รัฐบาลผลักดัน “พืชสมุนไพร”
พืชเศรษฐกิจหนุนThailand 4.0
งานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติ ครั้งที่ 13 ภายใต้แนวคิด “สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย” ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม – 4 กันยายน 2559 ณ อิมแพ็คเมืองทองธานี เปิดฉากแล้ว โดยมีพลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยมีผู้เข้าชมงานล้นหลาม ระบุรัฐบาลไทยมุ่งผลักดันสมุนไพรไทยเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ เพื่อขับเคลื่อน Thailand 4.0 ยกร่างแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทยฉบับแรก พ.ศ.2560-2564 หนุนส่งเสริมการพัฒนาสมุนไพรไทยทั้งระบบอย่างยั่งยืน เป็นที่ยอมรับนานาชาติ
พลเรือเอกณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติและการประชุมวิชาการประจำปีการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือกแห่งชาติ ครั้งที่ 13 ภายใต้หัวข้อ“สมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย อนาคตไทย : THAI HERBS FOR A BRIGHTER FUTURE OF THAILAND” พร้อมมอบประกาศเกียรติคุณและโล่รางวัลเชิดชูเกียรติหมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. 2559 และรางวัลพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ประจำปี พ.ศ. 2559
พลเรือเอกณรงค์ กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการแพทย์แผนไทย ซึ่งเป็นภูมิปัญญาการดูแลสุขภาพของชาติมาอย่างยาวนาน โดยกำหนดเป็นแผนยุทธศาสตร์ระดับชาติแล้ว 2 ฉบับ เพื่อขับเคลื่อนให้การแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก เป็นระบบบริการหลักของประเทศ คู่ขนานไปกับการแพทย์แผนปัจจุบัน และได้กำหนดเรื่องการส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทยให้เกิดประโยชน์สูงสุดเป็นส่วนหนึ่งในมาตรา 55 ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2559 อีกทั้ง นายกรัฐมนตรี ได้มอบในการประชุมคณะรัฐมนตรี วันที่ 11 สิงหาคม 2558 ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพัฒนาพืชสมุนไพรไทยให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับและสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทย
โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ 8 กระทรวงและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ยกร่างแผนแม่บทแห่งชาติว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรไทย ฉบับที่ 1 พ.ศ.2560-2564 ขึ้น ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วย 4 ยุทธศาสตร์ มีเป้าหมายเพื่อการกำหนดนโยบายและมาตรการส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาสมุนไพรไทยที่เป็นระบบ มีความยั่งยืน มีการวิจัยพัฒนาให้เป็นที่ยอมรับ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้และนำเข้ายาแผนปัจจุบันจากต่างประเทศ รวมทั้งผลักดันให้พืชสมุนไพรของไทย เป็น 1 ในพืชเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ขับเคลื่อนโมเดล Thailand 4.0 และนโยบายประชารัฐของรัฐบาล สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทยและโอกาสขยายช่องทางธุรกิจสมุนไพรไปยังประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
“การจัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ จะเป็นเวทีสื่อสาร สร้างความเข้าใจ และแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างสมุนไพรไทย เศรษฐกิจไทย และอนาคตไทย เพื่อให้ประชาชนตื่นตัว เห็นคุณค่าภูมิปัญญาและการแพทย์แผนไทย และสร้างความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้าน ให้มีคุณภาพ มาตรฐาน มีความยั่งยืนและมั่นคง ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุมและป้องกันโรค การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพ” พลเรือเอกณรงค์กล่าว
ด้านศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย กว่า 100 องค์กร จัดงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติฯ ครั้งที่ 13 เพื่อเป็นเวทีขับเคลื่อนและส่งเสริมภูมิปัญญาไทยและสมุนไพรไทยอย่างครบวงจร แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ด้านวิชาการ การวิจัย การบริการ นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยาแผนไทย การพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ การเปิดเจรจาทางธุรกิจ สร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพรไทย เกิดความมั่นคงด้านอุตสาหกรรมยาแผนไทยและสมุนไพร
กิจกรรมในงานประกอบด้วย 1.การประชุมวิชาการ 2.การประกวดผลงานวิชาการ 3.การจัดการความรู้เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทย การอบรมระยะสั้น 2 ชั่วโมงฟรี กว่า 30 หลักสูตร 4.การจัดแสดงสวนสมุนไพร 5.การจัดแสดงลานวัฒนธรรม พิธีกรรมการดูแลรักษาสุขภาพของ 4 ภาค การแพทย์พื้นบ้าน และวัฒนธรรมท้องถิ่นด้านสุขภาพ 6.โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ผสมผสาน อาทิ บริการนวด อบ ประคบ การฝังเข็ม กดจุดสะท้อนเท้า ปรับสมดุลโครงสร้างร่างกาย 7.การแสดงนวัตกรรมและงานวิจัย และกิจกรรมการส่งเสริมธุรกิจ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ขอเชิญประชาชนเที่ยวงาน ซื้อหาผลิตภัณฑ์คุณภาพ และรับบริการต่างๆ ได้ตั้งแต่วันนี้ – 4 กันยายน 2559 เวลา 10.00 น.-20.00 น. ณ ฮอลล์ 6-8 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็คเมืองทองธานี จ.นนทบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ได้ที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก โทร 02 149 5696, 02 591 7007 หรือ http://natherbexpo.dtam.moph.go.th
ด้านนายแพทย์สุริยะ วงศ์คงคาเทพ อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า ในปี 2559 นี้หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ พ.ศ. 2559 ได้แก่ นายชอย สุขพินิจ จ.สุรินทร์ อายุ 78 ปี มีความรู้ความชำนาญด้านการรักษากระดูกหัก อาการผิดสำแดง อาการพิษ มะเร็ง ริดสีดวง แมลงสัตว์กัดต่อย ถอนคุณไสย ส่วนพื้นที่ต้นแบบดีเด่นแห่งชาติด้านการแพทย์แผนไทย การแพทย์พื้นบ้าน และการแพทย์ทางเลือก ประจำปี 2559 มี 4 ประเภท โดยรางวัลชนะเลิศ ประเภทสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด ได้แก่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอำนาจเจริญ เขตสุขภาพที่ 10 ประเภทโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ได้แก่ โรงพยาบาลอุดรธานี เขตสุขภาพที่ 8 ประเภทโรงพยาบาลชุมชน ได้แก่ โรงพยาบาลท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เขตสุขภาพที่ 11และประเภทโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ได้แก่ รพ.สต.ท่าสะท้อน จ.สุราษฎร์ธานี เขตสุขภาพที่ 11
สำหรับรางวัลนายกรัฐมนตรี Prime Minister Herb Award (PMHA) มอบแก่สถานประกอบการและผลิตภัณฑ์ดีเด่นระดับประเทศ มี 4 ประเภท 1.ผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพร ได้แก่บริษัทบางกอกแล็ป แอนด์คอสเมติกจำกัด 2.ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ได้แก่Curmin Life Aging Day Cream SPF15/ Night Cream 3.ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสมุนไพร ได้แก่ ขาวลออเภสัช จำกัด และ4.ผู้ประกอบการดีเด่น ได้แก่ ยาการ์ดีน ยาสีฟันกระชาย น้ำลูกยอผสมน้ำผึ้ง โดยมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร