ซีพีเอฟมั่นใจธุรกิจฟื้นต่อเนื่อง
Q2กำไรเพิ่ม35%ปันผล50สต.
“ซีพีเอฟ” เผยรายได้จากการขายสำหรับไตรมาสที่ 2 ปี 2559 จำนวน 116,777 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 4,016 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 13% และ 35% ตามลำดับ ณ 30 มิถุนายน 2559 ซีพีเอฟลงทุนดำเนินกิจการใน 14 ประเทศ ไตรมาส 2 มีรายได้จากการขายในไทย 44,629 ล้านบาท และรายได้จากการขายจากในต่างประเทศ 72,148 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% และ 13% ตามลำดับ ซึ่งรายได้จากไทย จีนและเวียดนามเป็นสัดส่วน 77% ของรายได้จากการขายรวม
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหารบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) ได้กล่าวถึงผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ว่า ผลการดำเนินงานในภาพรวมปรับตัวดีขึ้นทั้งกิจการในประเทศไทยและในต่างประเทศ โดยเฉพาะธุรกิจสัตว์บกในประเทศเวียดนามและประเทศไทยที่พลิกฟื้นจากสถานการณ์ผลผลิตล้นตลาดของสินค้าเนื้อสัตว์ในปีที่แล้ว รวมถึงผลการดำเนินงานของธุรกิจสัตว์น้ำที่ฟื้นตัวจากผลกระทบที่ได้รับจากการระบาดของโรคตายด่วนหรือ Early Mortality Syndrome (EMS) ส่งผลให้อัตรากำไรเบื้องต้นของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจาก 13.5% เป็น 17.4% ในปีนี้และทำให้บริษัทมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้เพิ่มขึ้น 91%
แต่จากผลกระทบที่บริษัทจะต้องบันทึกรายการค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ค้างจ่ายอันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงวิธีคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลของกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับรอบปี 2553-2558 เป็นวิธีรวม ซึ่งเป็นการบันทึกการเปลี่ยนแปลงเพียงครั้งเดียวในไตรมาสที่ 2 ทำให้บริษัทกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 35%
สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งปีหลังของปี 2559 คาดว่าจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่ยอดขายจะเติบโตประมาณ 10-15% จากปี 2558 ส่วนแนวกลยุทธ์ให้ความสำคัญกับการขยายตลาดและการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตที่ให้ความใส่ใจในสังคมและสิ่งแวดล้อมรอบด้านเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยในปีนี้ได้มีการลงทุนเพิ่มในประเทศจีนในเดือนพฤษภาคมและประเทศศรีลังกาในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ในโอกาสเดียวกันนี้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดให้วันที่ 25 สิงหาคม 2559 เป็นวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (XD วันที่ 23 สิงหาคม 2559) และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 8 กันยายน 2559