“CES2016” งานเทคฯแรกแห่งปี
โชว์สมาร์ทวอทช์สตรี-หุ่นยนต์
สัปดาห์แรกของปีใหม่ 2016 เหล่าสาวกไฮเทคจะได้สัมผัสเทคโนโลยีเด่น ๆ จากบริษัททั่วโลกมากกว่า 3,600 แห่งที่มานำเสนอในงานมหกรรมแสดงสินค้าอิเล็คทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค “Consumer Electronics Show” หรือ “ CES2016” งานใหญ่งานแรกแห่งปีที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 6-9 มกราคม 2016 นี้ ณ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีหุ่นยนต์ที่เป็นมิตรกับเจ้าบ้านและเด็ก ๆ เทคโนโลยีเสมือนจริง ทีวี เทคโนโลยีสวมใส่ได้ที่มุ่งเจาะตลาดสุภาพสตรีและรถยนต์ที่ไฮเทคขึ้น
หากจะกล่าวว่า“ CES2016” เป็นงานช้างงานแรกต้อนรับปีใหม่ 2016 ก็คงจะไม่ผิด โดยมีหน่วยงานและบริษัทต่าง ๆ เข้าร่วมโชว์นวัตกรรมและผลิตภัณฑ์ไฮเทคบนพื้นที่ขนาด 2.4 ล้านตารางฟุต(223,000 ตารางเมตร) เพิ่มขึ้นจากขนาด 2.2 ล้านตารางฟุตในปีที่แล้วและเชื่อว่า จะสามารถดึงดูดผู้เข้าชมได้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาที่สามารถดึงคนจากภาคอุตสาหกรรมและได้มากกว่า 170,000 คน ไม่นับประชาชนผู้สนใจทั่วไป
ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่จะได้เห็นในงาน มีหลากหลายดังนี้
เทคโนโลยีหุ่นยนต์
สมาคมเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคเปิดเผยว่า ในปีนี้พื้นที่จัดแสดงหุ่นยนต์มีเนื้อที่เพิ่มขึ้นกว่าปีที่แล้วถึง 71% แม้จะมีหุ่นยนต์มาโชว์จำนวนมาก แต่เชื่อว่า หุ่นยนต์ที่จะได้รับการจับตามอง รวมถึง “หุ่นยนต์ Buddy” ผู้ช่วยภายในบ้าน พัฒนาโดย โรดอลฟี ฮาเซลแวนเดอร์ ประธานกรรมการบริหารบริษัท บลู ฟร็อก โรโบติกสัญชาติฝรั่งเศส เจ้า Buddy สามารถช่วยดูแลภายในบริเวณรอบบ้านได้ สามารถจดจำสมาชิกในครอบครัว ใช้งานวีดีโอคอลล์ หรือการโทรศัพท์แบบเห็นหน้าเห็นตากันได้ เตือนนัดที่สำคัญ เล่นเพลงตามคำสั่ง รายงานเหตุไฟไหม้ น้ำท่วมหรือเมื่อมีผู้บุกรุกเข้ามาในบ้าน ถือเป็นวิธีการดูแลบ้านที่มีค่าใช้จ่ายไม่แพง
นอกจากนี้ยังมีหุ่นยนต์ Leka ที่ออกแบบเพื่อส่งเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ โรคออทิสติกและผู้มีปัญหาพัฒนาการผิดปกติอื่นๆ ด้านบริษัทญี่ปุ่น Flower Robotics จะส่งหุ่นยนต์ Flower Robotics Platina ที่สามารถส่งสัญญาณเตือนเจ้าของได้ด้วยการส่งแสงและเสียง
เทคโนโลยีทีวี
ค่ายซัมซุงและแอลจี เตรียมจัดทีวีเทคโนโลยี HDR ที่แสดงผลภาพที่ให้ความละเอียดสูงออกโชว์ ส่วนทีวีหน้าจอบางเฉียบของแอลจีซุ่มพัฒนาจอ OLED โค้งงอได้ อาจจะได้เห็นต้นแบบหน้าจอขนาด 18 นิ้วกันในงานนี้
เทคโนโลยีสวมใส่ได้
นอกจากนี้ Creative Lap หน่วยงานวิจัยและพัฒนาของค่ายซัมซุงยังจะนำ “WELT” เข็มขัดอัจฉริยะมาโชว์ด้วย ซึ่งเข็มขัดนี้จะช่วยให้รู้ขนาดของรอบเอว ปริมาณการรับประทานอาหารและจำนวนการก้าวเดิน การเคลื่อนไหวหรือการทำกิจกรรมในแต่ละวัน เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้วิเคราะห์ด้านสุขภาพและเพื่อประโยชน์ในการคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไปได้
ขณะเดียวกันซัมซุง ยังมี “Tip Talk” อุปกรณ์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถฟังเสียงจากสมาร์ทโฟนได้เพียงแค่สัมผัสหูของตัวเองด้วยนิ้ว ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ Headset หรือหูฟัง โดยTip Talk เป็นอุปกรณ์เหมือนสายนาฬิกา สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทวอทช์ Samsung Gear S2 ที่ทำงานเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนAndroid ได้ควบคู่กับฟังก์ชัน Text-to-Speech (TTS)
อุปกรณ์สวมใส่ได้เด่นอีกอย่างได้แก่ “WiseWear” บริษัทแฟชั่นจากสหรัฐที่รังสรรค์อุปกรณ์สวมใส่ได้อัจฉริยะหรูหรา สวมเป็นเครื่องประดับแฟชั่นมีค่า เก๋ไก๋ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ยังทำงานเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือ เพื่อรับข้อความ อีเมลและการแจ้งเตือนต่าง ๆ ใช้ส่งสัญญาณฉุกเฉิน พร้อมตำแหน่งและวีดีโอแวดล้อมไปยังบุคคลที่เลือกไว้แล้วในเวลาไม่กี่วินาที อีกทั้งมีระบบติดตามกิจกรรมและสุขภาพประจำวัน
เช่นเดียวกับ “Huawei” ค่ายมือถือจากจีนที่เตรียมโชว์นาฬิกาอัจฉริยะสำหรับสตรี รวมถึงธุรกิจสสตาร์ท-อัพอีกหลายแห่งที่จะนำผลิตภัณฑ์สวมข้อมือสำหรับผู้หญิงออกมา
ส่วน “Fitbit” ของสหรัฐฯ เตรียมโชว์อุปกรณ์และซอฟต์แวร์ที่สามารถติดตามความเครียดผ่านการเต้นของหัวใจและอุณหภูมิผิวกาย โดยซอฟต์แวร์นี้จะช่วยให้บริหารจัดการความเครียดและะการนอนหลับได้ดีขึ้น ขณะที่บริษัทคู่แข่ง “Misfit” หลังจากถูกซื้อกิจการโดยบริษัท Fossil ยักษ์ใหญ่ธุรกิจนาฬิกาแล้ว คาดว่าจะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ มาเปิดตัวด้วยเช่นกัน
ด้านบริษัท “Atol” ของฝรั่งเศส จะนำแว่นตาไฮเทคออกโชว์ ซึ่งทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนแจ้งเตือนเจ้าของได้ว่า หายไปอยู่ไกลจากเจ้าของเป็นระยะทางเท่าไร ขณะที่บริษัท In&motion จากฝรั่งเศสเหมือนกัน เตรียมนำนวัตกรรมที่เรียกว่า เป็น “ถุงลมนิรภัยอัจฉริยะ” สำหรับผู้เล่นสกี โดยออกแบบเป็นเสื้อกั๊กที่พองตัวออกได้อย่างรวดเร็วเพื่อช่วยปกป้องผู้สวมใส่จากการกระทบกระแทก แม้แต่อุปกรณ์สวมใส่ได้
สำหรับสุนัขก็จะมีมาโชว์ภายในงานนี้เหมือนกัน ได้แก่ PitPat ปลอกคอกันน้ำได้ ที่คอยติดตามกิจกรรมของสุนัข การเดินและการพักผ่อน
เทคโนโลยีเสมือนจริง
Vive VR
Samsung VR device
สิ่งที่จะได้เห็นเพิ่มขึ้นอีกอย่าง ได้แก่ อุปกรณ์เสมือนจริงจากหลายค่าย ทั้งบริษัท HTC ของไต้หวันที่จะนำเฮดเซ็ท Vive VR ออกแสดง ซึ่งพัฒนาร่วมกับบริษัทValve ธุรกิจวีดีโอเกมส์ ในขณะที่ Sony จะนำเฮดเซ็ทที่ใช้เล่นกับเกม PS4 มีชื่อว่า “PlayStation VR” มาโชว์เหมือนกัน
ซัมซุงก็ไม่น้อยหน้าจะนำ Samsung VR device อุปกรณ์ควบคุมเกมหรือเนื้อหาต่าง ๆของค่ายมาประชันด้วยเหมือนกัน โดยใช้มือควบคุมการเคลื่อนไหว ทำให้สนุกสนานเข้าถึงอารมณ์เกมได้มากกว่า เป็นอีกรูปแบบของการเล่นเกม
ยานไร้นักบินหรือโดรน
Fleye
Uvify
ด้านเทคโนโลยีอากาศยานหุ่นยนต์หรือยานไร้นักบินหรือบ้างก็เรียกกันว่า “โดรน” ดูเหมือนจะบูมไม่แพ้เทคโนโลยีด้านอื่น ๆ มีหลายค่ายเตรียมนำผลงานพัฒนาของตนมาโชว์ เช่น PowerUp FPV อุปกรณ์ของบริษัทสตาร์ทอัพอิสราเอลที่สามารถเปลี่ยนเครื่องบินกระดาษให้กลายเป็นเครื่องบินบังคับได้และส่งภาพวิวต่าง ๆ กลับมาที่เฮดเซ็ทเสมือนจริง
นอกจากนี้มีโดรน Fleye รูปร่างทรงกลมจากบริษัทเบลเยียม ซ่อนใบพัดไว้ภายในได้เพื่อลดความเสี่ยงถูกทำลาย และโดรน Uvify จากบริษัทเกาหลีใต้ที่มาพร้อมเครื่องมือจดจำแบบ 3 มิติ ช่วยนำทางภายในอาคารต่าง ๆ ได้ ส่วน โดรน Intelligent Energy จากอังกฤษ โชว์การใช้พลังไฮโดรเจนจากเซลล์เชื้อเพลิง ที่ทำให้สามารถบินอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง
เทคโนโลยีความงามและการแพทย์
ด้านบริษัท Medical Wearable Solutions ของแคนาดา เตรียมนำแว่นตา EyeForcer ซึ่งน่าจะถูกใจบรรดาผู้ปกครองที่มีปัญหาลูก ๆ ติดเกม เพราะแว่นตานี้จะช่วยป้องกันเด็ก ๆ จากการนั่งผิดท่า อาการปวดคอและปัญหาด้านสายตา ส่วนบริษัท Ceracor ในสหรัฐฯจะเปิดตัวเซ็นเซอร์เพื่อวัดระดับฮีโมโกลบินในเลือด ซึ่งสารตัวนี้จะเป็นตัวบอกว่า นักกีฬาจะมีความอึดทนในเกมแข่งขันได้มากน้อยอย่างไร เพื่อให้นักกีฬาปรับปรุงตัวเอง
เทคโนโลยียานยนต์ไฮเทค
นอกเหนือจากนี้ยังมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่หลายค่ายเตรียมนำนวัตกรรมล่าสุดของตนมาโชว์ ดังบริษัท Faraday Future จากจีนได้ปล่อยทีเซอร์คอนเซ็ปต์คาร์นำร่องออกมาก่อนใคร โดยเชื่อว่า รถของตนจะเป็นตัวกำหนดยนตรกรรมในอนาคตได้
สำหรับ Volkswagen เตรียมโชว์รถไฟฟ้า Microbus ที่สามารถวิ่งได้มากถึง 500 กิโลเมตรจากการชาร์จพลังงานเพียงครั้งเดียว ด้านฟอร์ดที่เคยมีข่าวร่วมมือกับกูเกิลพัฒนารถขับเคลื่อนด้วยตัวเอง แต่ยังไม่แน่ใจว่าจะเข็นออกมาโชว์ด้วยหรือไม่ หรือนำไปโชว์ในงาน Detroit Auto Show ในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้ แต่ BMW จะมาแน่เพื่อสาธิตระบบ Air Touch ระบบความบันเทิงและแผนที่ในรถยนต์ที่สามารถตรวจจับท่าทางคนขับเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องใช้ปุ่มภายในรถ ลดภาระให้กับคนขับรถ
ส่วน Toyota ได้พัฒนาระบบสร้างภาพเพื่อให้รถยนต์ไฮเทคขับเคลื่อนด้วยตัวเองได้อย่างแม่นยำ ในขณะที่ยังมีบริษัทรถยนต์ค่ายเล็ก ๆ อีกมากมายกว่า 100 แห่งพร้อมที่จะนำนวัตกรรมของตนมาร่วมโชว์ในงานนี้ด้วย
คาดว่าคงจะมีผู้เข้าชมงานจำนวนไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมาและสร้างสีสันแก่วงการเทคโนโลยีทั่วโลกได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่นำมาโชว์ในงานนี้ อาจจะมีโอกาสมาให้คนไทยได้ชมกันบ้างก็ได้ในปีนี้