“นวัตกรรม NIPT” ตรวจ DNA
หาความเสี่ยงทารกผิดปกติพิการ
เตือนว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อ่อนๆ ตรวจ DNA อิสระของลูก เพื่อหาความเสี่ยงอาการพิการของทารกหรือไมโครดิลีทชั่นซินโดรมด้วยนวัตกรรม NIPT เป็นการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของลูกที่อยู่ในเลือดของแม่ โดยเฉพาะแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากแล้ว เสี่ยงพบทารกมีความผิดปกติของโครโมโซมที่มีผลต่อพัฒนาการและสติปัญญาของเด็กหลังคลอด โดยNIPT ช่วยให้ตรวจพบปัญหาดาวน์ซินโดรมได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99% ตรวจได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป และไม่เสี่ยงกับทารก อีกทั้งยังสามารถตรวจหาความผิดปกติอื่นๆได้อีก
นายแพทย์ เทวินทร์ เดชเทวพร ที่ปรึกษาทางด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ N Health เปิดเผยว่า จากข้อมูลวารสารทางการแพทย์เกี่ยวกับอุบัติการณ์ในวงการสูตินรีเวชปี 2559 พบว่า สถิติคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมากจะมีความเสี่ยงที่ทารกจะมีความผิดปกติของโครโมโซม ที่มีผลต่อพัฒนาการและสติปัญญาของเด็กตามมาหลังจากคลอดแล้ว ซึ่งจากสถิติมีอัตราที่เพิ่มขึ้นทุกปี
ปัจจุบันการตรวจด้วยวิธี NIPT (Non-Invasive Prenatal Testing) เป็นการตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอของทารกในครรภ์จากเลือดของคุณแม่เพื่อคัดกรองความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์ โดยเฉพาะดาวน์ซินโดรม ที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 99% เป็นการตรวจที่ไม่มีความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์และสามารถตรวจวิเคราะห์ได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์ขึ้นไป
นอกจากนี้ ยังสามารถตรวจหาภาวะความผิดปกติแบบอื่นๆ เช่น กลุ่มอาการไมโครดีลีทชั่นซินโดรม ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ในทุกช่วงอายุ
ปัจจุบัน N Health Laboratory Services ให้บริการในการตรวจคัดกรองก่อนคลอดโดยใช้วิธี NIPT ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรอง DNA อิสระของลูกเพื่อหาความผิดปกติของโครโมโซมทารกในครรภ์จากเลือดแม่ ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายเทคนิค โดยการตรวจวิเคราะห์ทางด้านพันธุกรรมด้วยวิธีดังกล่าว ไม่มีความเสี่ยงต่อการแท้งบุตร
หลักการตรวจวิเคราะห์ทั่วไปของ NIPT ในระหว่างที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์นั้น ดีเอ็นเอบางส่วนจากลูกน้อยจะเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือดของแม่ ดีเอ็นเหล่านี้ มีการจัดเรียงตัวเป็นสายยาวๆ เรียกว่า โครโมโซม ทำหน้าที่ในการเก็บข้อมูลทางพันธุกรรมของทารก การตรวจ NIPT จะทำการวิเคราะห์ดีเอ็นเอของลูกที่อยู่ในเลือดของแม่ เพื่อหาภาวะความผิดปกติของโครโมโซมที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อความสมบูรณ์ของลูก ซึ่งเป็นการตรวจคัดกรองระหว่างการตั้งครรภ์ที่ไม่มีความเสี่ยงต่อลูก เพียงแค่เก็บตัวอย่างเลือดจากแม่เท่านั้น แล้วจึงนำส่งตรวจไปยังห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน
ตามคำแนะนำของ ISPD (International Society for Prenatal Diagnosis) ผู้ที่ควรได้รับการตรวจ NIPT คือ คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ในขณะที่มีอายุมากกว่า 35 ปี ขึ้นไปที่มีความกังวลต่อสุขภาพของลูกในครรภ์ หรือในรายที่มีประวัติคนในครอบครัวมีความผิดปกติของโครโมโซมมาก่อน หรือในรายที่มีความผิดปกติหลังจากการตรวจพบด้วยการอัลตราซาวด์ สามารถรับการตรวจ NIPT ได้ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ การตรวจ NIPT ยังสามารถตรวจคัดกรองเพิ่มเติมในกลุ่มไมโครดีลีทชั่นซินโดรมได้อีกด้วย ซึ่งกลุ่มอาการนี้เกิดจากการขาดหายไปของโครโมโซมขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถมองเห็นภายใต้กล้องจุลทรรศน์ หรืออัลตราซาวด์ ไม่ใช่ความผิดปกติทางพันธุกรรมที่ถ่ายทอดได้ แต่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นเองขณะปฏิสนธิ พบบ่อยในคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีอายุมาก โดยบางโรคในกลุ่มนี้ เช่น กลุ่มอาการดิจอร์จ จะมีความชุกอยู่ที่ประมาณ 1:2000-4000
ทั้งนี้ ทารกที่เกิดมาพร้อมกับกลุ่มไมโครดีลีทชั่นซินโดรม มักจะมีอาการบกพร่องทางสติปัญญา ความผิดปกติของอวัยวะในร่างกาย เช่น หัวใจและระบบอื่นๆในร่างกาย เด็กอาจมีปัญหาด้านพัฒนาการ เป็นต้น
สำหรับ N Health ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2544 ปัจจุบัน N Health ประกอบด้วย บริษัท เนชั่นแนล เฮล์ทแคร์ ซิสเท็มส์ จำกัด บริษัท ไบโอ โมเลกุลลาร์ แลบบอราทอรี่ส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เอ็น เฮลท์ พยาธิวิทยา จำกัด
N Health เป็นผู้เชี่ยวชาญในการบริการด้านการสนับสนุนบริการทางการแพทย์และธุรกิจโรงพยาบาล ในด้านต่าง ๆ ดังนี้ บริการตรวจวิเคราะห์ทางการแพทย์ บริการด้านวิศวกรรมทางการแพทย์ บริการงานปราศเชื้อแบบครบวงจร บริการบริหารและบริการผ้าแบบครบวงจร บริการบริหารศูนย์ไตเทียม บริการบริหารจัดการการแพทย์ทางไกล ตัวแทนจัดจำหน่าย อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ บริการการจัดซื้อจัดหาที่ครบวงจร บริการบริหารคลังยาและเวชภัณฑ์ บริการโลจิสติกส์ในธุรกิจสุขภาพ
บริษัทฯ ครอบคลุมการให้บริการด้วยสาขากว่า 50 สาขาในประเทศไทย และต่างประเทศ เช่น กัมพูชา เมียนมา และสิงคโปร์ ด้วยเทคโนโลยีและระบบการทำงานแบบมาตรฐานสากล
ผู้สนใจสามารถค้นข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ http://www.nhealth-asia.com
ขอบคุณภาพประกอบจาก-http://j-b-t.blogspot.com/