ธนชาตประกันภัยห่วงลูกค้าใต้
จัดให้คำปรึกษา-บริการรถยก
ธนชาตประกันภัย ห่วงใยลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคใต้ ออกมาตรการช่วยเหลือให้กับลูกค้า จัดเจ้าหน้าที่ดูแลให้คำปรึกษา24 ชั่วโมง พร้อมเตรียมบริการรถยกฟรีให้กับลูกค้าที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจกับบริษัทฯ และผนึกกำลังทั้งรถยกอู่ในเครือและศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมรถน้ำท่วม รวมถึงเจ้าหน้าที่สำรวจภัย เจ้าหน้าที่ประเมินราคา และเตรียมแผนรองรับในพื้นที่เสี่ยงภัยที่เกิดน้ำท่วมตามประกาศของทางการแล้ว โดยลูกค้าติดต่อแจ้งเหตุหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ โทร.02–662–8999 ตลอด 24 ชั่วโมง
นายพีระพัฒน์ เมฆสิงห์วี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนชาตประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้อย่างหนัก ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน บริษัทฯ จึงได้ออกมาตรการช่วยเหลือให้กับลูกค้าในพื้นที่ประสบภัย ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัย ให้คำแนะนำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้บริการรถยกฟรีกับลูกค้าที่ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจกับบริษัทฯ
ตลอดจนประสานไปยังอู่รถยนต์ในเครือและศูนย์บริการลูกค้าที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดซ่อมรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมในแต่ละพื้นที่ รวมถึงยังได้เตรียมเจ้าหน้าที่สำรวจภัยและเจ้าหน้าที่ประเมินราคา เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างทั่วถึง โดยลูกค้าสามารถติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ โทร.02–662–8999 ตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับลูกค้าที่ได้ทำประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1, One Lite, Super Lite, 2 บวกจัดเต็มคุ้มครองน้ำท่วม, 2 บวกคุ้มครองน้ำท่วม และ 2 บวกโกลด์คุ้มครองน้ำท่วม หากรถยนต์ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ ลูกค้าสามารถเคลมประกันน้ำท่วมได้ตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
นอกจากนี้ ยังได้แนะนำวิธีดูแลป้องกันรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม โดยมีข้อควรปฏิบัติ ดังนี้
1. กรณีที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ไม่ฝืนขับขี่รถยนต์ผ่านบริเวณที่น้ำท่วมสูงเกินกว่า 30 เซนติเมตร หากต้องการเคลื่อนย้ายรถออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วม ควรดำเนินการแจ้งบริการรถยกมาให้ เคลื่อนย้ายรถออกมาจอดในที่ปลอดภัย
2. กรณีที่ยังสามารถขับรถออกมาจากพื้นที่ได้ ให้ขับรถของท่านออกจากพื้นที่โดยวิธีปฏิบัติดังนี้
2.1 ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด
2.2 ควรใช้เกียร์ต่ำ
2.3 ขับขี่ด้วยรอบความเร็วต่ำอย่างสม่ำเสมอ
2.4 ควรชะลอและลดความเร็วเมื่อมีรถวิ่งสวนมา
2.5 เมื่อถึงที่หมายไม่ควรดับเครื่องยนต์ในทันที ควรรอ 10–20 นาที
3. กรณีที่รถของท่านไม่สามารถเคลื่อนย้ายหรือทำการยกรถออกมาจากพื้นที่ได้ ต้องจอด
อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ให้ปฏิบัติดังนี้
3.1 อุดปลายท่อไอเสีย
3.2 อุดท่อในกรองอากาศ
3.3 ถอดขั้วไฟแบตเตอรี่ออก
3.4 หนุนอิฐบล็อกที่ล้อหน้ารถให้สูงจากพื้น
3.5 เมื่อปริมาณน้ำลดลง ห้ามสตาร์ทรถหรือเปิดสวิทส์กุญแจโดยเด็ดขาด ให้ติดต่อแจ้งบริษัทฯ เพื่อดำเนินการยกรถออกจากพื้นที่ไปเข้าอู่ / ศูนย์บริการซ่อม