ซีไอเอ็มบี ไทยรุกสินเชื่อSMEs
มุ่งพาเปิดตลาดโซนอาเซียน
ซีไอเอ็มบี ไทยเดินหน้าสินเชื่อSMEs จัดทำกลยุทธ์พาลูกค้าไปเปิดตลาดอาเซียน ไม่หวังส่วนแบ่งตลาดมาก ชูจุดแข็งบริษัทแม่ซีไอเอ็มบีกรุ๊ปมีเครือข่ายอยู่ทั่วอาเซียน ทำให้มีข้อมูลประเทศต่าง ๆแบบรู้จริง ความต้องการ รวมกฎระเบียบการค้าการลงทุนของแต่ละประเทศ ระบุอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ก่อนพา SMEs ลุย คาด 6 เดือนรู้ผล ประเทศที่น่าลงทุนอาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ส่วนในไทยมองธุรกิจSMEs ยังเติบโตได้ตามจีดีพี ตั้งเป้าสินเชื่อSMEs ปี 2559 โตประมาณ 6-8% เอ็นพีแอลคุมไม่ให้เกิน 3%
นางวรีมน นิยมไทย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพาณิชย์ธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคารเดินหน้าจัดทำกลยุทธ์พาลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ในการไปเปิดตลาดอาเซียน โดยขณะนี้ได้ทำงานร่วมกันกับเครือข่ายของกลุ่มซีไอเอ็มบีในประเทศต่างๆอย่างใกล้ชิด เริ่มตั้งแต่กลยุทธ์ในภาพใหญ่ ไล่ลงมาจนถึงการแบ่งปันฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ที่จะช่วยให้ธนาคารเข้าไปนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินแก่ลูกค้าเอสเอ็มอีด้วยความเข้าใจ
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่กล่าวต่อว่า หัวใจคือ ความเข้าใจในความต้องการของลูกค้า ส่วนจุดแข็งคือ การพาเขาไปเปิดตลาดได้คล่องตัวและง่ายขึ้น ด้วยเครือข่ายอันแข็งแกร่งของซีไอเอ็มบีกรุ๊ปทั่วอาเซียน เรากำลังสื่อสารตรงนี้ออกไปให้ลูกค้ารับรู้ ว่าถ้าธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย คือ ประตูสู่อาเซียน แต่ช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ก็เริ่มเห็นลูกค้าSMEs ที่สนใจขยายการลงทุนไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น ตลอดจนนักลงทุนที่อยากเข้ามาลงทุนในไทย ซึ่งตอนนี้ธนาคารกำลังพัฒนาระบบและกระบวนการทำงานที่จะพาลูกค้าเชื่อมโยงเข้าสู่ตลาดอาเซียนได้ง่ายขึ้น โดยตั้งเป้าหมายจะเปิดตัวในปลายปีนี้
“การรุกอาเซียนไม่ได้ต้องการส่วนแบ่งตลาดมากนัก แต่จะใช้ความแข็งแกร่งของบริษัทแม่ที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศต่าง ๆ ทำให้มีข้อมูลประเทศนั้น ๆ จริงทั้งความต้องการ ตลอดจนกฎระเบียบการค้าและการลงทุน ขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ก่อนพาลูกค้า SMEs ไปลุยอาเซียน คาด 6 เดือนรู้ผล ประเทศที่น่าลงทุนอาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์และเวียดนาม”
ทั้งนี้ความร่วมมือระหว่างเครือข่ายธนาคารสมาชิกในอาเซียนของกลุ่มซีไอเอ็มบี นับเป็นข้อได้เปรียบในการให้บริการ อาทิ ธนาคารเต็มรูปแบบในกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว กัมพูชา ช่วยอำนวยความสะดวกแก่บริษัทไทยที่ไปลงทุน รวมถึงบริษัทในไทยที่ทำการค้า นำเข้า-ส่งออก ทั้งการเปิดบัญชี การทำธุรกรรมโอนเงินและชำระเงิน การเข้าไปเป็นพันธมิตรกับบริษัทท้องถิ่น ตลอดจนการเป็นพันธมิตรของธนาคารท้องถิ่นของธนาคารซีไอเอ็มบีเอง และล่าสุดคือ การเป็นตัวแทนให้บริการเงินสกุลบาท-ริงกิต เต็มรูปแบบ ระหว่างไทยและมาเลเซีย
รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายพาณิชย์ธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับลูกค้าทุกกลุ่ม ทั้ง SMEs รายใหญ่ รายกลางและรายเล็ก ปัจจุบัน ธนาคารแบ่งกลุ่มลูกค้า SMEs ออกเป็น 3 กลุ่ม คือ กลุ่ม 1 ยอดขายไม่เกิน 100 ล้านบาทต่อปี กลุ่ม 2 ยอดขาย 100-1,000 ล้านบาทต่อปี และกลุ่ม 3 ยอดขาย 1,000-3,000 ล้านบาทต่อปี การแบ่งดูแลลูกค้าตามขนาดช่วยให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
“ปัจจุบันลูกค้าSMEsของธนาคารฯมีประมาณ 3,000 ราย นับแต่ต้นปีถึงเดือนเมษายนปล่อยสินเชื่อใหม่ไปประมาณ 4,000 ล้านบาท ปี 2559 ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อเพิ่มที่ 6-8% จากยอดสินเชื่อคงค้าง 50,000 ล้านบาท ส่วนยอดหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(เอ็นพีแอล) จะคุมไม่ให้เกิด 3% ซึ่งปัจจุบันไม่เกิน 3% ผลจากการจัดสรรกลุ่มลูกค้าใหม่ ทำให้ดูแลลูกค้าได้ดีขึ้น เข้าช่วยเหลือได้ก่อนกลายเป็นเอ็นพีแอล”
สำหรับแนวโน้มธุรกิจเอสเอ็มในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ยังเห็นโอกาสเติบโตได้ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะปรับดีขึ้น จากปัจจัยบวกคือโครงการลงทุนภาครัฐที่กำลังเดินหน้า เสริมด้วยมาตรการกระตุ้นการลงทุนที่รัฐบาลมีแผนออกมาต่อเนื่อง
นอกจากนี้ พ.ร.บ.หลักประกันทางธุรกิจ พ.ศ.2558 ที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้วันที่ 2 ก.ค. นี้ เป็นปัจจัยสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของลูกค้าเอสเอ็มอี รวมถึงการสามารถนำทรัพย์สินอื่นนอกเหนือจากที่ดิน โรงงาน มาเป็นหลักประกันกู้เงิน ช่วยให้ขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่าง ลูกค้าที่มีศักยภาพ มีแบรนด์ที่เป็นที่รู้จัก มีทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงทรัพย์สินข้าวของในร้าน ทุกอย่างเหล่านี้ สามารถนำมาเป็นหลักประกันในการกู้เงินได้ จากเดิมไม่สามารถทำได้ จะได้เห็นมีลูกค้าขอกู้เงินได้มากขึ้น เพราะเดิมหลักประกันเป็นปัญหาสำคัญที่คู่กับเอสเอ็มอีมาโดยตลอด