สายด่วนฯพบไทยติดเหล้า5ล้าน
2%เข้าบำบัด13.68%ก่อรุนแรง
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.)ร่วมกับ ศูนย์ศึกษาปัญหาสุรา สายด่วน1413จัดกิจกรรม “ตลาดสดชวนพักตับ…งดเหล้าครบพรรษา” ในงานมีการแสดงละครเร่และเดินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ชวนคนพักตับและกิจกรรมเปิดบูทให้คำปรึกษาผู้ที่อยากเลิกเหล้าชี้ปัจจุบันมี 5 ล้านคนติดเหล้า มีเพียง 2% เข้าบำบัด ส่วน500 ตัวอย่างจากตลาดสด 10 แห่งที่ร่วมโครงการ พบ 22.4%ดื่มสุราโดยส่วนใหญ่ 46.43%ดื่มตามโอกาสสำคัญๆ 13.68% เคยก่อเหตุวิวาททำร้ายร่างกายผู้อื่น
เภสัชกร สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากตลาดสดที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด10แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้แก่ ตลาดหทัยมิตร มีนบุรี อตก. รังสิต พิบูลย์วิทย์ อ่อนนุช นัมเบอร์วัน ใหม่ทุ่งครุ วัฒนานันท์ และบางขุนศรี ซึ่งเป็นการนำร่องและเตรียมขยายไปยังตลาดอื่นๆ เพื่อให้เกิดกระแสเชิญชวนพ่อค้าแม้ค้าและประชาชนทั่วไปเกิดความภูมิใจงดเหล้าครบพรรษา และตั้งใจงดต่อเนื่องหลังออกพรรษา ที่สำคัญผู้ที่มาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ได้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมลดละเลิก เกิดความเข้าใจที่ถูกต้อง ได้รับคำปรึกษาเกิดแนวทาง วิธีการเลิกดื่มสุรา
จากผลสำรวจ“พฤติกรรมการดื่ม การงดเหล้าเข้าพรรษาของผู้ประกอบการและผู้ซื้อในตลาด” จากกลุ่มตัวอย่าง500ราย ในตลาดกทม.ทั้ง10แห่ง พบว่า 22.4%ดื่มสุราโดยส่วนใหญ่ 46.43%ดื่มตามโอกาสสำคัญๆ 31.25%ดื่มเฉลี่ยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง นิยมดื่มกับกลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อนร่วมงาน และดื่มช่วงที่มีเวลาว่าง เนื่องจากต้องการสังสรรค์ แก้เหนื่อยคลายเครียดส่วนค่าใช้จ่ายในการดื่มส่วนใหญ่อยู่ที่300-500บาทขึ้นไปต่อสัปดาห์ ที่น่าห่วงคือ 13.68% ยอมรับว่าดื่มแล้วเคยก่อเหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น นอกจากนี้ปัญหาใหญ่ที่ตามมาคือเสียสุขภาพ ทำงานไม่ได้ และมีหนี้สินตามลำดับ 62.8% มองว่าเทศกาลเข้าพรรษาส่งผลให้งดดื่มสุราอีกทั้ง 88.2% มองว่าผู้ที่เลิกดื่มถือเป็นผู้ที่ชนะใจตนเอง
นายธวัชชัย กุศล รองหัวหน้าศูนย์ปรึกษาปัญหาสุรา1413กล่าวว่า ในช่วงเวลาปกติแต่ละเดือนจะมีผู้โทรมาขอคำปรึกษาในการเลิกเหล้าเฉลี่ยเดือนละ 3,000 ราย และในช่วงเข้าพรรษาจะเพิ่มขึ้นเท่าตัว เฉลี่ยเดือนละ 6,000ราย เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง อายุเฉลี่ย 25ปี ขึ้นไป จากการดำเนินงานพบว่า ญาติหรือผู้ใกล้ชิดโทรเข้ามาขอคำปรึกษา มากกว่าผู้ที่ติดสุรา ซึ่งคำถามส่วนมากคืออยากเลิกสุราจะต้องทำอย่างไร หากมีอาการหงุดหงิดควรทำอย่างไร และวิธีการเลิกดื่มสุราให้ปลอดภัยทำอย่างไร
“ขณะนี้มีผู้ติดสุราแล้ว5ล้านราย มีเพียง2%เท่านั้นที่เข้าสู่กระบวนบำบัดรักษา และผู้ที่ติดสุรามีเพิ่มขึ้นกว่าปีละประมาณ1%ทำให้ผู้ที่โทรปรึกษาเพิ่มตามไปด้วย ยิ่งกลุ่มเยาวชนที่มีอายุน้อยมีแนวโน้มการดื่มเพิ่มมากขึ้น จะยิ่งเสี่ยงที่จะติดสุราเรื้อรังในอนาคต อย่างไรก็ตามทางศูนย์ฯยินดีให้บริการ นอกจากจะให้คำปรึกษาแล้ว จะมีการติดตามเป็นระยะ สำหรับใครที่ต้องการเลิกสุราอย่างถูกวิธี หรืออยากมาเรียนรู้วิธีป้องกัน ขอให้โทรมาได้ที่สายด่วน1413”นายธวัชชัย กล่าว
ด้านนางสาวชนกนาค แก้วสะเทือน อายุ51ปี แม่ค้าขายน้ำดื่ม ตลาดหทัยมิตร กล่าวว่า ดื่มเหล้าตั้งแต่เป็นวัยรุ่น ดื่มกับเพื่อนเกือบทุกวันตู้เย็นที่บ้านเต็มไปด้วยเบียร์ ดื่มเรื่อยมาจนติด ถึงขนาดหมดเบียร์วันละ 1 ลังหรือบางวันก็มากกว่านั้น กระทั่งป่วยเป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม ต้องใส่น็อตที่คอ และต่อมไทรอยด์เป็นพิษ แม้อาการตอนนั้นจะหนักมากแต่ก็ยังไม่เลิกดื่ม ทรัพย์สินที่ดินกว่า7แสนก็ขายมาซื้อเหล้าจนหมด ตอนที่ป่วยเพื่อนฝูงหายหน้าในที่สุดก็เริ่มคิดทบทวนถ้าไม่เลิกดื่มจะทำลายชีวิตไปกว่านี้ จนสามารถเอาชนะใจตัวเองเลิกเหล้าได้สำเร็จ
“ตอนนี้อยู่ระหว่างการรักษาตัว ต้องกินยาและพบแพทย์ตามนัด ตั้งแต่เลิกเหล้าร่างกายเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น มีแรงทำงานเก็บเงิน ถ้าไม่ใช่เพราะติดเหล้าป่านนี้คงมีบ้านหลายหลังไปแล้ว ทุกวันนี้ยังเข้าสังคมเจอเพื่อนฝูง แต่เลือกที่จะไม่ดื่ม หันมาดื่มน้ำเปล่าหรือน้ำผลไม้แทน ซึ่งก็พยายามชวนเพื่อนในตลาดเลิกเหล้าเพื่อสุขภาพที่ดีกลับคืนมา
อยากฝากว่า ชีวิตที่ผ่านมาเอาคืนไม่ได้ แต่ให้จำไว้เป็นบทเรียน เหล้าอยู่ที่ร้าน ถ้าเราไม่เดินไปหา มันไม่หาเราเด็ดขาด รถมอเตอร์ไซค์เสียยังมีอะไหล่เปลี่ยน แต่กับคนมันไม่มี ต้องตัดทิ้งอย่างเดียว” นางสาวชนกนาค กล่าว