สกว.หนุนเมนูเพื่อสุขภาพ
“ก๋วยเตี๋ยวอวกาศ” ขนมแนวใหม่
การพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารใหม่ ๆ ในยุคปัจจุบันต้องมีนวัตกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อเป็นจุดขาย เมื่อเร็วๆนี้สกว. สนับสนุนผู้ประกอบการ 11 ราย นำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพทดสอบตลาดในงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติ ThaiFex ณ เมืองทองธานี ชูจุดเด่นเน้นสุขภาพ รสชาติอร่อย ผลิตภัณฑ์เด่นอาทิ สแนคก๋วยเตี๋ยว เมนูแปลกที่หลายคนประสงค์ลิ้มลอง ผลงานที่กำลังรอจดสิทธิบัตร นอกจากนี้ยังมี เห็ดยอ-น้ำพริกเห็ดไร้สารกันบูดและไอศกรีมพรีไบโอติก ผลิตภัณฑ์ธัญพืชเพาะงอก กาบาเมท และปลีกล้วยพร้อมดื่ม-เครื่
ดร.จันทรวิภา ธนะโสภณ รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) และรักษาการผู้อำนวยการฝ่ายอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหาร สกว. เยี่ยมชมและให้กำลังใจผู้ประกอบการและทีมงาน Innovative House ที่นำผลิตภัณฑ์อาหารและความงามจากผลงานวิจัยที่สนับสนุนโดย สกว. จัดแสดงในงาน ThaiFex 2016 เมื่อเร็ว ๆนี้ ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าอาหารนานาชาติ ณ อาคารชาลเลนเจอร์ 2 เมืองทองธานี โดยในปีนี้ สกว.มีผู้ประกอบการนำผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงรวม 11 ราย ประกอบด้วย เห็ดเป๋าฮื้อในน้ำซีอิ๊ว ข้าวต้มมัดอินเตอร์ เครื่องดื่มปลีกล้วยสำเร็จรูป กล้วยตากบานาน่าโซไซตี้ ลูกชิ้นปลาเพื่อสุขภาพ ไอศกรีมโยเกิร์ต East D ผลิตภัณฑ์นมและเครื่องสำอางจากมูร่าห์ฟาร์ม ทองม้วนแก้วเจ้าจอม สแนคจากเส้นก๋วยเตี๋ยว ผงธัญพืชเพาะงอกกาบาเมท และสารเติมแต่งกลิ่นอาหารจากเครื่องหอมไทย-จีน
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดล้วนเป็นสินค้านวัตกรรมที่ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงาน สำหรับงผลิตภัณฑ์ที่เพิ่งเปิดตัวครั้งแรกและเป็นเมนูแปลกแนวใหม่ที่ใคร ๆ อยากชิม ได้แก่ “สแนคก๋วยเตี๋ยวอวกาศ” ซึ่งเป็นขนมขบเคี้ยวแนวใหม่ที่นำเส้นก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กมาพัฒนาสูตรและกระบวนการผลิตเป็นขนมที่มีรสชาติเข้มข้น กรอบ อร่อย บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของอาหารไทยในรูปแบบที่ทันสมัย พกพาสะดวก เหมาะสำหรับเป็นขนมรับประทานเล่น พกพาติดตัวยามเดินทาง
นายอุทิศ ฉัตรสิรภพ กรรมการผู้จัดการบริษัท พีพี ออย แอนด์ ฟู้ดส์ จำกัด เปิดเผยว่า ได้ร่วมพัฒนาผลิตภัณฑ์ผ่านกระบวนการวิจัยทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต ศึกษาข้อมูลทางการตลาด ทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดี รสชาติอร่อย พกพาและรับประทานง่าย โดยหลังจากทดสอบความพึงพอใจของผู้บริโภคจากงานThaiFex 2016แ้ว จะวางแผนการตลาดร่วมกับทีมงานเพื่อหาช่องทางการจัดจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำของไทย รวมถึงส่งออกต่างประเทศโดยเน้นกลุ่มสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและเอเชียเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้บริษัทกำลังดำเนินการเรื่องจดสิทธิบัตรด้วย
ที่ได้รับความนิยมจากประชาชนในงานนี้คือ ไอศกรีมเพื่อสุขภาพตรา Esat D ซึ่งนายวรเชษฐ์ จิตตาณิชย์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท จิตตานิช แปดริ้ว จำกัด เปิดเผยว่า เดิมมีกิจการไอศกรีมพื้นบ้านรสต้นตำรับของครอบครัว ต่อมาได้ร่วมกับ Innovative House สกว. พัฒนาไอศกรีมพรีเมียมเพื่อสุขภาพที่มากกว่าความอร่อยเพื่อขยายฐานลูกค้า โดยผ่านการวิจัยและพัฒนาจากทีมงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์การอาหาร ด้วยการผสานคุณประโยชน์จากธรรมชาติในรูปแบบไอศกรีมหลากรส เหมาะกับผู้บริโภคทุกวัยที่ใส่ใจรักสุขภาพ โดยมีจุดเด่นคือ มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ไม่เจือสีสังเคราะห์และวัตถุกันเสีย ช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้
ปัจจุบันไอศกรีมเพื่อสุขภาพมีทั้งหมด 4 รสชาติ คือ โยเกิร์ตธรรมชาติ โยเกิร์ตผสมฟักข้าวและเสาวรส กะทิสด และวานิลลา โดยสองรสแรกจะได้พลังงานและสารอาหารสำคัญจากนมและโยเกิร์ต รวมถึงใยอาหารที่มีคุณสมบัติช่วยควบคุมน้ำหนัก บรรเทาอาการท้องผูก ชะลอการดูดซึมน้ำตาล ช่วยเพิ่มการดูดซึมแคลเซียมในลำไส้ และลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ รวมถึงมีพรีไบโอติกจากอินูลินซึ่งร่างกายย่อยไม่ได้และไม่ก่อพลังงาน ทั้งนี้พรีไบโอติกเป็นอาหารของจุลินทรีย์ชนิดดีที่ไม่ก่อโรคในลำไส้ของมนุษย์ ทำให้จุลินทรีย์ชนิดร้ายก่อโรคมีปริมาณลดลง
ขณะที่ฟักข้าวและเสาวรสมีสารอาหาร เช่น ไลโคปีน ที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็ง และเบตาแคโรทีนที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาสุขภาพและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ทั้งนี้ปัจจุบันไอศกรีม East D มีจำหน่ายแล้วที่ร้าน Open Now ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ รวมถึงศูนย์การเรียนรู้เมืองฉะเชิงเทรา และร้านจิตพานิชในตลาดบ่อบัว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ด้านนายวรกร เลาหเสรีกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ฟาร์มคิดดี จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้นอกจากเห็ดเป๋าฮื้อต้มน้ำซีอิ๊วแล้ว ตนยังได้นำผลิตภัณฑ์มาใหม่มาร่วมทดสอบตลาดในครั้งนี้ด้วย ได้แก่ เห็ดยอ และน้ำพริกเผาเห็ด ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้มาชมงานเป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ที่เหมาะแก่ผู้รักสุขภาพและผู้รับประทานมังสวิรัติ โดยเฉพาะเห็ดยอที่ทำจากเห็ด 3 ชนิด มีจุดเด่นที่แป้งน้อยและผสมบุก จึงเป็นจุดที่แตกต่างจากอาหารแปรรูปอย่างลูกชิ้นหรือไส้กรอกมังสวิรัติอื่น ๆ อย่างไรก็ตามตนและทีมวิจัยยังต้องปรับปรุงสูตรให้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น รวมทั้งการออกแบบบรรจุภัณฑ์
เห็ดยอ
ทั้งนี้ตั้งเป้าจะวางจำหน่ายให้ทันเทศกาลกินเจในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกเผาเห็ดสูตรเด็ดที่นำชิ้นเห็ดเปาฮื้อจากการต้มน้ำซีอิ๊วมาสร้างมูลค่า โดยผสมกับเห็ดออกานิกอื่นเพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้ดียิ่งขึ้น ส่วนผสมทั้งหมดมาจากธรรมชาติ ปราศจากผงชูรสและสารกันบูด ใช้น้ำมันรำข้าวแทนน้ำมันปาล์ม ซึ่งน้ำพริกเผาเห็ดของตนสามารถเก็บไว้ได้ที่อุณหภูมิห้องไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
ผู้ประกอบใหม่ ๆ หากรู้จักสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จะสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคและสามารถแข่งขันได้ในตลาด