“เดลล์”หนุนงานโมบาย-มืออาชีพ
ย้ำผู้นำ “เอ็นด์-ทู-เอ็นด์ โซลูชั่น”
เดลล์เปิดตัว โซลูชันเอ็นด์-ยูสเซอร์ คอมพิวติ้ง ที่สมบูรณ์แบบ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนทำงานผ่านโมบาย และมืออาชีพทั่วโลก เป็นโซลูชันที่ออกแบบเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยนำเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์รุ่นล่าสุดด้านการประมวลผลหลักของอินเทลและซีออนมาใช้ พร้อมซอฟต์แวร์ Windows 10 มาไว้ในรูปทรงที่ทันสมัย คาดปี 2559 ยอดขายผลิตภัณฑ์โตสัดส่วนเท่าเดิม ระหว่างผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าองค์กรหรือภาคธุรกิจและลูกค้าทั่วไปที่ 65% : 35% ตามลำดับ
นายธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัทเดลล์ คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ได้ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ได้แก่ไมโครซอฟท์และอินเทล เพื่อพัฒนาระบบงานหรือโซลูชั่นที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของคนทำงานผ่านโมบาย และมืออาชีพทั่วโลก ที่เรียกว่า โซลูชันไอทีแบบเอ็นด์-ทู-เอ็นด์ เป็นระบบงานที่มีความน่าเชื่อถือ ความสามารถด้านการจัดการ และให้ความปลอดภัยสูงสุด โดยมาพร้อมแพลตฟอร์ม Windows 10 และระบบประมวลผลหลัก Intel®s Core™ Processors ในรุ่นที่ 6 หรือ Intel® Xeon® Processors รุ่นล่าสุดสำหรับโมบาย เวิร์กสเตชั่น
“แนวโน้มปี 2016 ที่เดลล์จะก้าวไปว่า การพัฒนาของเดลล์มุ่งตอบสนองภาคอุตสาหกรรมและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยปัจจุบันลูกค้าองค์กรต่าง ๆเริ่มให้พนักงานทำงานที่บ้านและนอกสำนักงานเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต้องการเครื่องหรือระบบที่ทำงานทุกอย่างได้ที่จุดเดียว สามารถรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ได้ มีความแข็งแรงทนทานและมีความปลอดภัย โดยเฉพาะการมีซอฟต์แวร์การจัดการที่ทำให้ลูกค้าสามารถดูแลแก้ปัญหาและซ่อมบำรุงได้เอง ทำให้ธุรกิจพร้อมที่จะแข่งขันได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ขณะเดียวกันการ สำรวจ Evolving Workforce Survey 2015 ที่เป็นการสำรวจทั่วโลกยังพบว่า 50% ตอบว่า ทำงานที่บ้านก็สามารถทำได้ดีไม่ต่างจากที่ทำงาน 35% ทำงานนอกสำนักงาน 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สิ่งเหล่านี้เป็นทิศทางของอนาคต”
ในด้านการเตรียมความพร้อมรับมือกับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)นั้น เดลล์มีความพร้อม โดยเดลล์ได้ขยายไปในหลายประเทศศอาเซียน โดยในเวียดนามและกัมพูชา เดลล์มียอดขายอันดับ 1 ของตลาดดีไวซ์ ส่วนตลาดเมียนมาร์มีสัดส่วนของตลาดลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไปใกล้เคียงกัน สำหรับไทยถือเป็นสำนักงานใหญ่ของภูมิภาคอินโดจีน และหากพิจารณายอดขายรวมในอาเซียน ไทยมาเป็นอันดับ 1 ตามด้วยเวียดนามและสิงคโปร์และมาเลเซียมียอดขายใกล้เคียงกัน
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวมีหลายอย่าง อาทิ เดสก์ท็อป Dell OptiPlex ใหม่ที่มีความสามารถด้านการจัดการและปลอดภัยมากที่สุดในโลก พร้อมออกแบบมินิทาวเวอร์ที่มีขนาดเล็กและเล็กมาก คือ Micro Form Factor ที่ประหยัดพลังงานขึ้น แต่ทำงานเร็ว
Latitude 13 7000, รุ่น 12 7000 และรุ่น 11 5000 โน๊ตบุ๊คที่ปรับโฉมให้บางและเบา ประสิทธิภาพทำงานเยี่ยม,
นอกจากนี้ยังมี Precision Workstations โน๊ตบุ๊คที่มีสเปคเหมือนเซิร์ฟเวอร์ น้ำหนักเพียง 1.8 กิโลกรัม บางเพียง 17 มิลลิเมตร จอไร้ขอบ มาพร้อมจอแสดงผลที่สว่างไสวด้วยเทคโนโลยีรุ่นล่าสุดที่ให้ประสิทธิภาพด้านกราฟฟิก มีระบบประมวลผลใหม่ พร้อมสตอเรจและหน่วยความจำที่เร็วขึ้น รองรับงานออกแบบ ช่วยให้บรรดามืออาชีพได้รับประสบการณ์เรื่องเวิร์กโฟลว์ที่รื่นไหลไม่ติดขึ้นเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้น
รวมถึงเปิดตัวมอนิเตอร์คอลเลคชั่นใหม่ที่ได้รับรางวัลนวัตกรรม CES Innovation Award ได้แก่จอ Ultra HD 4K OLED ที่น่าตื่นตาตื่นใจ และจอ InfinityEdge ใหม่อีก 2 ตัว ที่ให้ดิสเพลย์แบบ bezel-less ขอบจอบางให้ภาพสมจริงยิ่งขึ้น