เปิดพิพิธภัณฑ์ให้ชมกลางคืน
เทิดพระเกียรติร.9 เริ่ม16-18ธ.ค.
คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ จัดโครงการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมยามค่ำคืน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มุ่งเน้นนำเสนอพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ที่พ่อหลวงของปวงไทยทรงปฏิบัติมาตลอดพระชนม์ชีพ โดยไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย เพื่อความผาสุกของพสกนิกรทั่วหล้า ทั้งนี้ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และน้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ดำเนินชีวิต สืบสานพระราชปณิธานความดี เพื่อสร้างความเจริญให้แก่บ้านเมืองสืบไป
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งมั่นสืบสานพระราชปณิธานความดี เดินหน้าพัฒนาประเทศให้ประชาชนมีความอยู่ดีกินดีอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ ได้ตระหนักถึงนโยบายดังกล่าว และด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่มีต่อปวงชนชาวไทย จึงได้จัดโครงการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมยามค่ำคืน เพื่อเทิดพระเกียรติพระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยมุ่งเน้นให้คนไทย โดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน หวังจะให้เป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท ยึดมั่นในคุณงามความดี และดำรงตนให้เป็นประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติต่อไป
สำหรับการเปิดพิพิธภัณฑ์ให้เข้าชมยามค่ำคืนฯ ประกอบด้วย นิทรรศการเทิดพระเกียรติฯ 28 นิทรรศการ และกิจกรรมพิเศษต่างๆ 24 กิจกรรม เช่น การเสวนา การฉายภาพยนตร์ การจัด workshop ฯลฯ โดยความร่วมมือของกลุ่มพิพิธภัณฑ์ภายในพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ 7 หน่วยงาน และกลุ่มที่จัดงานบริเวณภายนอกพื้นที่เกาะรัตนโกสินทร์ 9 หน่วยงาน และหน่วยงานร่วมสนับสนุน 3 หน่วยงาน รวมทั้งสิ้น 19 หน่วยงาน โดยจัดขึ้นในวันที่ 16-18 ธันวาคม 2559 ซึ่งทุกพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้จะขยายเวลาให้เข้าชมจนถึงเวลา 22.00 น. ตลอด 3 วันเต็ม ถือเป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่เดินทางมาร่วมถวายสักการะพระบรมศพได้เข้าชมการจัดแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ต่างๆ บนเกาะรัตนโกสินทร์ ในช่วงเวลาค่ำคืน นอกเหนือจากเวลาปกติอีกด้วย
ภายในงานจะเน้นนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจที่พระองค์ทรงปฏิบัติต่อเนื่องมาในหลากหลายด้าน ทั้งด้านการเกษตรและการยกระดับสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ด้านการอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ ด้านการแพทย์และสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านศิลปวัฒนธรรม ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้านการทหาร รวมทั้งพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ทั้งศิลปะ ดนตรี กีฬา ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ และเรื่องราวความประทับใจในพระมหากรุณาธิคุณของบุคคลที่เกี่ยวข้อง และการจัดแสดงสิ่งของที่จัดทำขึ้นเพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีในวโรกาสพิเศษต่างๆ
“การจัดโครงการนี้ขึ้นเพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ด้วยความมุ่งหวังที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการปลุกสำนึกคนไทย ให้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิต เดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาท สืบสานพระราชปณิธานความดี เพื่อสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้แก่บ้านเมืองอย่างยั่งยืนสืบไป” พลอากาศเอกประจิน กล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้คณะกรรมการบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์ และแหล่งเรียนรู้ จัดตั้งขึ้นโดยคำสั่งนายกรัฐมนตรี โดยมีรองนายกรัฐมนตรี พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง เป็นประธาน และคณะกรรมการ ประกอบด้วย หัวหน้าหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และการนำองค์ความรู้ไปใช้ให้เกิดคุณค่าเพิ่มทั้งใน ด้านเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 18 หน่วยงาน ได้แก่ กระทรวงกลาโหม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมศิลปากร สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ องค์การ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ สวนพฤกษศาสตร์ องค์การสวนสัตว์ สำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา และสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบูรณาการด้านพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ทั่วประเทศ ให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ 3 ประการ คือ ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว และส่งเสริมให้คนไทยมีจิตสานึกรู้รักสามัคคี มีความเป็นน้ำ.หนึ่งใจเดียวกันจากการเรียนรู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาของชาติไทย