กรมโรงงานฯหารือญี่ปุ่นพัฒนา
แรงงานคุณภาพป้อนS-Curve
กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมหารือญี่ปุ่นเพื่อยกระดับการพัฒนาคุณภาพแรงงานในภาคอุตสาหกรรมให้มีศักยภาพการแข่งขันในตลาดอุตสาหกรรมโลก เตรียมวางแผนจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาแรงงานภาคอุตสาหกรรมในไทย เพื่อกำหนดทิศทางพัฒนาคุณภาพแรงงานด้านอุตสาหกรรม พัฒนาหลักสูตรต้นแบบพัฒนาบุคลากรตาม 10 กลุ่ม S-Curve ที่มีโรงงานกลุ่มS-Curve จดประกอบและขยายโรงงานQ1 / 2559 แล้วกว่า 200 โรงงาน และต้องการแรงงานคุณภาพเพิ่มขึ้นกว่า 20,000 คน หาก S-Curve โตต่อเนื่อง คาดต้องการบุคลากรเพิ่มไม่ต่ำกว่า 80,000 คน
ดร. พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมและรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมโรงงานฯเห็นความสำคัญของการพัฒนาบุคลากร เพื่อรองรับการขยายตัวของ 10 กลุ่มอุตสาหกรรม (S-Curve) ในอนาคต โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ซึ่งมีสัดส่วน GPD สูงถึงร้อยละ 10 ของ GDP ทั้งประเทศ ด้วยเหตุนี้กรมโรงงานฯ หน่วยงานรัฐและเอกชนจากประเทศญี่ปุ่นจึงหารือร่วมกัน หาแนวทางป้องกันการขาดแคลนแรงงานในอนาคต ในเบื้องต้นจากการเข้าร่วมรับฟังการประชุมโต๊ะกลมครั้งที่ 1 (1st Round Table Conference) ที่จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นในราชอาณาจักรไทย เรื่อง “การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมของไทย” พบว่าในปัจจุบันไทยประสบปัญหาตำแหน่งงานว่าง มากกว่าจำนวนคนว่างงาน เนื่องจากคุณสมบัติของคนว่างงานไม่ตรงกับความต้องการ ขาดบุคลากรด้านการสอนและเครื่องมือการเรียนการสอนที่ไม่ทันสมัยต่อการใช้งานจริง ทำให้ฝีมือบุคลากรและแรงงานไม่ได้คุณภาพและมีปริมาณไม่เพียงพอ
การร่วมมือครั้งนี้ญี่ปุ่นจะช่วยพัฒนาทรัพยากรบุคคล และให้งบประมาณสนับสนุนในการต่อยอดเทคโนโลยี โดยหน่วยงาน HIDA (The Overseas Human Resource and Industrial Association: HIDA) เพื่อมุ่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลของภูมิภาคอาเซียนจำนวน 30,000 คนภายในระยะเวลา 3 ปี พร้อมจัดส่งเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องด้านการวางแผนนโยบายและด้านการศึกษาพื้นฐานเข้าฝึกอบรม และยกระดับบุคลากรเพื่อเป็นมาเธอร์ แฟคตอรี่ (Mother Factory) คือเมื่อบริษัทย้ายหรือขยายการผลิตไปยังประเทศอื่นในกลุ่มอาเซียน คนไทยที่ได้รับการฝึกอบรมจะเป็นผู้สอนให้กับบุคลากรในประเทศนั้นๆ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิด ในการจัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาบุคลากรในประเทศไทย โดยร่วมกับมหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นกว่า 50 แห่งและสถาบันวิจัยของไทย เพื่อกำหนดทิศทางมาตรฐานบุคลากรในโรงงานอุตสาหกรรมและพัฒนาฝีมือแรงงานด้านอุตสาหกรรมของไทย
อย่างไรก็ตาม การร่วมหารือกับญี่ปุ่นครั้งนี้ ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของการพัฒนาคุณภาพบุคลากรในโรงงานของไทย พร้อมพัฒนาหลักสูตรต้นแบบในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในภาคอุตสาหกรรมและเรียกความมั่นใจจากผู้ประกอบการต่างประเทศกลับมาลงทุนมากขึ้น โดยคาดว่าการพัฒนาคุณภาพแรงงานโดยความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น จะทำให้ไทยได้เปรียบทางการค้า การลงทุนจากต่างชาติ ขยายฐานการผลิต และมีการจ้างงานในโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับการเติบโตใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve ซึ่งมีการจดประกอบและขยายโรงงาน ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2559 รวมแล้วกว่า 200 โรงงาน และมีความต้องการแรงงานคุณภาพเพิ่มขึ้นกว่า 20,000 คน และหากกลุ่มอุตสาหกรรม S-Curve เติบโตต่อเนื่อง คาดว่าภายในปีนี้จะมีความต้องการบุคลากรในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 80,000 คน ดร. พสุ กล่าว
อนึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งได้แก่
1.การต่อยอด 5 อุตสาหกรรมเดิมที่มีศักยภาพ (First S-curve) ประกอบด้วย
1) อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ (Next – Generation Automotive)
2) อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ (Smart Electronics)
3) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดีและการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Affluent,Medical and Wellness Tourism)
4) การเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ (Agriculture and Biotechnolgy)
5) อุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร (Food for the Future)
2. การเติม 5 อุตสาหกรรมอนาคต (New S-curve) ซึ่งประกอบด้วย
1) อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ (Robotics)
2) อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ (Aviation and Logistics)
3) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ (Biofuels and Biochemicals)
4) อุตสาหกรรมดิจิตอล (Digital)
5) อุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร (Medical Hub)
โดยอุตสาหกรรมใหม่หรืออุตสาหกรรมอนาคตเหล่านี้จะเป็นกลไกที่สำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ (New Growth Engines) ของประเทศ ซึ่งการต่อยอดอุตสาหกรรมเดิมจะสามารถเพิ่มรายได้ของประชากรได้ประมาณ ร้อยละ 70 จากเป้าหมาย ส่วนอีกร้อยละ 30 จะมาจากอุตสาหกรรมใหม่
สำหรับการประชุมโต๊ะกลมฯไทยและญี่ปุ่นดังกล่าว จัดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ ณ โรงแรมเวสติน แกรนด์ สุขุมวิท มีผู้ประกอบการให้ความสนใจรับฟังเป็นจำนวนมาก
ประชาชนหรือผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมโรงงานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4014 หรือเข้าไปที่www.diw.go.th หรืออีเมล์ pr@diw.mail.go.th