ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพฯ-ทอท.
จัดนิทรรศการโชว์หัตถศิลป์ไทย
ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ ร่วมกับ ทอท. เปิดนิทรรศการ “ประตูสู่องค์ความรู้แห่งหัตถศิลป์ไทย” จัดแสดง 5 ผลงานหัตถศิลป์ไทยร่วมสมัย ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น 4 Concourse D ฝั่งตะวันตก นาน3 เดือน ถึง 19 มี.ค.59 หวังเป็น Landmark แชร์ภาพสู่สายตาชาวโลก หวังขยับอันดับหลังสุวรรณภูมิที่ 9 สถานที่มีการแชร์ภาพบนIG มากสุด คาดปี 59มีผู้โดยสาร 55 ล้านคน อีกทั้งหวังผลต่อยอดผลงาน สร้างตลาดกระจายรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนหัตถศิลป์ไทย
นางอัมพวัน พิชาลัย ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน) หรือ SACICT ประธานเปิดนิทรรศการ “เปิดประตูสู่องค์ความรู้หัตถศิลป์” เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์ของการจัดนิทรรศการครั้งนี้ว่า ปี 2559 เป็นปีมหามงคลในวโรกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจะทรงเจริญพระชนมายุ 7 รอบ 84 พรรษาและเป็นปีที่ครบรอบ 13 ปีของการก่อตั้งองค์กร SACICT รวมถึงเป็นโอกาสที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ(ทสภ.) จะครบรอบ 10 ปี SACICT จึงมุ่งตอกย้ำบทบาทในฐานะองค์กรที่เป็นประตูแห่งหัตถศิลป์ไทย ด้วยการสร้างการรับรู้ในคุณค่าและการต่อยอดภูมิปัญญาของงานหัตถศิลป์ไทย รวมถึงยังเป็นการสำนึกในพระมหากรุณาธิคุรที่พระองค์ท่านมีต่อการส่งเสริมศิลปาชีพและอนุรักษ์เอกลักษณ์งานหัตถศิลป์ไทย รวมถึงยังเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับนโยบายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนและวัฒนธรรมไทย(Local Economy)ของรัฐบาล
ด้านนายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า หวังเป็นอย่างยิ่งว่า การจัดแสดงนิทรรศการในครั้งนี้จะสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับผู้โดยสารให้ได้รับความเพลิดเพลินกับงานหัตถศิลป์ที่สวยงาม มีเอกลักษณ์โดดเด่น ช่วยสร้างความประทับใจในการใช้บริการที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและมีความยินดีที่ท่าอากาศยานฯมีส่วนสนับสนุนให้สินค้าหัตถศิลป์ไทยได้เปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งจะก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างรายได้แก่ชุมชนและสร้างรายได้ให้แก่ประเทศ
การจัดแสดงนิทรรศการครั้งนี้ SACICT ได้ร่วมพัฒนาและคัดสรรผลงานคุณภาพจากดีไซเนอร์รุ่นใหม่ที่ผ่านโครงการประกวด Innovative Craft Award 2015 และ Maison & Objet 2014 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นำ 5 ผลงานมาสเตอร์พีซมาโชว์ พร้อมทั้งออกแบบ QR Code ให้ข้อมูลความรู้และเป็นจุดถ่ายภาพของประชาชนและนักท่องเที่ยว ซึ่งผลการสำรวจในปีที่แล้วพบว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นสถานที่ที่มีคนแชร์ภาพบน Instagram มากที่สุดในโลกเป็นอันดับ 9 และยังเป็นแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยมของนักเดินทาง ขณะที่ในปี 2559 คาดว่า จะมีผู้โดยสารเดินทางราว 55 ล้านคน
นางอัมพวันกล่าวเพิ่มเติมว่า แนวทางส่งเสริมผลิตภัณฑ์หัตถกรรมไทยในตลาดนักท่องเที่ยวของ SACICT เน้นเพิ่มสัดส่วนสินค้ากลุ่มของที่ระลึกที่สามารถพกพากลับประเทศเป็นของฝากได้สะดวก มีกล่องบรรจุสวยงาม โดยมีร้านจำหน่ายสินค้า SACICT ที่ท่าอากาศยานฯเป็นต้นแบบสร้างจุดขายใหม่ของผลงานที่ระลึกที่มีคุณภาพ มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ จนสามารถสร้างยอดขายได้เพิ่มขึ้นถึง 140% ในปี 2558 ที่ผ่านมา
“นอกจากนี้ SACICT ยังได้กำหนดกลยุทธ์การเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้ให้ชุมชนหัตถศิลป์ไทย โดยผลักดันโครงการ 7 เส้นทางสายผ้าทอให้อยู่ในเส้นทางท่องเที่ยวแนะนำของประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวสัมผัสความประทับใจในกระบวนการผลิตและสร้างสรรค์ผ้าทอหลากหลายจากภูมิปัญญาท้องถิ่น คาดว่า อนาคตจะสร้างรายได้ให้งานหัตถกรรมเพิ่มขึ้น 10%ต่อปี
สำหรับ 5 ผลงานมาสเตอร์พีซมาโชว์ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีดังนี้
-นับหนึ่ง ผลงานโมบายทองเหลืองขนาดใหญ่ ใช้ตกแต่งอาคาร ผลงานของ นวธันย์ รุ่งดิลกโรจน์ นักออกแบบจาก Innovative Craft Award 2015 ได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องแขวนดอกไม้สดเครื่องหอมของบ้านไทยโบราณ
-CHROMATIC DANCE URN ชุดโถเซรามิค ผลงานของ เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ จากงาน Maison & Objet 2014 ณ กรุงปารีส ฝรั่งเศส
-กระเบื้องถิ่น วอลล์อาร์ตที่ถ่ายทอดการผสมผสานความหลากหลายของเครื่องกระเบื้องโบราณลงบนผืนผ้า ผลงานของ อวิกภา สมัครสมาน นักออกแบบจาก Innovative Craft Award 2015
-โสนน้อย ชุดกระจกสะท้อนความงามของลายรดน้ำแบบดั้งเดิมจากวังสวนผักกาด ด้วยเทคนิคลงรักปดทองบนรูปฟอร์มเรขาคณิต ผลงานของ รัฐ เปลี่ยนสุข (ซ้าย)นักออกแบบจาก Innovative Craft Award 2015
-“ประกาย” โคมไฟรูปทรงเมล็ดพันธ์ุจากเศษไม้สัก ผลงาน พรประเสริฐ ยามาซากิ นักออกแบบจาก Innovative Craft Award 2015
ทั้งนี้ผลงานนาน 3 เดือน 19 มกราคมถึง 19 มีนาคม 2559 ณ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น 4 Concourse D ฝั่งตะวันตก