“อภัยภูเบศร” โต้โผเปิด 9ม.ค.
บ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรฯ
โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรเดินหน้าลุยงานนับแต่ต้นปีใหม่ เปิดบ้าน เล่าเรื่อง “เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี” วันที่ 9 มกราคม 2560 หลังปราจีนบุรีได้รับคัดเลือกให้เป็น เป็น 1 ใน 4 เมืองสมุนไพรของประเทศ ร่วมสุราษฎร์ธานี เชียงราย และสกลนคร ชูจุดเด่นปราจีนบุรีพร้อมด้านพัฒนาสมุนไพรโดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรอย่างต่อเนื่องและยาวนาน มีความได้เปรียบด้านความหลากหลายทางชีวภาพอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และความหลากหลายทางวัฒนธรรม พร้อมนำThailand Model 4.0 มาปรับใช้กำหนดกลยุทธ์
นพ.จรัญ บุญฤทธิการ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า นับจากแผนแม่บทว่าด้วยการพัฒนาสมุนไพรแห่งชาติ พ.ศ.2560–2564 ที่ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา ทำให้วงการสมุนไพรทั้งระดับประเทศและระดับจังหวัดตื่นตัวเป็นอย่างมาก โดยในแผนแม่บทได้ระบุให้มีการพัฒนาเมืองสมุนไพรใน 4 ภูมิภาค เพื่อเป็นกลไกการพัฒนาสมุนไพรครบวงจรแบบบูรณาการระดับพื้นที่ ซึ่งจังหวัดปราจีนบุรีได้รับคัดเลือกให้เป็น เป็น 1 ใน 4 เมืองสมุนไพรของประเทศ เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมในด้านการพัฒนาสมุนไพรโดยโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรมาอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
นพ.จรัญ กล่าวว่า เมื่อได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 4 เมืองสมุนไพรทางจังหวัดได้จัดตั้งคณะกรรมการเมืองสมุนไพรที่ทำหน้าที่ในการกำหนดยุทธศาสตร์และประสานงานกับหน่วยงานต่างๆในจังหวัดให้เกิดการพัฒนาเมืองสมุนไพรปราจีนบุรี โดยการกำหนดยุทธศาสตร์ของเมืองสมุนไพรปราจีนบุรีได้นำ Thailand Model 4.0 มาปรับใช้ในการวางกลยุทธ์ เนื่องจากจังหวัดปราจีนบุรีมีความได้เปรียบในความหลากหลายทางชีวภาพอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อีกทั้งยังความหลากหลายทางวัฒนธรรม เนื่องจากมีผู้คนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ ซึ่งความได้เปรียบเหล่านี้สามารถนำมารังสรรค์ต่อยอดเป็นนวัตกรรมได้
“และในวันที่ 9 มกราคม 2560 นี้ทางโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการประสานงานกับหน่วยต่างๆในจังหวัดปราจีนบุรี จะทำการเปิด “บ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี” ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในกลางใจเมืองปราจีนบุรี ที่ได้รับความร่วมมือจากชุมชนในจังหวัด มาร่วมคิดร่วมทำ และพัฒนาจนกลายมาเป็นบ้านเล่าเรื่อง เมืองสมุนไพรปราจีนบุรี” ผอ.รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าว
นพ.จรัญ กล่าวด้วยว่า บ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรปราจีนบุรีนี้ นอกจากจะเป็นสถานที่ที่เปิดให้ชุมชนมาใช้ประโยชน์แล้ว ยังเป็นสถานที่ที่ให้ข้อมูลของเมืองสมุนไพรปราจีนบุรี เช่น ประวัติศาสตร์ของจังหวัด ความเป็นมาของกลุ่มชาติพันธุ์ และเรื่องราวของระบบนิเวศน์ สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัด แต่ที่เป็นไฮไลต์ให้สมกับความเป็นเมืองสมุนไพร คือ การสร้างประสบการณ์ให้กับนักท่องเที่ยวโดยมีสมุนไพรเป็นสื่อในการเรียนรู้ ทั้งสวนสมุนไพร เมนูอาหาร ของว่างและเครื่องดื่มสมุนไพร นิทรรศการรูปภาพ หนังสือสมุนไพร และการอบรมการทำยาและอาหารจากสมุนไพรอีกด้วย ส่วนการจัดภูมิทัศน์นั้นเราอยากให้คนมารู้สึกผ่อนคลายตามแบบฉบับของคนต่างจัดหวัด โดยมีทั้งแสง สีและเสียง ซึ่งเชื่อว่าใครมาก็ต้องอยากมาอีก
ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร รองผู้อำนวยการด้านการแพทย์แผนไทยและสมุนไพร โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ให้ข้อมูลในรายละเอียดของการนำสมุนไพรมาเป็นจุดขายของบ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพร “ที่บ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรนี้เราจะใช้สีของสมุนไพรเป็นสิ่งดึงดูดให้เยาวชนและนักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ เพราะเชื่อว่าพวกเราหลายคนเวลาพบของที่มีสีสันเราจะหยุดดู ส่วนทางสมุนไพรเองนั้น สีของสมุนไพรที่ต่างกันก็ส่งผลต่อสรรพคุณที่แตกต่างกันด้วย เช่น สีม่วงของอัญชันมีแอนโทรไซยานิน ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการไหลเวียนของเลือด สีแดงของฝางที่ช่วยบำรุงเลือด สีเหลืองของขมิ้นชันมีเคอร์คูมินอยด์ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบ ต้านมะเร็ง โดยอาหารสีสันต่างๆเหล่านี้ เราจะนำมาปรุงเป็นอาหารร่วมสมัยที่เหมาะสมกับคนทุกวัย เช่น เรามีเอแคลร์จากอัญชัน ซุปพญายอ เทมปุระเล็บครุฑสำหรับเด็กและวัยรุ่น มีราดหน้าและขนมจีนเส้นสดจากฝาง อัญชัน สำหรับผู้ใหญ่ ส่วนผู้สูงอายุเราก็มีน้ำสมุนไพรดอกบัวหลวง ขนมขี้หนูใบคนทีสอ กุ้งฝอยทอดเล็บครุฑ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีไว้สำหรับขายอย่างเดียว แต่สูตรในการทำนั้นเราก็ยังจะแจกจ่ายให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมบ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรด้วย”
ภาพประกอบจาก-ศูนย์สารสนเทศสมุนไพร(www.abhaiherb.com),www.youtube.comและ travel.thaiza.com