กรมโรงงานฯผนึกสวทช.ลุย
อัพเกรดเทคโนฯโรงงาน-SMEs
กรอ.และสวทช.ร่วมพัฒนา “โครงการบูรณาการตรวจโรงงานเชิงสร้างสรรค์และส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม” ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ Thailand Spring Up ยกระดับเทคโนฯสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดใช้พลังงานและเพิ่มมูลค่ากากอุตสาหกรรม กรอ.ส่งผู้เชี่ยวชาญตรวจ 7,200 โรงงานโดยเฉพาะ SMEsทั่วไทยพร้อมนักวิชาการสวทช. เพื่อแก้ปัญหา เป็นแผนระยะ 2 ปี(59-60)ใช้งบฯว่า 40 ล้านบาท ตั้งเป้าผู้ประกอบการร่วมอย่างน้อย 100 ราย คาดสร้างผลตอบแทนมูลค่าเพิ่มกว่า 300 ล้านบาทหรือ 7.5 เท่าจากเงินลงทุน
ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) และรองโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โครงการบูรณาการตรวจโรงงานเชิงสร้างสรรค์และส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม (วทน.) เป็นโครงการที่เกิดจากข้อตกลงความร่วมมือ เรื่อง “ก้าวกระโดดประเทศไทย (Thailand Spring Up) ยกระดับเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย ลดการใช้พลังงาน และเพิ่มมูลค่าของกากอุตสาหกรรมให้แก่โรงงานอุตสาหกรรม” ระหว่างกรมโรงงานฯ และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ที่มีเจตนารมณ์ร่วมกันในการพัฒนาให้ภาคอุตสาหกรรมไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด ด้วยการส่งผู้เชี่ยวชาญของกรมโรงงานฯ พร้อมด้วยนักวิชาการจาก สวทช. เข้าไปวินิจฉัยปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการโรงงาน โดยเฉพาะโรงงานกลุ่ม SMEs ทั่วประเทศ
พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การลดต้นทุน การประหยัดพลังงาน และประกอบกิจการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งโครงการดังกล่าวมีแผนการดำเนินงานตั้งแต่ปี 2559-2560 มีงบประมาณการลงทุนกว่า 40 ล้านบาท คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้ภาคอุตสาหกรรมไทย 7.5 เท่าจากการลงทุน คิดเป็นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
ทั้งนี้ตั้งเป้าใน 2 ปี จะส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการโรงงานเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 100 ราย พร้อมสนับสนุนงบประมาณการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงงานรายละไม่เกิน 400,000 บาท ผ่านโปรแกรมสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมไทย (Innovation and Technology Assistance Program: ITAP) ของ สวทช.
ดร.พสุ กล่าวต่อว่า ในการดำเนินงานดังกล่าว กรมโรงงานฯ มีแผนปฏิบัติการตรวจโรงงานจำนวน 7,200 โรงงานทั่วประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาได้ตรวจโรงงานไปแล้ว 4,400 โรงงาน และอีก 2,800 โรงงานที่จะต้องดำเนินการตรวจโรงงานให้ครบตามแผนในปีนี้
ขั้นตอนการดำเนินงานคือ กรมโรงงานฯ ลงพื้นที่ตรวจโรงงานพร้อมเชิญชวนเข้าร่วมโครงการ จากนั้นจะคัดเลือกและส่งรายชื่อโรงงานที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกให้ สวทช. พิจารณาเพื่อเตรียมส่งนักวิชาการเข้าไปให้คำปรึกษาแนะนำเบื้องต้นด้วยองค์ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตของโรงงาน อาทิ การบริหารการผลิต กระบวนการผลิต วิเคราะห์ทดสอบ ฯลฯ รวมถึงกิจกรรมการอบรมสัมมนา และการจัดหาทรัพยากรสนับสนุนที่จำเป็น ซึ่งปัจจุบันมีผู้ประกอบการโรงงานสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการฯ แล้วจำนวน 116 รายในกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อุตสาหกรรมการแปรรูปโลหะ ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ แปรรูปอาหาร ยานยนต์และชิ้นส่วน และ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม โดยพบว่าโรงงานกลุ่มดังกล่าวมีความต้องการปรับปรุงด้านพลังงาน การเพิ่มประสิทธิภาพ และด้านสิ่งแวดล้อม ตามลำดับ โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปโลหะที่ส่วนใหญ่มีความต้องการปรับปรุงและพัฒนาในด้านพลังงานและประสิทธิภาพมากที่สุด
ที่ผ่านมานั้น สวทช. ได้นำงานวิจัยและนวัตกรรมช่วยส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs เพื่อช่วยโรงงานลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น อาทิ การพัฒนาระบบการผลิตแม่พิมพ์ขึ้นรูปโลหะ การพัฒนาโปรแกรมใช้งานอุปกรณ์สื่อสารไร้สายแบบสองทาง การวิจัยและพัฒนาเครื่องปั้นขนมไทย การพัฒนาการผลิตชิ้นส่วนเครื่องจักรกลและยานยนต์ด้วยระบบควบคุมคอมพิวเตอร์ การพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม หากผู้ประกอบการโรงงาน SMEs เข้าร่วมโครงการนี้แล้ว จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการพัฒนากระบวนการผลิตให้มีผลผลิตมากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการนำวิจัยและเทคโนโลยีไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยสู่ระดับสากลต่อไป
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักโรงงานอุตสาหกรรมรายสาขา 4 โทร. 0 2202 3967 หรือสอบถามข้อมูลโครงการอื่นๆ ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โทร. 0 2202 4014 หรือเข้าไปที่ www.diw.go.thหรืออีเมล pr@diw.mail.go.th