กรุงไทยQ1กำไร18,259 ล้านบ.
มุ่งรายได้ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์
ธนาคารกรุงไทย ประกาศผลประกอบในไตรมาสที่ 1/2559 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2558 สามารถรักษาระดับผลกำไรที่ดี โดยธนาคารและบริษัทย่อย มีกำไรก่อนกันสำรอง การด้อยค่าและภาษีเงินได้จำนวน 18,259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,338 ล้านบาท หรือ 31.16% มีกำไรสุทธิจำนวน 7,861 ล้านบาท ลดลง 358 ล้านบาทหรือ 4.36% มีกำไรในส่วนที่เป็นของธนาคาร 7,540 ล้านบาท ลดลง 389 ล้านบาท หรือ 4.91% เน้นทำธุรกิจอย่างระมัดระวัง มุ่งเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และธุรกรรมด้านตลาดเงินตลาดทุน
ธนาคารกรุงไทย และบริษัทย่อย ในไตรมาสที่ 1/2559 เปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2558 มีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 21,341 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,003 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.36 ซึ่งเกิดจากการบริหารต้นทุนทางการเงินอย่างเหมาะสม และมีการขยายตัวของสินเชื่อในกลุ่มที่มีผลตอบแทนสูง มีรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิเท่ากับ 9,382 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,633 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 21.07 โดยมาจากธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการขยายตัวของธุรกรรมด้านตลาดเงินตลาดทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 ธนาคารและบริษัทย่อยมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 1,990,409 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2558 จำนวน 37,031 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 1.83 จากความต้องการสินเชื่อที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ มียอดเงินฝากจำนวน 2,092,754 ล้านบาท ลดลง 42,744 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 2 สอดคล้องกับเงินให้สินเชื่อที่ลดลง
สำหรับสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) มีจำนวน 90,031 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,660 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 17.89 จากสิ้นปี 2558 สินเชื่อด้อยคุณภาพ (งบการเงินเฉพาะธนาคาร) มีจำนวน 85,467 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13,619 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.96 ซึ่งเกิดจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และ SME ขนาดใหญ่จำนวนหนึ่ง รวมทั้งลูกค้า SME และลูกค้ารายย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ธนาคารให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการปรับโครงสร้างหนี้อย่างระมัดระวัง
ทั้งนี้ธนาคารและบริษัทย่อย ได้กันสำรองจำนวน 8,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,899 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 131.55 จากไตรมาส 1/2558 โดยในส่วนของธนาคาร กันสำรองจำนวน 6,996 ล้านบาท เพื่อให้เหมาะสมกับจำนวนสินเชื่อ และนโยบายการรักษาระดับของอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพไม่ให้ต่ำกว่า 100% สร้างความแข็งแกร่งของระดับเงินสำรอง โดยธนาคารมีเงินกองทุนทั้งสิ้นเท่ากับ 303,388 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.72 ของสินทรัพย์ถ่วงน้ำหนักตามความเสี่ยง คำนวณตามหลักเกณฑ์ Basel III ของธนาคารแห่งประเทศไทย