TMBมองเศรษฐกิจไทยโตต่อ
หลายอุตฯพร้อมสู่ไทยแลนด์4.0
TMB Analytics เปิดมุมมองแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี2559โต3.3% ปี 2560 โตต่อเนื่อง 3.5% จากแรงขับเคลื่อนมากขึ้น ทั้งการบริโภคภาคเอกชนดีขึ้นจากการบริโภคสินค้าคงทน รายได้เกษตรกรดีขึ้น การอัดฉีดจากภาครัฐเม็ดเงินราว 2 แสนล้านบาท ลงโครงสร้างพื้นฐานและท่องเที่ยวยังโต พร้อมระบุอุตฯการแพทย์ ขนส่งและโลจิสติกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูปพร้อมและมีศักยภาพต่อยอดสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ไม่ยาก แม้ต้องระวังปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจโลก
ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ รองผู้อำนวยการ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีหรือ TMB Analytics คาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 ยังคงขยายตัวต่อเนื่อง หนุนด้วยเศรษฐกิจจีนที่แม้จะเติบโตช้ากว่าในอดีตจากการปฏิรูปเศรษฐกิจ แต่ยังเป็นเศรษฐกิจใหญ่ที่มีการเติบโตดี ฝั่งสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการจ้างงานที่แข็งแกร่ง แต่ยังคงมีประเด็นการเลือกตั้งที่อาจสร้างความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง
ด้านยูโรโซนยังคงถูกรุมเร้าจากความไม่แน่นอนเรื่อง Brexit ควบคู่กับปัญหาการเมืองที่อาจเกิดจากการเลือกตั้งในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี ทำให้ภาพการฟื้นตัวเป็นไปอย่างช้าๆ เช่นเดียวกับญี่ปุ่นที่ยังคงเผชิญกับอัตราเงินเฟ้อหดตัวสะท้อนนโยบายอาเบะโนมิกส์ยังไม่ประสบความสำเร็จจำเป็นที่จะใช้นโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2560
นายนริศ สถาผลเดชา ผู้อำนวยการอาวุโสศูนย์วิเคราะห์ฯ กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปี2559 กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการบริโภคภาคเอกชนได้แรงหนุนเพิ่มจากรายได้ภาคเกษตรที่ปรับดีขึ้น การลงทุนภาครัฐ ขยายตัวต่อเนื่องจากมาตรการเร่งเบิกจ่ายโครงการลงทุนขนาดเล็ก ที่มีมูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2559 เช่นเดียวกับภาคส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวเป็นบวกอ่อนๆในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ทั้งปี 2559 มูลค่าส่งออกหดตัวเพียงร้อยละ 1.8 ขณะที่ ภาคท่องเที่ยวยังคงขยายตัวดีต่อเนื่อง แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญของตลาดนักท่องเที่ยวจีน ทำให้ประเมินเศรษฐกิจไทยในปี 2559 ขยายตัวที่ร้อยละ 3.3 จากเดิมคาดที่ร้อยละ 2.8
ส่วนทิศทางเศรษฐกิจไทยในปี 2560 มีแนวโน้มขยายตัวได้ต่อเนื่องที่ร้อยละ 3.5 โดยทุกองค์ประกอบมีแรงขับเคลื่อนมากขึ้น การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับดีขึ้นต่อเนื่อง ด้วยปัจจัยบวกจากการบริโภคสินค้าคงทนเริ่มกลับมาและรายได้เกษตรกรมีแนวโน้มดีขึ้นจากปัจจัยด้านผลผลิตเป็นหลัก ในส่วนของการใช้จ่ายภาครัฐยังคงเป็น เครี่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในส่วนรถไฟฟ้า มอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ คาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนราว 2 แสนล้านบาทในปีนี้ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ยังเหลือการเบิกจ่ายในส่วนที่เป็นวงเงินสินเชื่อราว 1.7 แสนล้านบาท อาทิ โครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SMEs โครงการบ้านประชารัฐ โครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยผู้มีรายได้น้อย
ด้านการลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มปรับดีขึ้นเช่นกัน แม้จะยังเป็นระดับที่ต่ำก็ตาม โดยเป็นผลบวกเชื่อมโยงจากการลงทุนภาครัฐ และภาคการส่งออกที่มีแนวโน้มพลิกกลับมาขยายตัวได้เป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ร้อยละ 2.3 ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้า นำโดยตลาดอาเซียน โดยเฉพาะ CLMV ที่คาดว่ามีแนวโน้มสดใสอย่างชัดเจน จากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ขณะที่ ตลาดหลักอย่าง จีน ยุโรป ญี่ปุ่น ยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างการผลิตของจีน ที่จะส่งผลลบต่อสินค้าไทยไปจีนไม่น้อยกว่าร้อยละ 66 ในส่วนของภาคการท่องเที่ยว ยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง แม้ตลาดนักท่องเที่ยวจีนจะลดความร้อนแรงลงจากปีที่ผ่านๆมา แต่ตลาดอื่นๆ ทั้งยุโรป อาเซียนขยายตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดจะอยู่ที่ 35 ล้านคน เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 6
นอกจากนี้ ศูนย์วิเคราะห์ฯยังมองธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตดีในปี 2560 ประกอบด้วย ธุรกิจการแพทย์ การขนส่งและโลจิสติกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป ซึ่งจัดเป็นกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมที่มีความพร้อมและมีศักยภาพในการยกระดับการพัฒนาให้สูงขึ้น หรืออีกนัยหนึ่งคือสามารถก้าวไปสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้ก่อนกลุ่มอื่นๆ อาทิ ผลิตภัณฑ์เกษตรและเกษตรแปรรูป อาหารและเครื่องดื่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งปัจจุบันกระบวนการผลิตยังต้องได้รับการพัฒนาเพื่อเข้าสู่เทคโนโลยีขั้นสูงก่อน ผู้ประกอบการจึงต้องเร่งปรับตัวให้เข้าเทรนด์โลก โดยมีภาครัฐเข้ามาสนับสนุนผ่านการให้สิทธิประโยชน์ด้านต่างๆ และการส่งเสริม R&D