ธ.กรุงไทยลงนามร่วมมือชสอ.
ใช้บริการเครือข่ายATMกรุงไทย
ดร.เฉลิมพล ดุลสัมพันธ์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด(ชสอ.) แถลงความก้าวหน้า “โครงการจัดหาโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อสหกรณ์สมาชิก” ร่วมกับบริษัทเมโทรซิสเต็มคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) พัฒนา18 ระบบในเวลา 2 ปีปูทางสหกรณ์ออมทรัพย์ใช้งานระบบเดียวกัน นำร่องใช้ใน 16 สหกรณ์ฯ พร้อมกันนี้ชสอ.ลงนามความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพื่อใช้บริการเครือข่ายATM ของธนาคารรองรับสมาชิกบุคคลสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประมาณ 3 ล้านคน เริ่มใช้เร็ว ๆนี้ ตั้งเป้าผู้ใช้จำนวนบริการ 5 แสนคน
ดร.เฉลิมพล ดุลสัมพันธ์ ประธานกรรมการชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์แห่งประเทศไทย จำกัด(ชสอ.) กล่าวว่า ในปัจจุบันการบริหารงานสหกรณ์ออมทรัพย์มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ประโยชน์ในการดำเนินงาน ซึ่งมีภาระค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่สหกรณ์ขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดยังไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศได้อย่างทั่วถึง รวมทั้งยังมีปัญหาขาดแคลนบุคลากรด้านไอทีการพัฒนาระบบเป็นแบบต่างคนต่างทำ พบปัญหาใช้โปรแกรมหลากหลาย ไม่สามารถเชื่อมต่อและบูรณาการกันได้ ระบบงานสหกรณ์ขาดเสถียรภาพในภาพรวมและมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในอนาคต
ขณะเดียวกันทางชสอ.มีวิสัยทัศน์ที่จะพัฒนาเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีสารสนเทศของขบวนการสหกรณ์ออมทรัพย์ จึงกำหนดแผนพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ โดยจัดหาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพให้กับสหกรณ์ออมทรัพย์ สามารถเชื่อมโยงระบบข้อมูลของสหกรณ์ออมทรัพย์ได้ทั่วประเทศและเป็นมาตรฐานเดียวกันทัดเทียมชุมนุมสหกรณ์ในต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยปูทางสู่การพัฒนา “ธนาคารสหกรณ์แห่งชาติ” ในอนาคตตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
ดร.เฉลิมพลกล่าวต่อว่า ชสอ.ได้รับอนุมัติงบลงทุนจากที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2556 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2556 ลงทุนซื้อโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ 18 ระบบงานหลักจำนวน 316 ล้านบาทและอนุมัติงบลงทุนค่าจัดทำศูนย์คอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ทั้งระบบจำนวน 120 ล้านบาทเป็นงบผูกพัน 4 ปี (2556-2559) ชสอ.ได้จ้างบริษัทเมโทรซิสเต็ม จำกัด (มหาชน) เพื่ออออกแบบพัฒนา ติดตั้งโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2559 มูลค่าโครงการสามารถต่อรองได้ที่ราคาเพียง 285 ล้านบาท เพื่อพัฒนาโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพและมีความทันสมัย ได้มาตรฐาน มีการบริหารจัดการรูปแบบเดียวกันให้กับสหกรณ์สมาชิก ซึ่งปัจจุบันสหกรณ์ออมทรัพย์มีอยู่ทั้งสิ้นมากกว่า 1,300 แห่งทั่วประเทศไทย และเป็นสมาชิกของชสอ.จำนวน 1,071 แห่ง
ปัจจุบันการพัฒนาโปรแกรมระบบสหกรณ์ออมทรัพย์เป็นไปด้วยดี ตามแผนนงานที่กำหนดไว้ร่วมกัน และมี 16 สหกรณ์นำร่องทดสอบระบบดังกล่าวและใช้งานจริงโปรแกรมสหกรณ์ออมทรัพย์ให้บริการแบบศูนย์รวมที่มีมาตรฐาน มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพเหมาะสมกับการใช้งานของสหกรณ์สมาชิก เพื่อให้สหกรณ์สมาชิกมีโปรแกรมระบบงานสหกรณ์ออมทรัพย์ใช้บริหารจัดการรูปแบบเดียวกันและสามารถทำธุรกรรมกับธนาคารได้ตามเวลาจริง(Real time) โดยชสอ.ได้เลือกธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นพาร์ทเนอร์เพื่อใช้เครือข่ายเอทีเอ็มของธนาคาร มีการเชื่อมต่อระบบเอทีเอ็มของธนาคารและใช้บริการเครือข่ายสื่อสารข้อมูลที่เรียกว่า Private Link โดยเลือกใช้ของบริษัททีโอที จำกัด (มหาชน) ที่เป็นรัฐวิสาหกิจเหมือนกันและมีสหกรณ์ออมทรัพย์ด้วย ซึ่งได้มีการลงนามความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ทั้งสองพร้อมกัน
ด้านนายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจธนาคารกรุงไทยกล่าวว่า คาดว่าการทำธุรกรรมผ่านเครือข่ายเอทีเอ็มจะใช้งานได้ในเร็ว ๆนี้หลังจากที่มีสหกรณ์ออมทรัพย์นำร่องใช้โปรแกรมฯใหม่แล้ว 16 แห่ง ซึ่งในปีนี้คาดว่าจะมีสหกรณ์ออมทรัพย์เข้าร่วม 200 แห่ง สมาชิกสหกรณ์บุคคลทั้งที่มีบัญชีของธนาคารกรุงไทยหรือไม่มีบัญชีของกรุงไทยสามารถใช้บริการผ่านเอทีเอ็มของกรุงไทยที่มีอยู่ประมาณ 3,000 ตู้ ได้ผ่านบัตรที่เรียกว่า Co-brand คาดจะมีผู้ใช้บริการ 500,000 คน ซึ่งชุมนุมสหกรณ์ออมทรัพย์มีสมาชิกบุคคลอยู่ประมาณ 3,000,000 คน ส่วนจำนวนผู้ใช้บัตรเอทีเอ็มของกรุงไทยเองนั้นมี 14 ล้านใบ
ในโอกาสเดียวกันนายทรงพลได้ให้ความเห็นถึงภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศในขณะนี้ว่ายังทรงตัว แต่เป็นการเงียบตามฤดูกาล คาดว่าในช่วงไตรมาสที่ 3-4 จะฟื้นดีขึ้น การปล่อยสินเชื่อจะดีขึ้นซึ่งเป้าสำหรับปี 2559 นี้อยู่ที่ 1.5% ของจีดีพี หลายโครงการของภาครัฐได้ผลในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
“สำหรับประเด็นการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ของกรุงไทยนั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในขณะนี้ ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5% โดยปกติธนาคารจะมีการทบทวนดอกเบี้ยเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งการปรับเปลี่ยนจะขึ้นอยู่กับภาวะเงินเฟ้อ จีดีพีและเศรษฐกิจพื้นฐาน และเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่เปลี่ยน”