Thaitrade.comร่วมพันธมิตร
พาผู้ประกอบการลุยอีคอมเมิร์ซ
Thaitrade.com ร่วมกับธนาคารกรุงเทพ (BBL) และ Amazon.com เว็บซื้อ-ขายออนไลน์ชั้นนำของโลก มอบสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมงานสัมมนา “Go Online…Go Global, Enjoy Privileges and Keep Up with the Latest Trends and Tools” แก่สมาชิกThaitrade.com และลูกค้าธนาคารกรุงเทพ ให้ความรู้ผู้ประกอบการส่งออกไทยที่กำลังแสวงหาตลาดใหม่ และต้องการนำสินค้าเข้าสู่ตลาดอีคอมเมิร์ซ เพื่อเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและขยายการส่งออกไปทั่วโลก รวมอเมริกา
นายสุพพัต อ่องแสงคุณ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า “กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศทุ่มเทพัฒนาความสัมพันธ์กับองค์กรชั้นนำระดับโลกทั้งในและต่างประเทศ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการสนับสนุนการค้าออนไลน์ เพื่อเพิ่มสิทธิพิเศษให้กับผู้ประกอบการสมาชิก Thaitrade.com มาโดยตลอด โดยล่าสุดกรมฯ ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงเทพ เชิญผู้เชี่ยวชาญจากเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ B2C อันดับหนึ่งของโลก ได้แก่Amazon.com มาถ่ายทอดความรู้ข้อมูลสถิติล่าสุดที่จำเป็น รวมถึงขั้นตอนเทคนิคในการทำการค้าออนไลน์แบบ B2C แก่สมาชิกผู้ขาย Thaitrade.com และลูกค้าของธนาคารกรุงเทพ
นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ร่วมมือกับทั้ง 2 หน่วยงาน อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการขยายช่องทางการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ซึ่งเป็นตลาดที่Amazon.com ครองส่วนแบ่งการตลาดสำคัญ โดยจะเริ่มต้นบุกตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นลำดับแรก กลุ่มสินค้าที่มีศักยภาพ ได้แก่ สินค้าแฟชั่น สินค้าสำนักงาน และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์”
นายบุญสันต์ ประสิทธิสัมฤทธิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจซื้อ-ขายออนไลน์ หรือ E-Commerce มีการขยายตัวอย่างก้าวกระโดด สิ่งที่ผู้ประกอบการ E-Commerce คำนึงถึง คือ ทางเลือกในการรับชำระเงินที่หลากหลาย ข้อมูลการชำระเงินที่ถูกต้อง พร้อมด้วยความปลอดภัยของการทำธุรกรรม ธนาคารกรุงเทพจึงพัฒนาบริการรับชำระเงินสำหรับธุรกิจ E-Commerce พร้อมทั้งการหาพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้บริการอย่างครบวงจรตั้งแต่การเตรียมความพร้อม เครื่องมือสนับสนุน รวมถึงช่องทางการเข้าสู่ตลาด E-Commerceระดับโลก ความร่วมมือในครั้งนี้ถือเป็นการผสานความเชี่ยวชาญของพันธมิตรระดับโลกและระดับประเทศ ที่ช่วยให้ลูกค้าเริ่มต้นธุรกิจได้อย่างรวดเร็วและประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน”
นายพูนีช คูมาร์ ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายการขาย เขตภูมิภาคอาเซียน ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ บริษัท Amazon.com Inc กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้ขายจำนวนมากยังมียอดขายสินค้าออนไลน์ไม่สูงนัก เนื่องด้วยฐานข้อมูลผู้ซื้อที่จำกัดเฉพาะในประเทศเท่านั้น แต่จำนวนผู้ซื้อของออนไลน์ทั่วโลกนั้นหลายร้อยล้านราย Amazon จึงจัดฝึกอบรมผู้ประกอบการไทยในการประกอบธุรกิจด้วยช่องทางอิเล็กทรอนิสก์อย่างมีขั้นตอนที่เหมาะสม เพื่อให้เข้าถึงและขยายฐานผู้ซื้อได้อย่างกว้างขวาง”
นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังสามารถใช้เครือข่ายกระจายสินค้าของAmazon ที่เรียกว่า ฟูลฟิลเมนท์ บาย อเมซอน (Fulfillment by Amazon) โดยผู้ประกอบการสามารถส่งสินค้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าของ Amazon ในสหรัฐฯ เมื่อมีคำสั่งซื้อ Amazon จะดูแลเรื่องการจัดส่งสินค้า โดยผู้ขายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดค่าใช้จ่ายในการขนส่งในรูปแบบการสั่งซื้อจำนวนน้อยได้