ศูนย์จักษุฯรพ.เจ้าพระยาแนะ
“ตรวจตาปีละครั้ง” กันเสื่อมเร็ว
โรงพยาบาลเจ้าพระยาตอกย้ำความสำเร็จในการให้บริการศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมงแห่งแรกของไทย เตือนคนไทยรณรงค์เรื่องปัญหาสุขภาพตาหมั่นตรวจเช็คสายตาปีละครั้ง ป้องกันปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร เผย 5 ตัวการหลักสำคัญในการเร่งให้ประสาทตาเสื่อมเร็วก่อนกำหนด โดยเฉพาะการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน มากเกินไป อาจไม่ใช่แค่โรคตา แต่เป็นผลข้างเคียงที่เป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ ได้
นพ.ชัยสิทธิ์ คุปต์วิวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยา เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการรองรับการให้บริการศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมงครบรอบ 10 ปี ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยา ได้ตระหนักถึงความจำเป็นให้บุคคลทั่วไปเข้ามาตรวจสายตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะปัญหาเรื่องจอประสาทตาเสื่อมก่อนเวลาอันควร อันเกิดจากการใช้สายตาไปกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต ไอแพด และสมาร์ทโฟนหรือจอแอลซีดี จนมีอาการเหล่านี้ เช่น ตาแห้ง, ตามัว,ปวดตา อย่านิ่งนอนใจเพราะอาจเป็นสัญญาณของจอประสาทตาเสื่อม
โดยเฉพาะ 5 ตัวหลักในการเร่งให้จอประสาทตาของคุณเสื่อมก่อนเวลาอันควรประกอบด้วย 1.การวางคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสม เพื่อลดแสงตกสะท้อนบนหน้าจอ ควรวางจอคอมพิวเตอร์ด้านข้างหน้าต่าง โดยมีระยะห่างระหว่างจอภาพกับตัวเราประมาณ 50 – 70 ซม. จัดระดับจดภาพจากจุดศูนย์กลางของจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่กว่าระดับสายตาประมาณ 4 – 9 นิ้ว ที่สำคัญไม่ควรให้จอภาพอยู่สูงหรือต่ำเกินไป 2.ไม่กล้ากำจัดแสงไฟที่รบกวน นอกจากวางคอมพิวเตอร์ถูกตำแหน่งแล้ว ควรปิดไฟบางดวงที่รบกวนการทำงาน เพราะความสว่างที่มากเกินไป มีผลต่อสายตา เพื่อป้องกันแสงที่เข้าตาโดยตรง ควรปิด หรือใช้มู่ลี่เพื่อปรับแสงให้ผ่านได้เพียงบางส่วน
3.เลือกใช้ขนาดตัวอักษรไม่เป็น ตามหลักการพิมพ์งานทุกครั้ง นอกจากเลือกใช้ขนาดของตัวอักษรที่ใหญ่พอแล้วควรปรับความเข้มของตัวอักษรให้เหมาะสมโดยสังเกตได้จากยังสามารถอ่านตัวอักษรได้ใน ระยะห่างเป็น 3 เท่าของระยะที่นั่งทำงาน 4.สวมแว่นผิด สีเลนส์ที่ควรเลือกใช้ ควรเป็นสีเขียวอ่อน เพราะจะช่วยทำให้รู้สึกสบายตาภายใต้แสงจากหลอดไฟฟ้า ฟลูออเรสเซนต์ รวมถึงช่วยลดแสงสะท้อนจากจอภาพ โดยเลือกแว่นตาที่มีกำลังขยายสำหรับระยะ 50 – 70 ซม. ซึ่งค่ากำลังของเลนส์ จะแตกต่างจากเลนส์อ่านหนังสือหรือเลนส์มองใกล้ทั่วไป และ 5.ลืมกะพริบตาและไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ เมื่อมีสมาธิที่จดจ่อขณะทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ ทำให้อัตราการกะพริบตาลดลงจาก 20 – 22ครั้งต่อนาที เหลือเพียง 6 – 8 ครั้งต่อนาที ถ้าไม่อยากตาแห้ง หรือต้องใช้น้ำตาเทียมหยอดตาเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น การกะพริบตาถี่ ๆ หรือลุกยืดเส้นยืดสายช่วยได้
สำหรับบุคคลที่ทำได้ไม่ครบทั้ง 5 คำแนะนำ ก็ยังสามารถใช้วิธีบริหารกล้ามเนื้อตาง่าย ๆ ด้วยการกลอกตาขึ้น – ลงช้า ๆ 6 ครั้ง โดยให้เหลือบตาขึ้นสูงสุดและลงต่ำสุด ในระหว่างการบริหาร เมื่อทำครบแล้วให้กลอกตาไปข้างขวาและซ้ายสลับกัน โดยกลอกตาไปให้ขวาสุดและซ้ายสุด ทำซ้ำ 2 – 3 ครั้ง จากนั้นชูนิ้วขึ้นมาให้อยู่ในระดับสายตา ห่างจากสายตาประมาณ 8 นิ้ว แล้วจ้องมองไปที่ระยะไกล ๆ ประมาณ 10 ฟุต สลับกับใช้ตามองระยะใกล้ที่นิ้วมือใช้เวลามองแต่ละที่ประมาณ 2 – 3 วินาที ทำสลับไปมาและท่าบริหารสุดท้าย คือ กลอกตาเป็นวงกลมช้า ๆ โดยเริ่มกลอกตาตามเข็มนาฬิกาก่อน แล้วกลอกตาทวนเข็มนาฬิกาสลับไปมา ที่สำคัญคือควรตรวจสุขภาพตาปีละ 1 ครั้ง เพื่อวัดความดันตา ตรวจเช็กจอประสาทตาและความผิดปกติของสายตา
ผู้สนใจต้องการตรวจตา สามารถสอบถามรายละเอียดและปรึกษาแพทย์ศูนย์จักษุ 24 ชั่วโมง ได้ทุกวัน ทุกเวลา ไม่มี วันหยุด ได้ที่โทรศัพท์ 02-884- 7000