ดีแทค ทุ่มงบ 100 ล้านบ.หนุน
Startup พันธุ์ไทยสู่ตลาดโลก
บริษัท ดีแทค แอคเซอเลอเรท จำกัด ร่วมสนับสนุนการจัดงาน Startup Thailand 2016 พร้อมขานรับและส่งเสริมนโยบายภาครัฐที่สนับสนุนสตาร์ทอัพไทย นำทัพเหล่าสตาร์ทอัพแถวหน้าเบอร์หนึ่งจาก “โครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท” เข้าร่วมอย่างคับคั่ง พร้อมร่วมแชร์ประสบการณ์ที่บูธ ดีแทค แอคเซอเลอเรท ประกาศผล 11 ทีมสตาร์ทอัพที่ได้รับการคัดเลือกร่วมโครงการ dtac acceleratebatch 4 จากงาน Pitch Day ปี59 ทุ่ม 100 ล้านบาท หนุนการพัฒนาทั้งกระบวนการไปกระทั่งนำเปิดตลาดสู่ลูกค้าของเทเลนอร์กว่า 200 ล้านคน ใน 13 ประเทศทั่วโลก
ดีแทค แอคเซอเลอเรท ร่วมสนับสนุนจัดงาน Startup Thailand 2016 พร้อมประกาศผล 11 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายในโครงการ dtac accelerate batch ปีที่ 4 จากทีมที่นำเสนอผลงานในวัน Pitch Day ที่ผ่านการคัดเลือกรอบแรกทั้งหมด 24 ทีม (จากใบสมัครทั้งหมดที่มากกว่า500ทีม) ซึ่งทุกทีมต่างงัดเอาความคิดสร้างสรรค์ โซลูชั่นที่ตอบโจทย์ความต้องการในไลฟ์สไตล์ชีวิตประจำวัน รวมถึงบิสิเนสโมเดลและความมุ่งมั่นที่จะสร้างผลงานให้สำเร็จ เข้ามาประชันต่อหน้ากรรมการและ Mentors อย่างคึกคัก
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า “ ดีแทคพร้อมสนับสนุนทีมที่ร่วมโครงการในแต่ละปีที่ผ่านมาอย่างจริงจัง ด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรที่มีอย่างเต็มที่ พร้อมช่วยทำตลาดทั้งในประเทศและในระดับโลก ด้วยศักยภาพของเทเลนอร์ กรุ๊ปที่ดำเนินงานอยู่ใน 13 ประเทศทั่วโลก พร้อมช่วยหาเงินทุนสนับสนุน ด้วย Connection กับ VC ระดับโลกที่พร้อมจะเข้ามาลงทุนกับทีมที่ดีแทค แอคเซอเลอเรทบ่มเพาะขึ้นมา รวมทั้งการจัดสถานที่ทำงานที่ Hangar Co working space ให้เหล่าสตาร์ทอัพภายในตึกดีแทค จัด Boot camp อบรมทั้ง 11 ทีมจากกูรูสตาร์ทอัพระดับโลก เชิญ Mentors ที่มีชื่อเสียงและผลงานที่เป็นที่ยอมรับในวงการสตาร์ทอัพ มาโค้ชชิ่งแต่ละทีมอย่างใกล้ชิด จะเห็นได้ว่าเราทุ่มเทและให้ความสำคัญกับโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรทเป็นอย่างมากในทุกๆ ปีที่ผ่านมา”
ด้านนายสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการนวัตกรรมธุรกิจ และดีแทค แอคเซอเลอเรท กล่าวว่า “เราได้เห็นสตาร์ทอัพที่นำเสนอไอเดียมาในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำลังเป็นเทรนด์ของโลก ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดีต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม ปี 2559 นี้ ดีแทค แอคเซอเลอเรท ได้คัดเลือก 11 ทีมสุดท้ายเพื่อก้าวเข้าสู่การอบรม Intensive Boot Camp และทั้ง 11 ทีม มีไอเดียและผลงานที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก มีบริการที่หลากหลาย แต่ละคนมีความเป็นมืออาชีพมี Business Insight ในธุรกิจที่นำเสนอ หลายทีมมีความตั้งใจที่จะช่วยยกระดับอุตสาหกรรมและช่วยเหลือสังคม และที่สำคัญมีความตั้งใจจริง ที่จะเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบธุรกิจสตาร์ทอัพ อย่างจริงจัง โดยมีผลงานที่โดดเด่น เป็นแอปพลิเคชั่นที่สร้างสรรค์ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน มีทีมงานด้านไอทีที่แข็งแกร่ง มีโมเดลการทำธุรกิจ การตลาดที่ชัดเจนทำได้จริง เหมาะสมกับความต้องการในตลาดเมืองไทย และสามารถขยายสเกลทำซ้ำ หรือRepeatable
ทุกทีมที่ได้รับการคัดเลือกเข้าสู่การคัดเลือกรอบสุดท้ายตอบโจทย์ไปที่เป้าหมายของdtac accelerate ปีนี้ ที่เน้นการสร้างสรรค์ นวัตกรรมทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับระบบ Mobile Internet Ecosystem ซึ่งมีผู้นิยมใช้ข้อมูลและคอนเทนท์ของไทย และเป็นแอปพลิเคชั่นที่มีแนวคิดใหม่ๆ ที่มาช่วยสร้างสีสันและไลฟ์สไตล์และยกระดับคุณภาพชีวิตสำหรับคนไทย”
นายสมโภชน์กล่าวอีกว่า ในปี 2559 นี้ ดีแทค แอคเซอเลอเรททุ่มงบประมาณมากถึง 100 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนโครงการStartup จากปี 2557 ใช้เพียง 50-60 ล้านบาท ในขณะที่ตัวเลขการลงทุนด้าน Startup ของไทยโดยรวม ตัวเลขที่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการอยู่ที่ 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2558 ที่ผ่านมา แต่ตัวเลขที่ไม่เป็นทางการอยู่ที่ 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ปี 2557 อยู่ที่ 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถือว่า น้อยมากเมื่อเทียบกับในสหรัฐอเมริกาที่มีเม็ดเงินลงทุนหลักหลายพันล้าน
ใน 3 ปีที่ผ่านมา โครงการ dtac accelerate ได้Startup ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว 11 ราย ล่าสุด 11 รายรวมเป็น 22 ราย มีอัตราความสำเร็จจากโครงการ dtac accelerate อยู่ที่ 70% มีผู้มาเข้าร่วมลงทุน เทียบกับเพียง 20% ในตลาด และช่วยให้ Startup เติบโตได้จริงถึง 5 เท่า ภายในเวลา 18 เดือนและทำให้มีนวัตกรรมสำหรับให้ลูกค้าของดีแทคได้ใช้ นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ปีแรก 30-40 ทีม ปีที่ 2 มี 100 ทีม ปีที่3 มี 200 ทีมและล่าสุดปี 4 มีสมัครเข้ามามากถึง 500 ทีม
นายสมโภชน์ยังมองว่า ในภูมิภาคอาเซียนการผลักดันธุรกิจStartup ยังสามารถเติบโตได้อีกมาก ซึ่งผู้นำด้านนี้ในอาเซียนได้แก่ สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เวียดนาม ส่วนไทย ใกล้เคียงกับมาเลเซีย แต่ในตลาดโลกยังมีโอกาสเกิดภาวะฟองสบู่ ได้ เช่น ในสหรัฐฯและ ยุโรป แต่ทางทีม ดีแทค แอคเซอเลอเรท มีความพิถีพิถันในการทำงานที่จะไม่ให้เกิดความล้มเหลวหรือโอกาสที่จะเกิดภาวะฟองสบู่ มีน้อย
สำหรับ 11 ทีมที่ได้รับคัดเลือกได้แก่ ทีมFinnomena, ทีม WearandShare ทีม Fabbrigade ทีม Savinsure ทีม Freshket ทีมFastwork ทีม CloudCommerce ทีม Health at Home ทีม Visionear ทีม PlanforFit และทีมEventpass ซึ่งทุกทีมที่เข้ารอบได้เลือก Mentors ที่จะช่วยให้คำปรึกษาประจำทุกทีมอย่างใกล้ชิด ตลอดระยะเวลา 4 เดือนของโครงการ
โดย Mentor ที่จะช่วยดูแลและโค้ชชิ่งให้กับทั้ง 11 ทีม ดังนี้
1. นายทิวา ยอร์ค จาก Kaidee.com จะเป็น Mentor ให้กับทีม Fabbrigade และทีม Visionear
2. นายอริยะ พนมยงค์ กรรมการผู้จัดการ LINE ประเทศไทย เป็น Mentor ให้กับทีม Fastwork
3. นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ หรือป้อม Tarad.com เป็น Mentor ประจำทีม CloudCommerce และSavinsure
4. นายณัฐวุธ พึงเจริญพงศ์ หรือหมู Ookbee เป็น Mentor ทีม Finnomena และทีม PlanforFit
5. นายไผท ผดุงถิ่น หรือโบ๊ท จาก Builk ดูแลทีม Health at Home และ Freshket
6. นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ หรือแจ็ค Claim di ดูแลทีม Eventpass และทีม WearandShare
ซึ่งทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับเงินทุนทีมละ 5 แสนบาท ถึง 1.5 ล้านบาท พร้อมรับการสนับสนุนในเชิงพาณิชย์มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท ต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเข้า Boot Camp วันแรก คอร์สอบรมIntensive Boot Camp เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2559 และนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายประกาศผลในวัน Demo day ในเดือนสิงหาคมนี้
ทั้งนี้ดีแทคได้นำทัพเหล่าสตาร์ทอัพแถวหน้าเบอร์หนึ่งจากโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท และทีมที่ร่วมโครงการใน batch 4 มาร่วมแชร์ประสบการณ์ ที่บูธ ดีแทค แอคเซอเลอเรท ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ตลอดทั้ง 4 วัน โดยผู้เยี่ยมชมจะได้พบกับสตาร์ทอัพเบอร์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประเทศไทยและเอเชีย จากโครงการ ดีแทค แอคเซอเลอเรท ที่ดำเนินการมาแล้วอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 อาทิ Claim di สตาร์ทอัพที่อยู่ระดับ series A เป็นรายแรกของประเทศไทย Tech Farm แอปพลิเคชั่นที่ช่วยภาคเกษตรกรรมของไทย เพื่อเพิ่มผลผลิตฟาร์มกุ้งฟาร์มปลาส่งออกสู่ตลาดโลก, Piggipo สตาร์ทอัพด้าน Fin Tech ที่ช่วยบริหารจัดการบัตรเครดิต ที่เติบโตขยายธุรกิจไปกว่า 6 ประเทศในอาเซียน
Skootar แอปพลิเคชั่นที่ช่วย SME ในการรับส่งเอกสาร เก็บเช็ค วางบิล Drivebot อุปกรณ์ที่ช่วยเก็บข้อมูล ตรวจเช็ครถยนต์ Giztix เป็นบริการที่ช่วยพลิกโฉมอุตสาหกรรมลอจิสติก และเหล่าสตาร์ทอัพแถวหน้าของประเทศกว่า 20 ทีม ที่จะมาร่วมพูดคุย แชร์ประสบการณ์ ให้ความรู้และคำแนะนำ แก่สตาร์ทอัพหน้าใหม่ และผู้ที่สนใจในธุรกิจสตาร์ทอัพ หรือผู้ที่สนใจเข้าสมัครร่วมโครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท
นอกจากนี้ดีแทคยังได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ กับ Finnomena สตาร์ทอัพ กูรูด้านการเงิน หรือ Fin Tech แห่งยุคดิจิทัล แถวหน้าของประเทศไทย เพื่อร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้ในหัวข้อ “ใช้ FINTECHอย่างไรให้รวย” ในวันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน 2559 เวลา 13:00-14:00 น. ณ บูธดีแทค ห้อง Plenary ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์