เปิด “I Will Protect You Dear”
ชวนป้องกัน “โรคไอพีดี” เด็กเล็ก
ในเดือนแห่งความรักกุมภาพันธ์ 2559 นี้ นอกจากเพื่อเฉลิมฉลองความรักระหว่างหนุ่มสาวแล้ว ยังรวมถึงความรักอย่างอื่นด้วย แต่จะมีความรักไหนยิ่งใหญ่ไปกว่า “ความรักระหว่างแม่กับลูก” ความรักของแม่นั้นมาพร้อมกับสัญชาตญาณแห่งการปกป้องดูแลลูกน้อยนับตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนเห็นลูกน้อยเติบโตแข็งแรงสมบูรณ์ จึงเป็นที่มาของ “โครงการคำสัญญาจากแม่สู่ลูก –I Will Protect You Dear campaign” เพื่อให้ผู้ปกครองได้ตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกัน “โรคไอพีดี” เพื่อสุขภาพที่ดีของเด็กเล็ก
เพราะการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ โดยเฉพาะ “โรคไอพีดี” (IPD) หรือ “โรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสแบบรุนแรงและแพร่กระจาย” ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โรคติดเชื้อในกระแสเลือด และโรคปอดบวม
“เชื้อนิวโมคอคคัสมีมากกว่า 90 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นเหตุทำให้เกิดโรคติดเชื้อนิวโมคอคคัสแบบรุนแรงและแพร่กระจาย หรือไอพีดี รวมไปถึงโรคใกล้ตัวที่ทุกคนทราบกันดี ซึ่งพบบ่อยแต่ไม่รุนแรง เช่น โรคหูชั้นกลางอักเสบ (หูน้ำหนวก) โรคไซนัสอักเสบ โรคคออักเสบ บางครั้งแม้เป็นการติดเชื้อที่ไม่รุนแรงในเบื้องต้น แต่หากรักษาไม่ถูกต้อง เชื้ออาจลุกลามไปอวัยวะข้างเคียงและสมองได้” พญ.สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด กล่าว
นอกจากนี้โรคไอพีดียังก่อให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะในเด็กที่อายุต่ำกว่าห้าปีซึ่งมีอัตราความเสี่ยง มากกว่ากว่าเด็กวัยอื่นๆ และถึงแม้จะรักษาหาย แต่อาจมีผลแทรกซ้อนตามมาภายหลังได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นโรคติดเชื้อที่มีความรุนแรง จากสถิติขององค์การทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูนิเซฟ (UNICEF) พบว่าเฉพาะในปี พ.ศ. 2558 เด็กอายุต่ำกว่าห้าปีเสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 900,000 รายจากโรคปอดบวมซึ่งเป็นโรคที่สามารถรักษาและป้องกันได้
คุณโอปอล์ ปาณิสรา อารยะสกุล คุณแม่และพิธีกรชื่อดัง กล่าวว่า “โอปอล์เองได้ผ่านเรื่องราวมามากมายตอนตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอด การตั้งครรภ์ทำให้เรารู้ว่าสัญชาตญาณของความเป็นแม่ในความต้องการปกป้องลูกน้อยอย่างดีที่สุดนั้นเป็นอย่างไร หลังจากคลอดลูกมา โอปอล์เองก็ได้ตั้งใจไว้ว่าจะดูแลลูกๆให้ดีที่สุดและเรียนรู้ว่าการป้องกันรวมถึงการสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกในทุกๆเรื่องรวมถึงด้านสุขภาพที่ดีของลูกน้อยเป็นสิ่งที่ดีกว่าการแก้ไขเสมอ”
การป้องกันโรคไอพีดีในเด็กสามารถทำได้โดยการให้ความรู้แก่เด็กและผู้ปกครองเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยที่ดี อาทิ การล้างมือบ่อยๆ ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่จามหรือไอ หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับคนที่เป็นไข้หวัดหรือป่วย อยู่ให้ห่างจากควันบุหรี่และไม่พาเด็กไปในที่ๆมีผู้คนแออัด ทั้งหมดนี้จะสามารถช่วยป้องกันลูกน้อยได้ในระดับหนึ่ง และหากเป็นไปได้คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เพิ่มเติมเพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อยอย่างเหมาะสม
“การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบห้าหมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็เป็นสิ่งที่ช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานให้ลูกน้อยได้ นอกจากนี้ ในน้ำนมแม่ยังมีสารภูมิคุ้มกันที่สำคัญหลายชนิด ดังนั้นการให้ลูกน้อยกินนมแม่อย่างต่อเนื่องไปนานๆก็สามารถสร้างเสริมภูมิต้านทานได้อย่างดีเช่นกันค่ะ” พญ.สุธีรา กล่าวปิดท้าย