ฤกษ์ดี 93ปี กรมพัฒนาธุรกิจฯ
เปิดกม.หลักประกันฯช่วยSMEs
กระทรวงพาณิชย์ ยึดฤกษ์ดีวันสถาปนากรมพัฒนาธุรกิจการค้าครบรอบ 93 ปี เปิดตัวกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจอย่างเป็นทางการ นำ SMEs ไทยพบ ‘โอเอซิสแหล่งเงินทุน’ พร้อมเพิ่มบริการค้นข้อมูลงบการเงินนิติบุคคล ตามหาร้านค้าออนไลน์ที่มีตัวตนผ่าน Application ลั่น DBD e-Filing ใช้ได้แล้วและอำนวยความสะดวกตั้งฐานงบการเงินปี 57 ให้เรียบร้อย นอกจากนี้ยังมอบรางวัลเสริมกำลังใจให้นิติบุคคลทำดีกว่า 22 ราย
นายวินิจฉัย แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานครบรอบ 93 ปี กรมพัฒนาธุรกิจการค้าว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจของกระทรวงพาณิชย์ที่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ยืนเคียงข้างและให้บริการผู้ประกอบธุรกิจและประชาชนมาจนครบรอบ 93 ปี (เมื่อวันที่ 16 ม.ค.59) และเป็นโอกาสอันดีที่ก้าวต่อไปกรมฯ จะสร้างสรรค์บริการที่ทันสมัยตอบโจทย์ผู้ใช้บริการที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งต้องการบริการที่รวดเร็ว ง่าย สะดวก ข้อมูลที่แม่นยำและตระหนักดีว่าผู้ประกอบธุรกิจจะเดินหน้าต่อไปไม่ได้หากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่จะนำมาใช้ต่อยอดในการดำเนินธุรกิจได้อย่างเพียงพอ
โอกาสนี้ได้เปิดตัวกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับที่ 10 ที่กรมฯ รับผิดชอบในการบริการให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 ก.ค.59 โดยจะเป็นการสร้างโอกาสครั้งสำคัญให้กับผู้ประกอบธุรกิจได้นำทรัพย์สินประเภทต่างๆ ในธุรกิจมาใช้เป็นหลักประกัน ในการขอสินเชื่อซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับสถาบันทางการเงินในการปล่อยสินเชื่อมากยิ่งขึ้น ส่งผลดีต่อการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของผู้ประกอบธุรกิจ นำไปสู่การเติบโตในระบบเศรษฐกิจของไทยตามมา
นอกจากนี้กรมฯ ยังได้จัดงานเสวนาภายใต้หัวข้อ “SMEs ได้อะไรจากกฎหมายหลักประกัน” โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญ 3 ท่าน ได้แก่ 1) นายชัยณรงค์ โชไชย ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ 2) นายสงคราม สกุลพราหมณ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ 3) นายเกรียงศักดิ์ สวัสดิพาณิชย์ ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการด้านกฎหมาย คณะกรรมการร่วมสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย (กกร.) โดยการเข้าร่วมเสวนาฯ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ และสำหรับนักบัญชี ‘สามารถนับชั่วโมง CPD วิชาอื่นๆ’ ได้ถึง 2.5 ชั่วโมงอีกด้วย
สำหรับในปี 2559 กรมฯ ได้ปรับปรุงและพัฒนาเพื่อเปลี่ยนผ่านการให้บริการในรูปแบบเอกสารไปสู่ยุคเทคโนโลยีแบบไร้สายที่จะเพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการที่ทันกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่จะสร้างนักรบทางเศรษฐกิจและผลักดันเข้าสู่เศรษฐกิจแบบ Digital Economy โดยดำเนินการแล้วใน 2 ด้านคือ
1) การปรับปรุงข้อมูลใน Application DBD e-Service ที่เริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ปี 2557 โดยผู้ใช้บริการสามารถตรวจค้นข้อมูลนิติบุคคลได้ทางโทรศัพท์มือถือและแท็บเลตจาก Application ดังกล่าว ซึ่งในปีนี้กรมฯ ได้ขยายการให้บริการครอบคลุมไปถึงข้อมูลงบการเงินในด้านต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการวิเคราะห์สถานะทางการเงินนำไปสู่การตัดสินใจลงทุนได้อย่างแม่นยำ อีกทั้งยังเพิ่มบริการตรวจค้นรายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และได้รับเครื่องหมาย DBD Registered และ DBD Verified อีกด้วย ทั้งนี้บริการที่เพิ่มเติมดังกล่าวจะเปิดให้ใช้งานได้ตั้งแต่ 20 ม.ค.59 เป็นต้นไป
2) การพัฒนาระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ DBD e-Filing โดยในปี2559 กรมฯ มีความพร้อมที่จะให้บริการรับงบการเงินประจำปี 2558 อย่างเต็มรูปแบบ และกรมฯ ได้นำข้อมูลงบการเงินประจำปี 2557 ของห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน และบริษัทจำกัดเข้าสู่ระบบ DBD e-Filing ครบถ้วนทั้ง 100% แล้ว นิติบุคคลสามารถกรอกข้อมูลงบการเงินประจำปี 2558 ที่จะต้องนำส่งให้กับกรมฯ ได้ทันทีโดยไม่ต้องกรอกข้อมูลงบการเงินประจำปี 2557 ย้อนหลัง
ทั้งนี้ระบบ DBD e-Filing ได้เปิดใช้งานครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.58 (ตั้งแต่ม.ค.-ธ.ค.58 มีนิติบุคคลขอรหัสเข้าใช้งานในระบบและได้รับการอนุมัติไปแล้วทั้งสิ้นจำนวน 358,683 ราย)
ในโอกาสเดียวกันนี้ทางกรมฯ ได้มีพิธีมอบรางวัลให้กับหน่วยงานต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและกระชับความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก โดยแบ่งรางวัลเป็น 3 ประเภทดังนี้ 1) การมอบรางวัลนวัตกรรมเชื่อมโยงระบบบัญชีกับระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-filing) จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ สำนักงานณรงค์การบัญชี และบริษัท คริสตอลซอฟท์ จำกัด (มหาชน) 2) การมอบหนังสือรับรองสำนักงานบัญชีคุณภาพ จำนวน 16 ราย และ 3) การมอบประกาศเกียรติคุณแก่ผู้สนับสนุนกิจกรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอย่างต่อเนื่องและดียิ่ง จำนวน 4 ราย ได้แก่ สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สมาคมแฟรนไชส์และไลเซนส์ สมาคมการค้าส่ง-ปลีกไทย และประธาน Biz Club THAILAND