‘สยามดิสคัฟเวอรี่’ ดีเดย์28 พ.ค.
เปิดสนามลองพลังคิดสร้างสรรค์
สยามพิวรรธน์ เจ้าของและผู้บริหารโครงการมีชื่อระดับโลกรวม สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ พาราไดซ์พาร์ค และเป็นหนึ่งในพันธมิตรเจ้าของ “ไอคอนสยาม” อภิมหาโครงการเมืองแห่งชีวิตอนาคต เปิดประตู “สยามดิสคัฟเวอรี่” ไลฟ์สไตล์สเปเชี่ยลตี้สโตร์ใหญ่สุดในไทย โชว์ความพร้อมให้คนรุ่นใหม่หัวใจแรงเข้าสู่สนามทดลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์เสาร์ที่ 28 พ.ค. 2559 นี้เป็นต้นไป ได้สนุก ชิม ช้อปกับสินค้ากว่า 5 พันแบรนด์ ซึ่ง 30% เปลี่ยนทุกเดือน ตั้งเป้าลูกค้าเยือน 1.5แสนคนต่อวัน ดันยอดขายพุ่ง 3 เท่าตัว
นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดประตูต้อนรับคณะสื่อมวลชน โชว์ความพร้อมเปิด“สยามดิสคัฟเวอรี่” ไลฟ์สไตล์สเปเชี่ยลตี้สโตร์ใหญ่สุดในไทยพร้อมเปิดต้อนรับลูกค้าทุกเพศทุกวัยมาเยือนอย่างเป็นทางการวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคม 2559 นี้ พร้อมกล่าวว่า สยามดิสคัฟเวอรี่ – The Exploratorium เป็นการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประเทศไทย เป็นที่สุดของจุดหมายปลายทางรูปแบบไฮบริดรีเทลแห่งแรกของประเทศไทย บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการค้าปลีก ตอกย้ำชื่อเสียงของสยามพิวรรธน์ในฐานะผู้นำความคิดสร้างสรรค์ที่ล้ำสมัยในวงการค้าปลีกของไทย ผู้เนรมิตจุดหมายปลายทางที่เป็นปรากฎการณ์ใหม่ของวงการ ซึ่งสามารถแข่งขันได้กับจุดหมายปลายทางที่เป็นสุดยอดของโลก
“ผู้มาเยี่ยมเยือนสยามดิสคัฟเวอรี่จะได้พบกับสิ่งที่ไม่เคยพบ และได้สัมผัสกับประสบการณ์แปลกใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ในขณะที่ได้สนุกไปกับการค้นหา และค้นพบตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง โดยสยามพิวรรธน์ทุ่มงบลงทุน 300 ล้านบาท จัดงาน “แกรนด์โอเพ่นนิ่ง” รวมทั้งจัดโปรโมชั่นและกิจกรรมเฉลิมฉลองการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ ในรูปแบบและสไตล์ที่ไม่เคยมีมาก่อน จัดเต็มด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี พร้อมกิจกรรมอินเทอแรคทีฟสุดล้ำมากมายที่จะทำให้ทุกคนตกตะลึง และตกหลุกรักสยามดิสคัฟเวอรี่ตั้งแต่วันแรกที่ได้มาเยี่ยมเยือน
สยามดิสคัฟเวอรี่เป็น The Biggest Arena of Lifestyle Experiments ที่เปรียบเสมือนสนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์สุดตื่นเต้นเร้าใจ เชิญชวนทุกคน ‘มาเล่นสนุกด้วยกัน’! โดยมอบพลังอำนาจในการสร้างสรรค์สไตล์ที่ใช่ของตัวเองให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาค้นหา ทดลองไอเดียใหม่ๆ และผสมผสานสไตล์ที่มีอยู่อย่างหลากหลายในสยามดิสคัฟเวอรี่ เพื่อค้นพบตัวตนที่แท้จริง
ทุกมิติของการนำเสนอ ครอบคลุมพื้นที่ 40,000 ตารางเมตร ถูกเนรมิตให้ ‘เข้าถึงใจ’ ลูกค้ามากที่สุด นำเสนอโดยผสมผสานหลากหลายกลุ่มสินค้าตามเรื่องราวและความสนใจของผู้คน เพื่อความสะดวกสบายและความสนุกสนานในการค้นหา มอบอำนาจความคิดสร้างสรรค์ให้กับลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์แอนด์แมตช์ ทดลอง ปรับแต่ง พลิกแพลง และสร้างสรรค์สินค้าที่ซื้อ ให้เป็นไปตามความต้องการและรสนิยมเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลได้ จากสินค้าที่มีอยู่มากกว่า 5,000 แบรนด์ ในทุกระดับราคาที่สามารถเข้าถึงได้ ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ระดับโลก ”
นอกจากนี้ สยามพิวรรธน์ยังเตรียมนำเสนอที่สุดแห่งปรากฏการณ์ใหม่ของการรับประทานอาหาร ด้วยการผสมผสานร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันกับพื้นที่ค้าปลีกและพื้นที่กิจกรรมต่างๆ อย่างผสมกลมกลืน โดยได้จัดสรรพื้นที่มากกว่า 2,500 ตารางเมตรครอบคลุมทั่วทั้งสยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็นพื้นที่สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม และจะเปิดตัวแบรนด์ร้านอาหารชื่อดังที่สุดแบรนด์หนึ่งของโลกครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะเป็นที่สุดของปรากฏการณ์ที่น่าตื่นเต้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
“วันที่ 28 พฤษภาคมเป็นต้นไปคาดว่า ผู้มาเยือนสยามดิสคัฟเวอรี่มาด้วยหัวใจที่คึกคัก ได้มาสนุกสนานกัน ทดลองพลังความคิดสร้างสรรค์และตกหลุมรักตั้งแต่วันแรก ซึ่งจะได้พบกับจำนวนสินค้ามากกว่า 5,000 แบรนด์ โดยที่ 50% เป็นแบรนด์ที่มาขายที่สยามดิสคัฟเวอรี่เป็นที่แรก สินค้า 30% จะมีการเปลี่ยนแปลงในทุก 1 เดือนและมีกิจกรรมเปลี่ยนในทุกสัปดาห์
คาดว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากจำนวนผู้มาเยือนที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 150,000 คนและช่วยทำให้ย่านนี้ ซึ่งปัจจุบันมีผู้มาเยือนประมาณ 450,000 คนต่อวันยังเป็นที่สุดของการมาท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอยเหมือนเดิม ยอดขายที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมาส่วนหนึ่งจะมาจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งในปีนี้ทางกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเยือนราว 33 ล้านคน ในไตรมาสแรกของปีนี้มีนักท่องเที่ยวมาเยือนไทยเพิ่มขึ้น 19% และใช้จ่ายกันประมาณ 4,000 บาทต่อคน และยังมาจากธรรมชาติความชอบสนุกสนานของคนไทย แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่เอื้้ออำนวย ซบเซาแต่คนไทยยังชอบความสนุกสนาน ตื่นเต้น สยามดิสคัฟเวอรี่จะดึงคนกลุ่มนี้มาเยือน”
สำหรับภายในไลฟ์สไตล์สเปเชี่ยลตี้สโตร์ใหญ่สุดของเมืองไทย มีการตกแต่งสวยงาม แบ่งประเภทและจัดเรียงร้านอย่างเป็นระเบียบชัดเจนตามสินค้า บริการและบุคลิก โดยแยกเป็นชั้น เช่น Her Lab สินค้าสตรี
His Lab สินค้าสำหรับผู้ชาย หรือ Digital Lab สินค้าสำหรับคนรุ่นใหม่ยุคดิจิตอล ซึ่งสามารถเดินเลือกชมสินค้าที่สนใจได้ง่าย
นอกจากนี้ยังให้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่หลายอย่าง ดังนี้
-นำเสนอเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจ (Storytelling) เต็มรูปแบบ พร้อมนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน – ‘Discovery Lab’
สินค้าต่างๆ จะนำเสนอเรื่องราวที่มีคุณค่าและน่าสนใจ บอกเล่าที่มาของแรงบันดาลใจและจินตนาการในอนาคต เกร็ดเล็กน้อยต่างๆ ที่เป็นเบื้องหลังการสร้างแบรนด์หรือนวัตกรรมน่าสนใจเกี่ยวกับสินค้า พร้อมพื้นที่ที่เรียกว่า “Discovery Lab” ที่กระจายอยู่ในทุกชั้นของสยามดิสคัฟเวอรี่ นำเสนอและจำหน่ายสินค้าและบริการภายใต้ธีมและเรื่องราวต่างๆ ซึ่งจะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่และเป็นครั้งแรกของการนำเสนอสินค้าและบริการในรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีมาก่อน
DRESSING LAB สำหรับคุณผู้หญิงเลือกลายผ้าที่ชอบและจะปรากฎชุดลวดลายที่ใช่ ก่อนควักกระเป๋า
– ‘สยามดิสคัฟเวอรี่ แอพพลิเคชั่น’ มอบประสบการณ์เฉพาะบุคคล และสื่อสารกับลูกค้าเสมือนเพื่อนที่รู้ใจ
นอกจากเครื่องมือสื่อสารที่ล้ำสมัย ทั้งสื่อมัลติมีเดียและมัลติสกรีนเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่จะปรากฏอยู่ในทุกๆ ชั้นภายในสยามดิสคัฟเวอรี่ ทำหน้าที่ทั้งสื่อสารและสร้างบรรยากาศที่น่าสนุกให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนแล้ว ยังมี “สยามดิสคัฟเวอรี่ แอพพลิเคชั่น” ที่เป็นมากกว่าโมบายแอพพลิเคชั่นทั่วไป โดยครั้งแรกในเอเชีย ที่ Mobile Application และ Location Base Service (LBS) ทำงานประสานเชื่อมกันอย่างชาญฉลาด เพื่อสื่อสารกับลูกค้า และนำเสนอข้อมูล เรื่องราว สิทธิประโยชน์และออกแบบให้ตรงกับความต้องการเฉพาะบุคคล มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งสุดล้ำ เป็นเสมือน Best Shopping Companion สื่อสารกับลูกค้าเสมือนเพื่อนสนิทที่รู้ใจ ที่พร้อมจะเชิญชวนให้ทุกคนทดลองไอเดียใหม่ๆ พูดคุย แนะนำ บอกเล่าเรื่องราว เพื่อเติมเต็มความสนุกสนานในการมาเยี่ยมเยือนสถานที่แห่งนี้
–นิทรรศการที่น่าตื่นเต้นระดับโลก – ‘Social Discovery’
ในช่วงการเปิดตัวสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้จัดให้มีการนำเสนอเรื่องราวที่ผสมผสานกับดิจิตอลเทคโนโลยี สร้างประสบการณ์แบบอินเตอร์แรคทีฟในธีม “When Obsession Becomes Identity” ที่เชิญชวนทุกคนมาร่วมค้นพบ และเข้าใจตัวตนที่แท้จริงของตนเองจากความสนใจเบื้องลึกของแต่ละคน โดยสยามดิสคัฟเวอรี่ ร่วมกับทีมนักออกแบบชื่อดังระดับโลกจากนิวยอร์คในนาม Black Egg สร้างสรรค์นิทรรศการและกิจกรรมสร้างประสบการณ์ร่วมแบบอินเตอร์แอคทีฟ โดยใช้ชื่อว่า “Social Discovery” กระจายตัวอยู่ทั่วสยามดิสคัฟเวอรี่
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสพิเศษครั้งแรกในประเทศไทย ที่ นายโอกิ ซาโตะ ผู้ก่อตั้ง nendo ดีโซน์สตูดิโอชื่อดังจากญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลระดับโลกกว่า 20 รางวัล มาจัดนิทรรศการผลงานการออกแบบ nendo Exhibition ที่จะพาทุกคนท่องไปในโลก ‘designed by nendo’ ตื่นตากับผลงานโปรดักส์ดีไซน์ ศิลปะ และสถาปัตยกรรมที่รวบรวมจากทั่วทุกมุมโลก ประกอบด้วยผลงานการออกแบบชั้นยอด ทั้งด้านโพรดักส์ดีไซน์ อาร์ทอินสตอเลชั่น และงานออกแบบสถาปัตยกรรม ที่ผ่านการคัดสรรบรรจงจัดวางในกล่องแห่งไอเดียเป็นนิทรรศการที่ทำหน้าที่เป็น อินทีเรียดีไซน์ โดยจะเป็นแกลลอรี่แนวตั้ง จัดวางให้ลอยอยู่กลางอากาศอย่างโดดเด่นในพื้นที่โล่งใจกลางสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งจะทำให้ผู้ชมสามารถชื่นชมผลงานได้จากหลากหลายมุมมอง และจะทำให้ทุกคนต้องตกตะลึง
-พิเศษกับ Discovery Man Exhibition
สยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งเปรียบเสมือนเพื่อนที่รู้ใจของทุกคน ที่จะถ่ายทอดเรื่องราวดีๆ มอบแต่สิ่งดีให้กับเพื่อนสนิท จึงได้ร่วมกับเนนโดะ (นายโอกิ ซาโตะ) ออกแบบและให้กำเนิด “ดิสคัฟเวอรี่แมน” (Discovery Man) คาแรกเตอร์ดีไซน์ที่ออกแบบเป็นหุ่นมีหัวเป็นรูปกล่องสี่เหลี่ยมสื่อความหมายถึงความพร้อมในการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ มากมายที่จะเกิดขึ้น โดยดิสคัฟเวอรี่แมนจะเป็นตัวแทนในการนำทุกคนเข้ามาค้นหาและทดลอง (Experiment) , สร้างสรรค์ (Create) , และพัฒนา (Cultivate) ความพิเศษที่ทุกคนสัมผัสและสร้างขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง ซึ่งในโอกาสเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ ได้จัดให้มีนิทรรศการ Discovery Man ระหว่างวันที่ 28 พฤษภาคม – 31 สิงหาคมนี้ เพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทำความรู้จักกับดิสคัฟเวอรี่แมนมากยิ่งขึ้น โดยเนนโดะ จับมือกับ 25 ศิลปินดังทั่วเอเชีย อาทิ ศรัณย์ เย็นปัญญา นักออกแบบผู้สร้างสรรค์ผลงานผ่านเรื่องราว, เอก ทองประเสริฐ ดีไซเนอร์ระดับแถวหน้าของไทย,ธีรนพ หวังศิลปคุณ นักออกแบบกราฟฟิกที่สร้างชื่อเสียงระดับโลก, Peap Tarr & Lisa Mam ศิลปินคู่หูชื่อดังชาวกัมพูชาที่เชี่ยวชาญงานกราฟฟิตี้และสตรีทอาร์ทและTiama Sirait ดีไซเนอร์สาวชาวอินโดนีเซียผู้เชี่ยวชาญงานด้านแฟชั่นและสิ่งทอมาร่วมกันสร้างสรรค์ตัวแทนแห่งการค้นพบที่ไม่สิ้นสุด นำเสนอดิสคัฟเวอรี่แมนในสไตล์พิเศษเพียง 25 ชิ้นในโลก
-เนรมิตสยามดิสคัฟเวอรี่เป็น ‘อาคารแห่งศิลปะ (Art Building)’
สยามพิวรรธน์ได้ก้าวข้ามข้อจำกัดของการพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกทั่วไป ด้วยการเนรมิตสยามดิสคัฟเวอรี่ให้เป็นอาคารแห่งศิลปะ (Art Building) ที่ผสมผสานงานออกแบบจากฝีมือศิลปินระดับโลกมากมาย ที่พร้อมรอต้อนรับและสร้างความตื่นตะลึงและประทับใจให้กับผู้มาเยี่ยมเยือนทุกคนทันทีที่ก้าวเข้าสู่สยามดิสคัฟเวอรี่ จากความร่วมมือกับเนนโดะ (นายโอกิ ซาโตะ) ดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกซึ่งได้รับการคัดเลือกให้เป็นหนึ่งใน 100 ชาวญี่ปุ่นที่ได้รับการยอมรับนับถือมากที่สุดโดยนิตยสารนิวส์วีค เข้ามามีส่วนร่วมในฐานะหัวหน้าที่ปรึกษางานออกแบบอาคารและงานออกแบบตกแต่งภายใน มีการออกแบบมาจากคอนเซ็ปต์ไฮบริดรีเทลที่มุ่งเน้นการมอบประสบการณ์ที่ตื่นเต้น และการมอบพลังอำนาจในการใช้ความคิดสร้างสรรค์ ลดรอยต่อบนพื้นและเพดานในพื้นที่ส่วนกลางและร้านค้าต่างๆทำให้ดูค่อยๆ กลมกลืนกัน สื่อสะท้อนถึงการผสมวัสดุที่แตกต่างกันในห้องทดลอง เป็นไปตามธีมของ Lifestyle Lab
-ให้ความสำคัญต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน เชิญทุกคนมีส่วนร่วมเพื่อสังคม
สยามดิสคัฟเวอรี่ยังให้ความสำคัญต่อการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยทุกกระบวนการคิดในทุกมิติ จะคำนึงถึง Sustainability นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมหลากหลายสำหรับบุคคลที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม อาทิ แคมเปญ “To Sharing For Green World” ร่วมกับมูลนิธิประเทศสีเขียว โดยทุกบิลการจับจ่ายของลูกค้าที่ช้อปปิ้งตั้งแต่ 6,000 บาทขึ้นไป สยามดิสคัฟเวอรี่จะสมทบทุนจำนวน 10 บาทให้แก่ โครงการปลูกป่าทั่วประเทศมูลนิธิประเทศสีเขียว เพื่อประโยชน์การวิจัยและส่งเสริมการอนุรักษ์ดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อม, แคมเปญการรณณงค์ลดการใช้ถุงที่มอบสิทธิ์พิเศษสำหรับผู้ร่วมโครงการ นับเป็นการแสดงจุดยืนที่ชัดเจนของสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนสำหรับทุกคน รวมถึงเป็นเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างยั่งยืน
อีกทั้งยังมีกิจกรรมที่เชิญชวนทุกคนได้มีส่วนร่วมเพื่อสิ่งแวดล้อมและสังคม อาทิ “Design Select : Run for Another Life” ชวนนักวิ่งทุกคนร่วมกันเปลี่ยนพลังแห่งการวิ่ง เป็นพลังแห่งการพัฒนาพื้นที่สีเขียว โดยชวนทุกคนมาร่วมวิ่งสะสมระยะทางทุกๆ 500 เมตร สยามดิสคัฟเวอรี่จะมอบเงิน 10 บาท ให้กับกรุงเทพมหานคร เพื่อใช้ในการทะนุบำรุงสวนลุมพินี ปอดใจกลางเมืองของคนกรุงฯ
โครงการ“Personalise : I create my own dream Bangkok” ร่วมกันต่อ 3D Puzzle สร้างเมืองจำลองแห่งความฝัน และมอบเป็นของเล่นให้น้องที่ห้องสมุดของเล่น โดยนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายสินค้า Nano Block and Black Smith 3D Puzzle ร้าน Loft จะนำไปมอบให้กับมูลนิธิมีชัย วีระไวทยะ เพื่อสร้างจิตสาธารณะมอบของเล่นให้แก่ห้องสมุดของเล่นประจำหมู่บ้าน และ โครงการ “Eco Select : Save Our Planet” เพื่อรณรงค์ปลูกจิตสำนึกในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ด้วยการเรียนรู้การประดิษฐ์สิ่งของชิ้นใหม่จากวัสดุเหลือใช้ Eco Gift Set โดยมีวิทยากรให้คำปรึกษา โดยรายได้ที่ได้จากการจำหน่าย Eco Gift Set นำไปร่วมสมทบทุนการปลูกป่ากับมูลนิธิประเทศสีเขียว
สำหรับการจัดงานแกรนด์โอเพ่นนิ่งแห่งปีที่มีสไตล์และรูปแบบที่ไม่เหมือนใคร สยามพิวรรธน์ ใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยกำหนดเปิดสยามดิสคัฟเวอรี่ให้คนรุ่นใหม่ไฟแรงและบุคคลทั่วไปได้เข้าสู่สนามประลองพลังอำนาจแห่งความคิดสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ได้ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2559 เป็นต้นไป พร้อมจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย พลาดไม่ได้ !!! ลูกค้า 1,000 แรก รับทันทีบัตรกำนัลเงินสดมูลค่า 500 บาท และโปรโมชั่นมากมาย อาทิ รับของรางวัลและ SIAM GIFT CARD รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท , รับเครดิตเงินคืนสูงสุด 20% จาก 7 บัตรเครดิต , และ รับคะแนนสะสม 10 เท่า สำหรับบัตร VIZ Card และ Platinum M Card ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม – 3 กรกฎาคมนี้ เป็นต้น