คกก.สานพลังประชารัฐD4-SCG
เสริมความรู้การค้า-ลงทุนกัมพูชา
คณะกรรมการสานพลังประชารัฐ ด้านการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ (D4) ร่วมกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และเอสซีจี โดยการสนับสนุนจากหอการค้าและสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย จัดงานเสวนาให้ความรู้ผู้ประกอบการไทยพร้อมทำธุรกิจส่งออกและลงทุนกัมพูชา ชี้ 10 ปีที่ผ่านมาไทยส่งออกไปกัมพูชาเฉลี่ย 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี โต 21% ต่อปี ส่วนเศรษฐกิจกัมพูชาโตเร็วเฉลี่ย 8% ต่อปี ต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคสูง จึงเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดงาน “Grow Together with our Best Neighbor, Cambodia” : เสริมความรู้ คู่การลงทุน ในประเทศเพื่อนบ้าน “กัมพูชา” มีขึ้นภายใต้คณะทำงานสานพลังประชารัฐ ด้านการส่งออกและการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ (D4) เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เชิงลึกกับผู้ประกอบการไทยเกี่ยวกับช่องทางการขยายธุรกิจไปยังตลาดกัมพูชา ที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์มีนโยบายเร่งผลักดันการกระชับความสัมพันธ์ในกลุ่มประเทศ CLMVT อย่างต่อเนื่อง บนแนวคิด “ประสาน แบ่งปัน มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจากพันธมิตรทั้ง 4 ประเทศ โดยมีการจัดงาน CLMVT Forum ประจำทุกปี โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพระหว่าง 5 ประเทศสมาชิก ซึ่งปี 2560 นี้กัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพ
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ยอดการส่งออกสินค้าไทยไปกัมพูชาขยายตัวอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 21 ต่อปี กัมพูชาอยู่ในช่วงเร่งรัดพัฒนาประเทศ ทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดกระแสการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คนที่มีความเป็นสังคมเมืองมากขึ้น มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสทางธุรกิจที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
ผู้ประกอบการไทยต้องเตรียมความพร้อมและปรับตัวเชิงรุก เพื่อชิงความได้เปรียบในการแข่งขัน ทั้งการหาพันธมิตรทางธุรกิจ การลงทุนหรือขยายฐานการผลิต การยกระดับมาตรฐานและคุณภาพสินค้า การสร้างจุดแข็งให้ตัวเอง ตลอดจนการพัฒนาองค์ความรู้ในด้านข้อกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ เพื่อการลดความเสี่ยงทางธุรกิจ และใช้ประโยชน์จากนโยบายเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนของภาครัฐ งานสัมมนานี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับผู้ประกอบการไทยรายใหม่ๆ ที่สนใจไปเจาะตลาดในกัมพูชา ต้องขอขอบคุณเอสซีจี ที่ได้จัดเวทีเพื่อให้ความรู้และข้อมูลเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญอย่างแท้จริงของตลาดกัมพูชา
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกสินค้าไปกัมพูชาเป็นมูลค่าเฉลี่ย 4,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โต 21% ต่อปี แม้ในช่วง 8 เดือนแรกจะติดลบ 17% แต่มีสาเหตุมาจากราคาน้ำมันลดต่ำลง แต่ในเวลานี้กัมพูชาอยู่ในช่วงเร่งพัฒนาประเทศทำให้เศรษฐกิจโตเร็วเฉลี่ย 8% ต่อปี มีความต้องการสินค้าอุปโภคบริโภคสูง จึงเป็นโอกาสของนักธุรกิจไทย เพราะชาวกัมพูชามีความนิยม เชื่อมั่นในสินค้าไทย มีความต้องการทั้งสินค้าอาหาร สินค้าเกษตร สินค้าเสริมความงาม และอื่น ๆ
ดังนั้นจึงต้องเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยโดยส่งเสริมความรู้ในการไปทำธุรกิจ ช่องทาง กฎระเบียน ต้องขอบคุณเอสซีจีที่จัดงานนี้ขึ้น ซึ่งเมื่อภาคเอกชนไปลงทุนประกอบธุรกิจ พบเจอปัญหาใดให้กลับมาบอกภาครัฐเพื่อจะได้แก้ปัญหาให้ตรงจุดต่อไป”
สำหรับงานเสวนาแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรก “Getting to know Cambodia” เพื่อให้ความรู้ในภาพกว้างเกี่ยวกับกัมพูชา โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูตไทย ประเทศกัมพูชา พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ นายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ Senior Executive Vice President – Business Development ของ Central Group ในฐานะประธานสภาธุรกิจไทย-กัมพูชา และ ดร. ใกล้รุ่ง อามระดิษ อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญทางด้านประวัติศาสตร์ สังคม วัฒนธรรมของประเทศกัมพูชา
นายณัฏฐวุฒิ โพธิสาโร เอกอัครราชทูตไทย ประเทศกัมพูชากล่าวว่า “ความสัมพันธ์ไทยและกัมพูชาแม้ในอดีตจะมีปัญหาขัดแย้งกันบ้าง แต่ในปัจจุบันถือว่า มีความสัมพันธ์ในทุกมิติอยู่ในระดับที่ดีมาก เรามีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกัน นอกจากการค้าแล้ว ในด้านการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวกัมพูชามาไทยปีละประมาณ 500,000 คน รวมถึงมารักษาสุขภาพและเสริมความงาม ธุรกิจกัมพูชาเข้ามาหาคอนเทนต์ละครและภาพยนตร์ไทย
มีการคมนาคมสะดวกขึ้น ที่สำคัญกัมพูชามีนโยบายการเงินที่ก้าวหน้าสุด เพราะมีการขายเข้า-ออกเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสะดวกในการทำธุรกิจ ไม่ต้องเสียเวลาในการแลกเปลี่ยนเงินไปมา”
ส่วนการเสวนาในช่วงที่สอง “How to be successful in Cambodia market” เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึกและประสบการณ์การค้าการลงทุนในกัมพูชา ได้รับเกียรติจากวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถจากภาครัฐและภาคเอกชน ได้แก่ คุณจีรนันท์ วงษ์มงคล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตไทย ประเทศกัมพูชา คุณอรนุช ผการัตน์ ผู้บริหารบริษัท อินทรา แม่โขง จำกัด และบริษัท เฟิร์ส ทราเวล จำกัด ในฐานะประธานสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจไทยในกัมพูชา คุณวรทัศน์ ตันติมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โลจิสติกส์ วัน จำกัด และคุณสมหวัง แม้นพิมลชัย Country Director ประจำประเทศกัมพูชา เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
นายสนั่น อังอุบลกุล หัวหน้าทีมภาคเอกชน คณะทำงานสานพลังประชารัฐ ด้านการส่งออกและการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ (D4) กล่าวเสริมว่า “คณะทำงานฯ ตั้งเป้าผลักดันการส่งออกในปี 2559 ให้เติบโตร้อยละ 5 โดยได้จัดตั้ง Team Thailand + เพื่อร่วมผลักดันการส่งออกและหาโอกาสในขยายตลาดและการลงทุนในต่างประเทศ การส่งเสริมการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน การจัดกิจกรรม “พี่จูงน้อง” โดยให้ภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในแต่ละประเทศ มาแบ่งปันประสบการณ์และชี้ช่องการค้าและการลงทุน
นอกจากนี้ เรายังศึกษากฎระเบียบเกี่ยวกับการค้าในต่างประเทศและกรอบการค้าต่างๆ และจัดทำ Knowledge Tank เพื่อรวบรวมข้อมูลความรู้เพื่อส่งเสริมการค้าและการลงทุนในต่างประเทศ โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ สำหรับงานเสวนาในครั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้รับความสนับสนุนจากเอสซีจี ในฐานะองค์กรเอกชนที่มีประสบการณ์ เพื่อเจาะลึกข้อมูลการส่งออกและการลงทุนในประเทศกัมพูชา”
ด้านนายอารีย์ ชวลิตชีวินกุล Vice President – Regional Business เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง ในฐานะกรรมการทีมภาคเอกชน คณะทำงานสานพลังประชารัฐ ด้านการส่งออกและการส่งเสริมการลงทุนในต่างประเทศ (D4) และเจ้าภาพร่วมของงานเสวนาในครั้งนี้ ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า “เอสซีจี เห็นความสำคัญของการส่งเสริมการส่งออกและการลงทุนในต่างประเทศ ตามแนวทางของคณะทำงานประชารัฐ โดยประเทศกัมพูชาถือเป็นตลาดการค้าสำคัญของเอสซีจีมาเป็นเวลาหลายสิบปี ทั้งการก่อตั้งโรงงานปูนซีเมนต์ การขยาย ตลาดสินค้าวัสดุก่อสร้าง รวมทั้งมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ด้านการเกษตรและยานยนต์ เรามีประสบการณ์และมีเครือข่ายทางธุรกิจอยู่ทั่วทุกภูมิภาคในกัมพูชา ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีประโยชน์ช่วยสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทย สามารถเข้าไปลงทุนและขยายตลาดสินค้าไทยในประเทศกัมพูชาได้ดียิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”