‘TOG’ รายแรกของอาเซียนโชว์
LeafEcoเลนส์ชีวภาพลดโลกร้อน
“ทีโอจี” จับมือ “มิตซุย เคมิคอล ” พัฒนาผลิตภัณฑ์ลดโลกร้อนตั้งแต่ต้นทาง เปิดตัวเลนส์ชีวภาพ “LeafEco” ผลิตด้วยวัตถุดิบจากปาล์มน้ำมันที่ปลูกในประเทศไทย ระบุช่วยลดการปริมาณปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 326 กิโลกลัม ต่อการผลิตเรซิน 100 กิโลกรัมเทียบกับกระบวนการผลิตเลนส์ปกติ หรือ 160 กรัม/แผ่น พร้อมนำเข้าตลาดรายแรกในอาเซียน หวังกระตุ้นสังคมให้ใส่ใจภาวะโลกร้อน และมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์เลนส์ชีวภาพ เพื่อสิ่งแวดล้อมสู่ตลาดระดับโลก เบื้องต้นทีโอจีมีแผนผลิต 10-12 ล้านแผ่นต่อปี มีส่วนแบ่งการขาย 40% ของยอดขายรวม
นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยออพติ–คอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตเลนส์สายตาในระดับสากล และเป็นผู้ผลิตเลนส์สายตารายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยว่า TOG ได้ร่วมมือกับ บริษัท มิตซุย เคมิคอล (Mitsui Chemical Inc.)ของประเทศญี่ปุ่นผลิตเลนส์สายตาที่ใช้วัตถุดิบจากปาล์มน้ำมัน ซึ่งสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)ในกระบวนการผลิตได้ถึง 326 กิโลกรัม ต่อการผลิตเรซิน 100 กิโลกรัม เมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิตเลนส์พลาสติกที่ใช้ปิโตรเคมีเปนวัตถุดิบ โดยไทยถือเป็นประเทศแรกในเอเชีย (ยกเว้นญี่ปุ่น) ที่ได้ทำการวิจัยพัฒนาเลนส์ชีวภาพชนิดนี้และเตรียมนำออกสู่ตลาดเชิงพาณิชย์ในปลายปี 2559
นายธรณ์ กล่าวถึงแนวคิดในการผลิตเลนส์ชีวภาพดังกล่าวว่า TOG ได้คำนึงถึงมิติด้านสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด ดังนั้นจึงพยายามเสาะหาวัตถุดิบชีวภาพมาทดแทนสารตั้งต้นจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีแบบเดิม ซึ่งจะช่วยลดมลพิษในอากาศอันเกิดจากการปล่อย CO2 ในกระบวนการผลิตได้ตั้งแต่ต้นทาง ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณสมบัติพิเศษของผลิตภัณฑ์ โดยได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบชีวภาพอย่าง บริษัท มิตซุย เคมิคอล ประเทศญี่ปุ่น จึงได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นเพื่อตอบสนองความต้องการและความสุขของผู้บริโภค รวมทั้งกระตุ้นเตือนให้คนในสังคมตระหนักถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย
ทั้งนี้เลนส์ชีวภาพดังกล่าวใช้ชื่อทางการตลาดว่าเลนส์ “LeafEco” ซึ่งปัจจุบันเลนส์ที่ผลิตได้จะอยู่ในกลุ่มที่มีค่าดัชนีหักเหแสงสูงสุด (Refractive Index 1.74) จึงทำให้เลนส์มีความบางเป็นพิเศษ จัดเป็นสินค้ากลุ่มพรีเมี่ยม (Ultra-High Index Lens) ที่เน้นเจาะตลาดประเทศที่ผู้บริโภคใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างสหรัฐอเมริกา และยุโรปตะวันตก โดยในเบื้องต้น TOG มีแผน ที่จะผลิตเลนส์ “1.74 LeafEco”ออกสู่ตลาดประมาณ 10-12 ล้านแผ่นต่อปี โดยจะมีส่วนแบ่งการขายเป็น 40% จากยอดขายรวมของเลนส์ที่ TOG ขายอยู่ทั้งหมดในตลาดเลนส์เพิ่มมูลค่า ( Value Added ) ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงมากในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา
และเมื่อคำนวณจากการลด CO2 ในอัตราประมาณ 160 กรัม/แผ่น TOG จะสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยCO2 สู่ชั้นบรรยากาศได้จากการผลิตเลนส์สายตาไม่น้อยกว่า 1.1 ล้านกิโลกรัมต่อปี โดยหวังกระตุ้นจิตสำนึกให้สังคมหันมาตระหนักถึงภาวะโลกร้อนมากขึ้น ทั้งนี้ มีข้อมูลจากการวิจัยระบุว่า 84% ของภาวะโลกร้อนเกิดจากปริมาณ CO2 ที่ถูกปล่อยออกมาในบรรยากาศ โดยการผลิตเลนส์พลาสติกชีวภาพจะลดการปล่อย CO2 160 g/แผ่น ซึ่งถ้าทั่วโลกหันมาใช้เลนส์สายตาที่ผลิตจากวัตถุดิบชีวภาพก็จะสามารถช่วยลดการปล่อยปริมาณ CO2 ได้มหาศาลต่อปี
ด้านนายซาโตชิ อิชิมูระ (Mr. Satoshi Ichimura) ซึ่งเป็นตัวแทนของ บริษัทมิตซุย เคมิคอล ผู้วิจัยและพัฒนาวัตถุดิบชีวภาพภายใต้โครงการ DoGreenTM กล่าวถึงความร่วมมือในการพัฒนาเลนส์ชีวภาพร่วมกับ TOG ว่า TOG เป็นผู้ผลิตเลนส์รายใหญ่ของโลก ที่มีความสนใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีความเชี่ยวชาญและถือเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมในการผลิตเลนส์ชีวภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้ร่วมกันพัฒนาวัตถุดิบชีวภาพสำหรับการผลิตเลนส์สายตาคุณภาพสูง “1.74 LeafEco” ขึ้น ซึ่งวัตถุดิบส่วนใหญ่จะเป็น “ปาล์มน้ำมัน” ซึ่งปลูกในประเทศไทยเป็นผลิตผลที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และเหมาะที่จะนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเลนส์มีคุณสมบัติเทียบเท่ากับเลนส์พลาสติกคุณภาพสูง และยังสามารถช่วยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ ในกระบวนการผลิตด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองบริษัทยังมีนโยบายความร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนาโครงการด้านสังคมในประเทศไทยอีกในอนาคต ทั้งนี้ในระหว่างวันที่ 8-11 มิถุนายน นี้ ทางมิตซุย เคมิคอล และTOG ได้ร่วมกันโชว์นวัตกรรมด้านสิ่งแวดล้อมในงาน “Eco-Products International Fair 2016” ณ Hall 106 ไบเทคบางนา ประเทศไทยด้วย