลิตสินค้าแบบเดียวกันกับร้านทีฝรั่งเศส ซึ่งนอกจากเป็นการรักษามาตรฐาน แล้วยังเป็นการแสดงออกถึงความเคารพในขนบธรรมเนียม และการสืบสานวิธีการทำเบเกอรี่ในแบบดั้งเดิมที่สืบต่อกันมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 19 อีกด้วย ถือเป็นมรดกตกทอดที่สืบต่อกันมาที่ร้าน PAUL ทั่วโลกยึดถือ

สำหรับเบเกอรี่ ที่ได้รับความนิยม มีอย่างหลากหลายมากกว่า 13 ชนิด โดยสินค้าได้รับความนิยมมากที่สุดได้แก่ ครัวซองต์ (croissant), ครัวซองต์ช็อคโกแลต (pain au chocolat) และ แอสคาโก เรซิ่น(escargot raisins) (แพสทรีรสเข้มข้นที่มีส่วนผสมของไส้คัสตาร์ดหอมหวานและลูกเกด)

นอกจากนี้ยังมีขนมสูตรพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ของ PAUL คือ มีลเฟย (Millefeuille) ขนมอบที่นำแป้งกรุบกรอบเคลือบคาราเมลบางๆ มาบรรจงเรียงซ้อนกันแบบพิถีพิถัน สอดไส้ครีมวนิลาหอมหวานกลมกล่อม ทั้งนี้ขนมชนิดต่างๆ ที่วางขายในร้านจะมีการเปลี่ยนแปลงตามเทศกาลและวัตถุดิบที่เก็บเกี่ยวได้ในแต่ละฤดูกาลตลอดปี

และในส่วนของร้านอาหาร  ได้นำขนมปัง PAUL มาปรุงแต่งเป็นอาหารฝรั่งเศสแบบดั้งเดิม เช่น ทาร์ทีน หน้าต่างๆ (Tartines) แซนวิชแบบเปิดหน้าซึ่งใช้ขนมปังซาวโดว์อบสดใหม่แผ่นเดียวแต่งหน้าด้วยเครื่องต่างๆ) ไปจนถึง คร็อก–เมอซีเออร์ (Croque-monsieur) แซนวิชแฮมชีสอบที่ใช้ “แป็ง เดอ มี” (Pain de mie) ขนมปังเนื้อนุ่ม อันโด่งดังของ PAUL, และ ปายาซง (Paillassons) แพนเค้กมันฝรั่งแบบดั้งเดิมที่กรุบกรอบและนุ่มชุ่มลิ้นอย่างลงตัว ไปจนถึง เครป (Crepes) และ วัฟเฟิล (Waffle) แสนอร่อยอีกมากมาย

สามารถเลือกลิ้มรสชาติได้ที่ PAUL สาขาใหม่สาขา TheEmporium ชั้น 1 (สถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 2)  และ สาขา Central World ชั้น 2  เปิดให้บริการทุกวัน 10.00 น. ถึง 22.00 น.

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 02-001-5160, หรือ FB : paul1889.thailand / IG : paulbakerythailand / LINE : @paulthailand