สธ.เปิด “คลินิกเวชศาสตร์”
ดูแลสุขภาพ 9เมืองท่องเที่ยว
กระทรวงสาธารณสุข เปิดคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว 9 แห่ง ในเขตเศรษฐกิจพิเศษและเมืองท่องเที่ยวสำคัญ รับอุตฯท่องเที่ยวที่คาดว่า ปี 2563 จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มเป็น 44.5 ล้านคน หวังป้องกัน ควบคุมโรคและภัยสุขภาพที่เกิดจากการเดินทางและท่องเที่ยว ให้บริการคำปรึกษาและดูแลสุขภาพก่อนและหลังเดินทาง ฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ ออกใบรับรองแพทย์ และรักษาโรคที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยว เผยข้อมูลพบร้อยละ 55 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศกำลังพัฒนาเกิดปัญหาสุขภาพ ราว1 คนใน 100,000 คนเสียชีวิต
ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรคได้เร่งรัดพัฒนางานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยในปี 2558 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาในไทยจำนวน 29.9ล้านคนและคาดว่าในปี 2563 จะเพิ่มเป็น 44.5 ล้านคน และมีคนไทยออกไปท่องเที่ยวนอกประเทศมากกว่า 3.4 ล้านคน ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลพบว่า การเดินทางระหว่างประเทศ มีโอกาสเจ็บป่วยได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างอาทิ ด้านสุขภาพของผู้เดินทาง ได้แก่ วัย โรคประจำตัว ด้านพฤติกรรมการเดินทางได้แก่ กิจกรรม ที่พัก และด้านพื้นที่ได้แก่ พื้นที่สูง พื้นที่ที่มีโรคระบาดหรือโรคประจำถิ่น โดยความเสี่ยงจะเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่ที่สิ่งอำนวยความสะดวกไม่เพียงพอ ความสะอาดและระบบสุขาภิบาล การบริการทางการแพทย์ การป้องกันควบคุมโรคที่ไม่เพียงพอ รวมทั้งอุบัติเหตุ ก็เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยและเสียชีวิต
ข้อมูลจากการศึกษาพบว่า ร้อยละ 55 ของนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศกำลังพัฒนาจะเกิดปัญหาสุขภาพ โดยร้อยละ 8 ของนักท่องเที่ยวต้องพบแพทย์ และพบว่าประมาณ 1 คนใน 100,000คนเสียชีวิต ซึ่งโรคและภัยสุขภาพเหล่านี้ สามารถบริหารจัดการและป้องกันได้ ถ้ามีความรู้ความเข้าใจและเตรียมตัวที่ดี กระทรวงสาธารณสุขได้มอบให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการเพื่อรองรับปัญหาดังนี้1.จัดตั้งสถาบันเวชศาสตร์ป้องกันศึกษา กรมควบคุมโรค ทำหน้าที่ ฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว รวมทั้งจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้น ซึ่งเป็นการพัฒนาศักยภาพกำลังคนรองรับงาน 2.พัฒนารูปแบบคลินิกเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว อย่างเป็นรูปธรรมและมีมาตรฐาน จำนวน 9 แห่ง ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และขยายไปพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ
(ภาพจาก-www.hfocus.org)
ด้านนพ.อำนวย กาจีนะ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรคได้เร่งรัดการจัดตั้งคลินิก เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และแหล่งท่องเที่ยว จำนวน 9 แห่ง ได้แก่ สถาบันบำราศนราดูร จ.นนทบุรี ศูนย์วัณโรคเขต 1 จ.เชียงใหม่ รพ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ศูนย์หาดใหญ่นวรัตน์ จ.สงขลา รพ.หนองคาย รพร.เชียงของ จ.เชียงราย รพ.นครพนม รพ.มุกดาหาร และสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กทม. ซึ่งจะเปิดดำเนินการในวันที่12 กันยายน นี้
โดยรูปแบบการให้บริการมีดังนี้ 1.พัฒนาโปรแกรมข้อมูลงานเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว เพื่อเชื่อมโยงคลินิกเข้าด้วยกันเป็นเครือข่าย ทราบสถานการณ์ในพื้นที่ และในภาพรวมของประเทศ 2.จัดทำคู่มือการดำเนินงานสำหรับแพทย์ บุคลากรค้นคว้าหาความรู้ได้ง่าย 3.จัดบริการตามมาตรฐานงานคลินิก ของกรมควบคุมโรค ให้บริการคำปรึกษาและดูแลสุขภาพก่อนและหลังเดินทาง การฉีดวัคซีนป้องกันโรค ให้คำแนะนำการป้องกันโรค ตรวจสุขภาพและออกใบรับรองแพทย์ก่อนเดินทาง รวมถึงการรักษาโรคที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยว 4.จัดระบบการให้คำปรึกษาก่อนเดินทางแบบออนไลน์