“อยุธยาสร้างบ้าน” รุกสู่ปี17
ชูผู้นำสร้างบ้านสไตล์ รีสอร์ท
บริษัท อยุธยาสร้างบ้าน ฉลองความสำเร็จกว่า 16 ปีของการทำธุรกิจ ประกาศเปิดตัวครั้งแรกพร้อมก้าวสู่ปีที่ 17 ด้วยธุรกิจภาพลักษณ์ใหม่กับแบรนด์ “AYB RESORT HOUSE” ตอกย้ำคุณภาพด้วยมาตรฐาน ISO 2015 มุ่งเป็นเจ้าตลาดรับสร้างบ้านสไตล์ รีสอร์ท ผสมผสานความทันสมัยบวกอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างลงตัว โชว์วิสัยทัศน์ใหม่ AYB 4S เพิ่มรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาระบบสารสนเทศเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทุกขั้นตอนและเสริมแกร่งธุรกิจด้วยจุดแข็งพัฒนาทีมช่างฝีมือสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น ตั้งเป้าโต 15%ต่อปี เป้ารายได้ปีนี้ที่ 160ล้านบาท
นายธีร์ บุญวาสนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท อยุธยาสร้างบ้าน จำกัด ผู้นำธุรกิจรับสร้างบ้านในสไตล์ รีสอร์ท (Resort Home) มาอย่างยาวนานจนเป็นที่รู้จักและเชื่อถือ ทั้งด้านคุณภาพ บริการ ตลอดจนฝีมือช่าง ภายใต้มาตรฐาน ISO 2015 เปิดเผยว่า ในปี 2559 นับเป็นปีสำคัญของบริษัทฯ ที่ได้ดำเนินธุรกิจครบรอบปีที่ 16 บริษัทฯ จึงเปิดตัวแบรนด์ใหม่ “AYB RESORT HOUSE”(เอวายบี รีสอร์ท เฮาส์) เพื่อสร้างความชัดเจน ตอกย้ำเอกลักษณ์สู่การเป็นผู้นำด้านการรับสร้างบ้านสไตล์ รีสอร์ท ที่สร้างบ้านพร้อมบรรยากาศแห่งความสุข มีความทันสมัย และผสมผสานอัตลักษณ์ด้านความเป็นไทยเข้าไปในชิ้นงานที่สร้างความโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถการันตีผลงานด้วยความสำเร็จที่มีมากว่า 16 ปี โดยใช้กลยุทธ์ AYB 4 S
ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยีมาต่อยอดเข้ากับจุดแข็งเดิม คือช่างฝีมือระดับดีเยี่ยมที่มีอยู่จากรุ่นสู่รุ่น เพื่อสร้างผลลัพธ์และประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า เช่น การพัฒนาออกแบบบ้านดีไซน์ใหม่และลวดลายต่างๆ รวมถึงการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทุกพื้นที่และครอบคลุมการให้บริการยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นวางรากฐานการเติบโตทางธุรกิจอย่างแข็งแกร่งและมั่นคงด้วยการกำหนดนโยบาย เพิ่มรายได้ สร้างมูลค่าเพิ่ม และลดรายจ่าย ล่าสุด บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการบริหารงานโครงการก่อสร้างขึ้นมาเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจให้ไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ โดยโปรแกรมดังกล่าวจะเข้ามาช่วยให้บริษัทฯ สามารถควบคุมประสิทธิภาพการทำงานทุกขั้นตอน นับตั้งแต่กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง กระบวนการควบคุมเวลาการก่อสร้าง กระบวนการใช้วัสดุให้คุ้มค่า รวมถึงกระบวนการด้านการควบคุมมาตรฐานฝีมือช่าง โดยขั้นตอนที่กล่าวมา สามารถลดขั้นตอนและต้นทุนในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ ได้เริ่มทดลองใช้โปรแกรมดังกล่าวแล้ว และคาดว่าจะสามารถประมวลผลได้อย่างชัดเจนในปี 2560
สำหรับกลยุทธ์การเพิ่มรายได้ บริษัทฯ เตรียมเร่งขยายตลาดและฐานลูกค้าให้ครอบคลุมทำเลศักยภาพมากขึ้นจากฐานลูกค้าเดิมในปัจจุบันที่ส่วนใหญ่ยังคงกระจุดตัวอยู่ในเขตภาคกลาง พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยนับแต่นี้บริษัทฯ จะมุ่งเจาะตลาดใหม่สู่พื้นที่เมืองท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ อาทิ หัวหิน ชลบุรี และเขาใหญ่ ตลอดจนถึงพื้นที่ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีโอกาสสูง เพราะได้รับอานิสงส์จากแผนการก่อสร้างทางหลวงพิเศษหมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี (มอเตอร์เวย์สายตะวันตก) ที่จะดึงดูดให้มีการกระจายตัวของการอยู่อาศัยไปสู่จังหวัดกาญจนบุรีมากขึ้น
“ที่ผ่านมาบริษัทได้รับการยอมรับแบบปากต่อปาก ไม่เคยทำการตลาดมาก่อน เพิ่งเปิดตัวครั้งนี้เป็นครั้งแรกเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตไปเรื่อย ๆ ปีละ 15% โดยบริษัทมุ่งรับสร้างบ้านในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างหรืออิสานตอนล่าง โดยมุ่งเจาะลูกค้ากลุ่มระดับกลาง-บน ลูกค้าส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ คิดเป็นสัดส่วน 60% 40% อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัด”
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังมุ่งสู่การพัฒนามูลค่าเพิ่มให้กับทุกส่วนงานอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการพัฒนาทีมช่างฝีมือ แม้ว่าในขณะนี้ บริษัทฯ จะมีทีมช่างฝีมือคุณภาพที่มีความเชี่ยวชาญอย่างยาวนานที่สืบทอดต่อจากรุ่นแรกนับจากการก่อสร้างบริษัทฯ จนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในวงการ โดยบริษัทฯ ได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาฝีมือช่าง เพื่อให้คงความเป็นมืออาชีพและความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านมีเอกลักษณ์ความเป็นไทย เพื่อวางรากฐานและสร้างทีมช่างฝีมือรุ่นใหม่พัฒนาฝีมือให้มีมาตรฐานทัดเทียมกัน ยกระดับสู่ความเป็นสากล ซึ่งมีผลบวกโดยตรงต่อการเพิ่มประสิทธิภาพทำให้งานของบริษัทฯ ให้มีคุณภาพและคงเอกลักษณ์อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวอีกด้วย
“เวลานี้บริษัทมีช่างฝีมมือประมาณ 160-180 คน ซึ่งมีค่าแรงอยู่ที่ประมาณ 500-700 บาทต่อวัน “
นายธีร์ กล่าวว่า ในส่วนของเป้าหมายรายได้ในปี 2559 บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตไว้อัตรา 15% หรือ 160 ล้านบาท จาก 120 ล้านบาทในปี 2558 โดยผลการดำเนินงานช่วง 6 เดือนแรกของปี พบว่ามีการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ แม้ว่าจะไม่ได้หวือหวามากนักด้วยบรรยากาศด้านเศรษฐกิจไทยโดยรวมที่ยังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ 6 เดือนมีรายได้ที่ 90 ล้านบาท แต่ยังมีสัญญากับลูกค้าอีกซึ่งมักเป็นการทำสัญญาระยะยาว
อย่างไรก็ดีธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพราะตลาดรับสร้างบ้านยังคงมีความต้องการสูง สอดรับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ให้ความนิยมสร้างบ้านสไตล์ รีสอร์ท ซึ่งเป็นบ้านที่ให้บรรยากาศของการพักผ่อนอย่างแท้จริงมากยิ่งขึ้น และในครึ่งปีหลังของปี 2559 มั่นใจว่าสามารถผลักดันรายได้ให้เติบโตได้ตามเป้าหมาย สำหรับปี 2560 มองเห็นโอกาสในการเติบโตที่ดียิ่งขึ้นเนื่องจากประสิทธิผลด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่กำหนด โดยคาดการณ์เป้าหมายรายได้จะเติบโตจากปีนี้ 15 – 20 % ถือว่าสวนทางภาวะตลาดโดยรวมที่มองว่ายังคงฟื้นตัวไม่หวือหวานัก
“ลูกค้าส่วนใหญ่สร้างบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไปซึ่งมีอยู่ประมาณ 50% ที่เหลือจะเป็นบ้านราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป ส่วนราคารับสร้างบ้านอยู่ที่ 22,000 – 26,000 บาทต่อตรม.”
ด้านนายรณกร พุทธิพงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสถาปัตย์และบริการลูกค้า บริษัท อยุธยาสร้างบ้าน จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาและดำเนินธุรกิจจากผลสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภค ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนที่มีความต้องการบ้านสไตล์ รีสอร์ท อยู่ในตลาดคือกลุ่มคนที่ให้ความสำคัญกับที่อยู่อาศัยที่เน้นความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ภายในและภายนอกตัวบ้าน ให้มีความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนในทุกมุมของบ้าน ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้รับสร้างบ้านมากกว่าด้านราคา โดยให้น้ำหนักในส่วนนี้ถึง 60% ในการตัดสินใจว่าจ้าง
นอกจากนั้นยังคงให้ความสำคัญด้านการออกแบบที่ตอบโจทย์และตรงใจ บริษัทฯ จึงไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาและออกแบบบ้านใหม่เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ล่าสุด ได้พัฒนาแบบบ้านใหม่ทั้งหมด 4 แบบ เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีรูปแบบการพักผ่อนที่แตกต่างกันครอบคลุมแนวคิดธรรมชาติ 4 รูปแบบ ดึงความโดดเด่นของธรรมชาติแต่ละอย่างออกมาอย่างชัดเจน ประกอบด้วย แบบที่ 1 Water Front นำเสนอแบบบ้านที่มีความสัมพันธ์กับสายน้ำ และทะเล แบบที่ 2 Hill Side นำเสนอแบบบ้านที่มีความสัมพันธ์กับภูเขา มีการเล่นระดับของพื้นดิน แบบที่ 3 Greenery นำเสนอแบบบ้านที่มีความสัมพันธ์กับป่า มีความสดชื่นด้วยต้นไม้และธรรมชาติสีเขียว และแบบที่ 4 Archicultural นำเสนอแบบบ้านที่มีความสัมพันธ์กับศิลปวัฒนธรรม ให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนอิงความสวยงามของประวัติศาสตร์
“บริษัทฯ มองโอกาสและจับตลาด บ้านสไตล์ รีสอร์ท มานานกว่า 6 ปี ซึ่งตลอดเวลา บริษัทฯ ไม่หยุดนิ่งและคิดพัฒนาการออกแบบบ้านใหม่ที่ตอบทุกโจทย์ความต้องการของลูกค้า แต่ยังคงจุดเด่นของบริษัทฯ ด้วยแบบบ้านที่มีเอกลักษณ์ด้านผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเป็นไทยลงในรายละเอียดของบ้านทุกหลัง โดยลูกค้าเอง สามารถมีส่วนในการออกแบบ เลือกสี เลือกวัสดุ ให้ได้ความรู้สึกในการมีส่วนร่วมของที่มาของบ้าน ที่ตัวเองอยู่อาศัยมากขึ้น รวมถึงบริษัทฯ จะใส่ใจในรายละเอียดปลีกย่อยของบ้านแต่ละหลังให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ จึงมั่นใจว่าแบบบ้านจะไม่ซ้ำใคร มีความทันสมัย ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย และยังคงไว้ด้วยกลิ่นไอของความเป็นไทยอย่างลงตัว” นายรณกรกล่าว
นายธีร์ยังกล่าวในตอนท้ายว่า “เวลานี้ผู้ต้องการสร้างบ้านสไตล์รีสอร์ตในแบบบ้านอื่นนอกเหนือจาก 4 แบบใหม่ สามารถติดต่อมาได้ ซึ่งจะได้ส่วนลด 12% หมดเขตสิ้นเดือนกันยายน 2559 นี้”