ซัมมิท แคปปิตอล มุ่งโต10%59
ตั้งเป้าขึ้นเบอร์1ตลาดใน 4 ปี
ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง ผู้นำธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ในเครือซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุ่น บริษัทเทรดดิ้งยักษ์ใหญ่ระดับโลก ประกาศผลประกอบการปี 2558 มียอดสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์เพิ่ม 37% จากปี 2557 แม้เศรษฐกิจชะลอตัว ตั้งเป้า2559 ขยายสินเชื่อเพิ่มให้ได้ 1 แสนคัน/สัญญาหรือโตราว 10% จากยอด 7-8 หมื่นคันปี 2558 มั่นใจก้าวสู่อันดับ 1 ของวงการสินเชื่อรถจักรยานยนต์ กับยอดขายเดือนละ 1 หมื่นคัน ภายในปี 2562 เล็งจับตลาดสินเชื่อรายย่อยอื่นเพิ่มเติม ลุ้นแถลงไตรมาส2
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2558 ที่ผ่านมา ซัมมิท แคปปิตอล เติบโตสวนกระแสตลาดรถจักรยานยนต์ โดยมียอดปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ถึงร้อยละ 37 ซึ่งแบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล ร้อยละ 45 รองลงมาคือภาคตะวันออก ร้อยละ 40 สุดท้ายคือภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ รวมร้อยละ 15
การเติบโตดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไม่สู้ดีนัก โดยการใช้จ่ายภาคครัวเรือนขยายตัวเพียงร้อยละ 1.7 ส่งผลให้ปริมาณการจําหน่ายรถยนต์นั่งและรถจักรยานยนต์ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยยอดรถจักรยานยนต์ที่จดทะเบียนในปีที่ผ่านมา ติดลบ 2% เมื่อเทียบกับปี 2557 และคาดการณ์ว่าในปี 2559 จะเติบโตน้อยกว่าร้อยละ 1
สำหรับในปี 2559 คาดว่ายอดขายรถจักรยานยนต์จะอยู่ในระดับเดียวกับปี 2558 คืออยู่ในช่วง 1.6-1.7 ล้านคัน ไม่โตขึ้น ผลจากภาคการเกษตรยังตกต่ำซึ่งจะกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรและภาคแรงงาน อีกทั้งยังต้องขึ้นอยู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐและปัจจัยแวดล้อมอื่น ๆ อย่างไรก็ดีทางซัมมิท แคปปิตอลจะมีการปรับตัวเพื่อการเติบโต โดยตั้งเป้าขยายสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้ได้ 1 แสนคัน/สัญญา หรือเติบโตรา 10% ยอดปล่อยสินเชื่อประมาณ 5 พันล้านบาท จากยอด 7-8 หมื่นคันในปี 2558
“การดำเนินการเพื่อเติบโตทำโดยการรักษาฐานลูกค้าเก่า พร้อมทั้งการขยายฐานลูกค้าใหม่ ได้แก่ โชว์รูม ดีลเลอร์ โดยติดต่อและสนับสนุนทำกิจกรรมด้านการตลาดร่วมกัน ตั้งเป้าขยายดีลเลอร์เพิ่มอีกจาก 40 ร้านเพิ่มอีก 20 ร้าน โดยมีงบประมาณด้านการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท , มีการขยายเครือข่ายสาขาเพิ่ม ซึ่งในปี 2560 จะขยายสาขาเพิ่มเป็น 40-45 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ให้ได้ทั่วประเทศ,ปรับปรุงการอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็วภายใน 30 นาที,พัฒนาและเพิ่มบุคลากรให้มีทักษะการให้สินเชื่อเพิ่มขึ้นและจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ ๆ ด้านสินเชื่อรายย่อย ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)แล้ว คาดว่าจะเปิดตัวราวไตรมาสที่ 2 ”
นายวิชิตกล่าวต่อว่า สำหรับยอดหนี้สงสัยจะสูญ(NPL)ของซัมมิท แคปปิตอลอยู่ที่1.4% ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด คาดว่าจะดำเนินการให้ลดลงที่ระดับ 1.1-1.2% ในปี 2559 ผ่านการบริหารจัดการที่ดี
นอกจากนี้ซัมมิท แคปปิตอลยังตั้งเป้า 3-4 ปีจากนี้จะเป็นที่ 1 ของตลาดด้วยการขยายพื้นที่บริการครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ ขยายดีลเลอร์และปล่อยสินเชื่อให้ได้ที่ 2 หมื่นคันต่อเดือน หรือ 2.4 แสนคันต่อปี ขณะเดียวกันทางซัมมิท แคปปิตอลยังเตรียมพร้อมสำหรับรับมือในช่วงที่เข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)แล้ว โดยมีการทดสอบตลาดมาประมาณ 2 ปีในการบริหารจัดการกับลูกค้าหลากหลายสัญชาติ ซึ่งที่คุณภาพแตกต่างกันไป