จดทะเบียนธุรกิจต.ค.ลด16%
มี5,092 รายคาด59ทะลุ6หมื่น
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยการจดทะเบียนธุรกิจและผลการให้บริการประจำเดือนตุลาคม 2559 ลดลงไป16% เทียบกับกันยายนก่อนหน้า มีจำนวน 6,076 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ทั้งสิ้น 14,720 ล้านบาท ลดลงไป 34% แต่คาดว่า ทั้งปี 2559 จะมีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใกล้เคียงกับปี 2558 คือ สูงเกิน 60,000 ราย เหตุจากภาครัฐมีมาตรการจูงใจหลายอย่าง อาทิ ยกเว้นภาษีเงินได้ คงภาษีมูลค่าเพิ่ม7% ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์หนุนบุคคลธรรมดาจดนิติบุคคล
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดเผยว่า ผลการจดทะเบียนธุรกิจ เดือนตุลาคม2559 มีดังนี้
• จำนวนการจดทะเบียน มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศ เดือนตุลาคม 2559 จำนวน 5,092 ราย เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (ก.ย.59) ซึ่งมีจำนวน 6,076 ราย โดยลดลง 984 ราย คิดเป็น 16% และใกล้เคียงกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ต.ค.58) ซึ่งมีจำนวน 5,231 ราย ลดลง 139 ราย คิดเป็น 3% สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิกเดือนตุลาคม 2559 มีจำนวน 1,588 ราย ลดลงเมื่อเทียบกับกันยายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 1,849 ราย โดยลดลง 261 ราย คิดเป็น 14%
• มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ ในเดือนตุลาคม 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 14,720 ล้านบาท ลดลงจำนวน7,709 ล้านบาท คิดเป็น 34% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 22,429 ล้านบาท และมีมูลค่าลดลงจำนวน 6,365 ล้านบาท คิดเป็น 30% เมื่อเทียบกับเดือนตุลาคม 2558 ซึ่งมีจำนวน 21,085 ล้านบาท
• ประเภทธุรกิจที่จดทะเบียนจัดตั้งสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 563 รายรองลงมา ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ จำนวน 388 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 291 ราย ธุรกิจให้คำปรึกษาด้านการจัดการ จำนวน 148 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 137 ราย ตามลำดับ
• ห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 31 ต.ค.59) จำนวน 1,350,101 ราย มูลค่า ทุนจดทะเบียนรวม 20.34 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 643,268 รายมูลค่าทุนจดทะเบียน 15.71 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 463,570 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,151 ราย และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 178,547 ราย
การคาดการณ์ตลอดปี 2559
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า คาดว่าในปี 2559 จะมีการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลใกล้เคียงกับปี 2558 คือ สูงเกิน 60,000 ราย เนื่องจากมาตรการส่งเสริมภาครัฐ ได้แก่ การให้ยกเว้นภาษีเงินได้ การคงภาษีมูลค่าเพิ่มที่ร้อยละ 7 ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการที่เป็นบุคคลธรรมดาให้มาจดทะเบียนนิติบุคคลมากขึ้น นอกจากนี้ การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนของภาครัฐ และการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวรวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการส่งออก จะเป็นปัจจัยที่ทำให้การจดทะเบียนจัดตั้งเพิ่มขึ้นในช่วงเวลาที่เหลือของปี 2559
อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามสถานการณ์การปรับลงของราคาสินค้าเกษตร เช่น ข้าว ข้าวโพด ในรอบหลายปี จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อภายในประเทศและมีผลกระทบต่อการบริโภคภายในประเทศ
ส่วนผลการให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนตุลาคม 2559
การจดทะเบียนจัดตั้งข้ามเขตจังหวัด
บริการจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัดข้ามเขตจังหวัดได้เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายน 2557เป็นต้นมา โดยในเดือนตุลาคม 2559 มีการยื่นขอจดทะเบียนข้ามเขต จำนวน 845 ราย จากการจดทะเบียนทั่วประเทศจำนวน 5,092 ราย คิดเป็น 17% โดยแบ่งออกเป็นส่วนกลางจำนวน 559 ราย คิดเป็น 11% ส่วนภูมิภาค จำนวน 286 รายคิดเป็น 6% สำหรับในส่วนภูมิภาค จังหวัดที่รับจดทะเบียนข้ามเขตสูงสุด 3 อันดับ คือ จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 33 ราย รองลงมาจังหวัดชลบุรี จำนวน 27 ราย และจังหวัดปทุมธานี จำนวน 26 ราย ตามลำดับ
บริการ DBD e-Service
ให้บริการตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยค้นหาจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนนิติบุคคลเพื่อตรวจสอบ งบการเงิน และรายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ รวมทั้งมีบริการข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆ และสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application : DBD e-Service) สามารถใช้งานได้ ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557 เป็นต้นมา เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง ซึ่งมีสถิติผู้เข้าใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2559 รวมทั้งสิ้น 2,251,609 ครั้ง โดยในเดือนตุลาคม 2559 มีผู้ใช้บริการ จำนวน 157,170 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ม.ค.57-ก.ย.59 = 2,094,439 ครั้ง) คิดเป็น 8%
e-Commerce
การจดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และได้รับเครื่องหมาย DBD Registered เพื่อยืนยันการมีตัวตนของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันมีผู้ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered (ณ ปี 46 – ต.ค.59) จำนวน 19,061 รายเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ก.ย.59) 645 ราย คิดเป็น 3.5% ประกอบด้วยนิติบุคคล 4,593 ราย คิดเป็น 25% บุคคลธรรมดา14,468 ราย คิดเป็น 75% และมีร้านค้าออนไลน์ที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered จำนวน 21,097 ร้านค้า เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อน (ก.ย.59) 661 ร้านค้า คิดเป็น 3.2% ธุรกิจที่ได้รับเครื่องหมาย DBD Registered สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจแฟชั่น/เครื่องแต่งกาย/เครื่องประดับ จำนวน 3,447 ร้านค้า รองลงมาธุรกิจการแพทย์ สุขภาพ ยา สมุนไพร สปา จำนวน 3,307 ร้านค้า และธุรกิจคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ ไอทีและซอฟแวร์ จำนวน 2,726 ร้านค้า ตามลำดับ
DBD e-Filing
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนและนิติบุคคลทั่วไปตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นมา และ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2559 มีสถิติผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 511,615 ราย แสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่และได้รับอนุมัติ จำนวน 478,796 ราย และมีรายละเอียดการนำส่งงบการเงิน ดังนี้
· นิติบุคคลต้องนำส่งงบการเงิน จำนวน 568,278 ราย
· นำส่งงบการเงินแล้ว ภายใน 31 ต.ค.59 จำนวน 474,447 ราย (คิดเป็น 83% ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบฯ)
– ส่งทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) จำนวน 364,406 ราย (คิดเป็น 77% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบฯแล้ว)
– ส่งงบกระดาษ จำนวน 110,041 ราย (คิดเป็น 23% ของนิติบุคคลที่นำส่งงบฯแล้ว)
ในปี 2559 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ดำเนินการเชิงรุก เพื่อเพิ่มการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ โดยจะปรับปรุงห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ที่ชั้น 11 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อรองรับการเรียนรู้ระบบการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) และการสอนติดตั้งโปรแกรม XBRL in Excel รวมถึงเพิ่มจำนวนการจัดอบรมในปี 2559-2560 ให้ครอบคลุมนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินทั้ง 100% โดยมีเป้าหมาย ดังนี้
1. ผู้ประกอบการทุกรายที่ต้องนำส่งงบการเงินสามารถติดตั้งโปรแกรม XBRL in Excel สำหรับใช้นำส่ง งบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) ได้ด้วยตนเอง โดยนำเครื่องคอมพิวเตอร์หรือ Notebook มาติดตั้งโปรแกรมได้ที่ห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop)
2. ผู้ประกอบการมีความรู้ในการนำส่งงบการเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (DBD e-Filing) โดยเข้ารับการอบรมที่ห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) มากยิ่งขึ้น
3. มีเจ้าหน้าที่ประจำห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการติดตั้งโปรแกรม XBRL in Excel และให้คำแนะนำและแก้ไขปัญหาการติดตั้งโปรแกรมดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะเปิดให้บริการห้องปฏิบัติการอบรม (Workshop) ใหม่ ต้นปีงบประมาณ 2560
การจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เริ่มให้บริการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2559 โดยในเดือนตุลาคม 2559 มีการจดทะเบียนสัญญาหลักประกันทางธุรกิจ จำนวน 11,577 คำขอ ลดลง 10,108 คำขอ คิดเป็น 47% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา (ก.ย.59) ซึ่งมีจำนวน 21,685 คำขอ โดยมีมูลค่าการจดทะเบียนในเดือนตุลาคม 2559 ทั้งสิ้น 369,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 125,116 ล้านบาท คิดเป็น 51% เมื่อเทียบกับเดือนกันยายน 2559 ซึ่งมีมูลค่า 244,762 ล้านบาท
โดยแบ่งประเภททรัพย์สินที่นำมาเป็นหลักประกันได้ 2 ประเภทคือ
1. สิทธิเรียกร้อง มูลค่าทั้งสิ้น 313,674 ล้านบาท คิดเป็น 84.8% แบ่งเป็น
– บัญชีเงินฝากธนาคาร มูลค่า 267,881 ล้านบาท คิดเป็น 72.4%
– สิทธิการเช่า มูลค่า 1,086 ล้านบาท คิดเป็น 0.3%
– อื่นๆ เช่น ลูกหนี้การค้า มูลค่า 44,707 ล้านบาท คิดเป็น 12.1%
2. สังหาริมทรัพย์ มูลค่าทั้งสิ้น 56,204 ล้านบาท คิดเป็น 15.2% แบ่งเป็น
– สินค้าคงคลัง/วัตถุดิบ มูลค่า 30,079 ล้านบาท คิดเป็น 8.1%
– เครื่องจักร/รถยนต์/เรือ มูลค่า 26,125 ล้านบาท คิดเป็น 7.1%
นอกจากนี้ในเดือนตุลาคม 2559 กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ออกใบอนุญาตผู้บังคับหลักประกัน จำนวน 24 ราย