พณ. ‘แฟรนไชส์ โกอินเตอร์59’
ดันผู้ประกอบการเจาะตลาดนอก
กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดตัวโครงการพัฒนาศักยภาพตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ ประจำปี 2559 (แฟรนไชส์โกอินเตอร์) พร้อมจัดสัมมนา “แฟรนไชส์ไทย 360 องศา” มุ่งให้ความรู้และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการแฟรนไชส์ไทยให้พร้อมก้าวสู่ต่างประเทศ เล็ง!!! นำผู้ประกอบการร่วมงานแสดงแฟรนไชส์ในตลาดเมียนมาร์ และฟิลิปปินส์ หวังเจาะกลุ่มนักลงทุนต่างแดนแห่ซื้อแฟรนไชส์ไทย
นางสาวรัตนา เธียรวิศิษฎ์สกุล รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ จัดสัมมนา “แฟรนไชส์ไทย 360 องศา” พร้อมเปิดตัวโครงการพัฒนาศักยภาพตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ ประจำปี 2559 (แฟรนไชส์โกอินเตอร์) เพื่อมุ่งส่งเสริมและยกระดับคุณภาพการบริหารจัดการธุรกิจในระบบแฟรนไชส์และการเสริมสร้างพัฒนาศักยภาพการตลาดให้ธุรกิจแฟรนไชส์ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นกิจกรรมที่ช่วยสร้างและขยายโอกาสทางการตลาดและการขยายเครือข่ายธุรกิจแฟรนไชส์ไปยังตลาดทั้งในและต่างประเทศโดยผู้ประกอบการแฟรนไชส์ที่สมัครและมีคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการจะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการและการอบรม เชิงลึกด้านเทคนิคการสร้างตลาด เทคนิคการขายและการเตรียมความพร้อมสำหรับการขยายเครือข่ายธุรกิจ แฟรนไชส์อย่างครบวงจร
“ปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ประมาณ 1,200 ราย มีทุนจดทะเบียนรวม 70,000 ล้านบาท มีมูลค่าการตลาดทั้งระบบกว่า 200,000 ล้านบาท หรือประมาณ 9% ของธุรกิจค้าปลีกทั้งหมดในประเทศ ซึ่งถือได้ว่าธุรกิจแฟรนไชส์ไทยยังมีโอกาสขยายตัวอีกมากเมื่อเทียบกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีสัดส่วนมูลค่าของธุรกิจแฟรนไชส์อยู่ที่ร้อยละ 56 ของมูลค่าธุรกิจค้าปลีกในระบบ ซึ่งธุรกิจแฟรนไชส์เป็นกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ ช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจรายใหม่มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าและเร็วกว่าการเริ่มธุรกิจด้วยตนเอง
แต่ขณะนี้พบว่าผู้ประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ของไทยยังประสบปัญหาการวางแนวคิด รูปแบบและการบริหารจัดการธุรกิจยังไม่ครบกระบวนการ ทำให้การขับเคลื่อนธุรกิจตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ไม่สามารถขยายธุรกิจ ต่อไปได้ เนื่องจากผู้เป็นเจ้าของสิทธิ์แฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า “แฟรนไชส์ซอร์” ยังไม่สามารถจัดการระบบการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ของตนได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์จนได้มาตรฐาน ดังนั้น การเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับกระบวนการต่างๆ ของระบบแฟรนไชส์จึงเป็นเรื่องสำคัญ ตั้งแต่การเริ่มต้นธุรกิจจนถึงขั้นตอนสุดท้ายที่พร้อมจะส่งผ่านความสำเร็จนั้นไปยังผู้ที่สนใจซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ หรือที่เรียกว่า “แฟรนไชส์ซี” และเมื่อแฟรนไชส์ซอร์ มีความเข้มแข็งได้มาตรฐานแล้ว การจะขยายเครือข่ายหรือธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศก็ไม่ใช่เรื่องยากเห็นได้จากปัจจุบันมีธุรกิจแฟรนไชส์ไทยที่กรมฯ ได้ให้การส่งเสริมจำนวน 22 กิจการใน 38 ประเทศทั่วโลกโดยเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มมากที่สุด รองลงมาได้แก่ กลุ่มค้าปลีก, การศึกษา, ความงามและสปา และบริการ สามารถขยายธุรกิจ ไปในหลายประเทศทั่วโลกแล้ว”
ทั้งนี้การสัมมนาได้รับเกียรติจากวิทยากรซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญหลายคนด้วยกัน อาทิ ดร.พีรพงษ์ กิติเวชโภคาวัฒน์ ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจค้าปลีกและ แฟรนไชส์ มาถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทั้งด้านการวางแผน การบริหารจัดการแบบรอบด้าน ส่วนการเสวนาหัวข้อ“มองอย่างเซียน….เทคนิคการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ไปต่างประเทศ” ได้รับเกียรติจากวิทยากรรับเชิญ นายกฤษฏ์ กาญจนบัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัทคาร์แลค (ไทย–เยอรมัน), นายบุญประเสริฐ พู่พันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็น แอนด์ บี พิซซ่าเครป, นายศตวรรษ อำนวยเรืองศรี ผู้เชี่ยวชาญตลาดในประเทศเมียนมาร์ และผู้เชี่ยวชาญตลาดในประเทศฟิลิปปินส์มาถ่ายทอดประสบการณ์ มุมมอง ปัญหาและอุปสรรคในการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ รวมถึงทิศทางตลาดธุรกิจแฟรนไชส์ใน 2 ประเทศเป้าหมายทั้งเมียนมาร์และฟิลิปปินส์