“ไทยมาร์ทฯ” แถลงเรียกร้อง
ขอความเป็นธรรมเดินหน้ากิจการ
นายอำพล กล่าวว่า หลังจากศาลเพิกถอนการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ก็ไม่ดำเนินการส่งคืนทรัพย์สินให้กับบริษัท ซึ่งที่ผ่านมาได้พยายามดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายทั้งติดต่อ ประสานงานก็ไม่เป็นผล และการปิดกิจการจากการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้พนักงานเดือดร้อนขาดรายได้
ทั้งนี้ยืนยันว่าบริษัทไทยมาร์ท ไม่ได้ล้มละลาย อย่างที่ผู้ร่วมทุนกล่าวอ้างและไปฟ้องเนื่องจากที่ผ่านมายอดขายต่อเดือนมีถึง 60 ล้านบาทและมีความสามารถในการหารายได้เพื่อชดใช้เงิน จำนวน 200กว่าล้าน การที่ผู้ร่วมลงทุนไปฟ้องศาลล้มละลายได้จึงถือว่าไม่เป็นธรรม และในความเป็นจริงยังมีผู้สนใจที่ต้องการเข้ามาร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโต พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที้พิทักษ์ทรัพย์เร่งคืนทรัพย์สินให้ทางไทยมาร์ทด้วย
ในขณะที่นายพิสิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากที่ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวแล้วเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ยังไม่เร่งส่งมอบทรัพย์สินคืนให้กับบริษัทมันส่งผลกระทบกับหลายส่วนทั้งพนักงาน ธุรกิจของบริษัท และร้านค้าโดยรอบ พร้อมย้ำว่า ไทยมาร์ทไม่ได้ล้มละลายแต่เป็นการขอพิทักษ์ทรัพย์ชั่วคราวเท่านั้นไม่ใช่การพิทักษ์ทรัพย์ขั้นเด็ดขาด
สำหรับบรรยากาศโดยรอบนั้นยังมีป้ายประกาศของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ทรัพย์ติดไว้ พร้อมทั้งมีกำลังเจ้าหน้าที่กองปราบปรามเข้ามาควบคุมพื้นที่ของไทยมาร์ทและแม้ว่าเจ้าหน้าที่จะสามารถเข้ามายังภายในอาคารซึ่งเป็นจุดจำหน่ายสินค้าได้ก็ตาม แต่ยังไม่สามารถดำเนินการใดๆกับทรัพย์สินที่อยู่ภายในได้นอกจากการทำความสะอาดและตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้นเท่านั้น