ปิ๊งไอเดียปั้นคนพันธุ์อภัยภูเบศร
เตรียมพร้อมเปิดเมืองสมุนไพร
มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ ฯ ร่วมกับ สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.นครนายก สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจ.ปราจีนบุรี สมาคมท่องเที่ยวจ.ปราจีนบุรี และเทศบาลเมืองปราจีนบุรี เปิดบ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรปราจีนบุรี ใจกลางเมือง จัดแสดงประวัติเมือง คน วัฒนธรรมประเพณี รวมถึงสมุนไพรที่คนปราจีนบุรีใช้ดูแลสุขภาพ เป็นพื้นที่ชุมชน บอกเล่าเรื่องราวของคนรุ่นเก่าสู่เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่เป็นเป้าหมายหลัก โดยมีสมุนไพรเป็นที่ยึดโยงให้เข้ามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันด้วย สร้าง 4 ส เพื่อบ่มเพาะคนสู่เมืองสมุนไพร
นพ.จรัญ บุญฤทธิการ ประธานมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ ฯ กล่าวถึงความเป็นมาของบ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพร ว่า บ้านหลังนี้ทางมูลนิธิ ฯ ได้รับอนุญาตจาก ทพ.ทศพล เปี่ยมสมบูรณ์ เจ้าของบ้าน ให้ใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งนับว่าเป็นโอกาสที่ดี เนื่องจากเป็นบ้านที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ใกล้กับโรงเรียนหลายแห่ง จึงเหมาะกับการทำงานกับเยาวชน
“จังหวัดปราจีนบุรีได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองสมุนไพร 1ใน 4 ประเทศ เมื่อได้รับโจทย์มาเช่นนี้ สิ่งแรกที่คิดคือ พัฒนาคน การจะเป็นเมืองสมุนไพรได้นั้น คนในเมืองต้องกินต้องใช้สมุนไพรให้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่ใช้สิ่งใหม่ แต่เป็นสิ่งที่บรรพบุรุษของเราใช้กันมานานแล้ว จากการทำงานร่วมกับชุมชนมามากกว่า 10 ปี ทำให้เรามีเรื่องราวมากมายของเมืองปราจีนบุรี การสร้างให้เยาวชนรับรู้เรื่องการใช้สมุนไพรของบรรพบุรุษคงไม่เพียงพอ แต่เราต้องสร้างให้เขามีความภาคภูมิใจในบ้านเกิดเมืองนอน ได้เห็นมรดกอันล้ำค่าทางวัฒนธรรมที่คนรุ่นเก่าได้เก็บไว้ และพร้อมจะนำมาใช้ประโยชน์เพื่อสังคมได้ ให้สมกับยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่คนไทยต้องสามารถหยิบฉวยเอาความหลากหลายทางชีวภาพ ทางวัฒนธรรมมาสร้างให้เกิดนวัตกรรมไทย
สิ่งเหล่านี้อภัยภูเบศรเรียนรู้และทำมาแล้ว ต่อจากนี้อภัยภูเบศรจะสร้างคนให้เหมือนอภัยภูเบศรให้มีมากขึ้น เพื่อให้เกิดการขยายวงของประโยชน์ทางสังคมเพิ่มมากขึ้น”
ภญ.ดร. สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ ฯ กล่าวว่า กิจกรรมของบ้านเล่าเรื่องเมืองสมุนไพรเรามีความตั้งใจให้บ้านหลังนี้เป็นห้องสมุดที่มีชีวิต โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เยาวชน สร้าง 4 ส หล่อหลอม บ่มเพาะคนเพื่อความเป็นเมืองสมุนไพร ได้แก่ ส.1 มีกลุ่มเป้าหมายหลักคือ เยาวชน สร้าง 4 ส หล่อหลอม บ่มเพาะคนเพื่อความเป็นเมืองสมุนไพรที่บ้านเล่าเรื่องจะมี สวนสมุนไพรหน้าบ้าน นิทรรศการเรื่องเมืองเก่า มีการอบรมฝึกปฏิบัติการต่าง ๆ ส.2 สร้างประสบการณ์ ให้เกิดความตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของสมุนไพรว่าเป็นเรื่องใกล้ตัวคือการได้เปิดประสบการณ์ด้วยตัวเอง ทั้งการได้กิน ได้ชิม ได้ลองทำ อาหารและเครื่องดื่มสมุนไพร ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สบู่ ยาสระผม
ส.3 สร้างแรงบันดาลใจ โดยมีงานศิลปะที่รายล้อมและชีวิตของคนต้นเรื่องจะช่วยปลุกใจ เติมความหวัง และไฟฝัน และ ส.4 สร้างความรื่นรมย์ โดยมีเงาไม้ที่ร่มเย็น เสียงนกร้อง ความสงบของบ้าน แสงสีที่ละมุนตา ทำให้อารมณ์สงบเย็น สร้างความสุขทุกครั้งที่มาเยือน
การพัฒนาห้องสมุดมีชีวิตนี้เราคาดหวังว่าเยาวชนรุ่นใหม่ จะมีพื้นที่เรียนรู้ ทำให้ตระหนักและเห็นคุณค่าของพืชพรรณ สมุนไพร ต้นแบบของภูมิปัญญา รักเมืองปราจีนและเสียสละแก่สังคมเช่นบรรพชน ส่วนชุมชนมีเวทีพบปะพูดคุยแลกเปลี่ยนกัน มีการถ่ายทอดแรงบันดาลใจให้กันและกันโดยเฉพาะวิถีชีวิตที่อิงแอบกับสมุนไพร และสุดท้ายคนทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่จะร่วมกันพัฒนาปราจีนบุรีให้เป็นเมืองสมุนไพร พร้อมหยิบจับสมุนไพรมาพัฒนาเป็นนวตกรรม และเปิดบ้านเพื่อต้อนรับผู้มาเยือนอย่างภาคภูมิใจ”
ผู้สนใจสามารถติดตามเรื่องราวของบ้านเรื่องเล่าได้ทางwww.facebook.com/banlaoreung
ภาพประกอบจาก-www.facebook.com/banlaoreung