เอกชนชูโมเดลร่วมมือประชารัฐ
ยกระดับนวัตกรรม-ศักยภาพผลิต
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ในฐานะหัวหน้าทีมภาครัฐ คณะทำงานด้านการยกระดับนวัตกรรมและผลิตภาพ ของคณะกรรมการภาครัฐและเอกชนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ประชุมหารือกับภาคเอกชน นำโดยนายกานต์ ตระกูลฮุน หัวหน้าทีมภาคเอกชนของคณะทำงานชุดดังกล่าว หนุนความร่วมมือเบื้องต้น ตั้งกลุ่มความร่วมมือพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมายเฉพาะในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เริ่มที่อุตสาหกรรมอาหาร พร้อมตั้งศูนย์สร้างเครือข่ายนวัตกรรมในบริษัทเอกชนและโครงการฝึกงานวิจัยของนักศึกษาป.โทและเอก
ดร.พิเชฐ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลมุ่งสนับสนุน Start-up โดยได้ออกสิทธิประโยชน์และกองทุนมากมาย เพื่อสนับสนุนให้เกิด Start-up และให้ Start-up เหล่านี้เจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเป็นนักรบพันธุ์ใหม่ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ร่วมกับ 10 กระทรวง จะจัดงาน Startup Thailand 2016 ในวันที่ 28 เมษยายน – 1 พฤษภาคม 2559 ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
ทั้งนี้ ภาครัฐยังคงต้องการเพิ่มขีดความสามารถของภาคการผลิตที่แท้จริง โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ มีมาตรการสนับสนุน SMEs และ OTOP เพื่อยกระดับผลิตภาพและส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมตลอดห่วงโซ่ของการพัฒนานวัตกรรม เช่น โครงการหิ้งสู่ห้าง โครงการให้บริการที่ปรึกษาเทคโนโลยี ITAP โครงการคูปองนวัตกรรม การขึ้นบัญชีนวัตกรรม และคูปอง OTOP เป็นต้น
นายกานต์ กล่าวว่า ภาคเอกชนได้ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการยกระดับอุตสาหกรรมและระบบนวัตกรรม ณ ประเทศสิงคโปร์ และเห็นว่าภาครัฐของสิงคโปร์เป็นตัวอย่างการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีสำหรับภาคเอกชน ซึ่งประเทศไทยสามารถนำมาปรับใช้ได้หลายรูปแบบ จึงได้เสนอรูปแบบความร่วมมือในการสานพลังประชารัฐ ระหว่างรัฐ-เอกชน-มหาวิทยาลัย เบื้องต้น 3 แนวทาง ได้แก่ 1) การจัดตั้งกลุ่มความร่วมมือเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีเป้าหมายเฉพาะด้าน (Consortium) ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยเริ่มจากอุตสาหกรรมอาหารใน Food Innopolis
2) การจัดตั้งศูนย์สร้างเครือข่ายนวัตกรรมในบริษัทเอกชน (Open Innovation Center) เพื่อเป็น platform ความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย และบริษัทเอกชนในระยะยาว และ 3) โครงการฝึกงานวิจัยเพื่อพัฒนาศักยภาพด้านนวัตกรรมของนักศึกษาปริญญาโทและเอก ซึ่งจะมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในทั้ง 3 เรื่อง กันต่อไป