เครดิตบูโรห่วงอุทกภัยภาคใต้
ออกมาตรการแทนความห่วงใย
เครดิตบูโรออกมาตรการความห่วงใย เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ ออกหนังสือถึงธนาคารและสถาบันการเงินสมาชิกที่มีอยู่ 94 แห่ง ให้ระมัดระวังในการรายงานและนำส่งข้อมูลของลูกหนี้ พร้อมแนะลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเมื่อน้ำลดควรรีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแจ้งความเสียหาย รวมถึงปรึกษาหารือเพื่อเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนตามที่มีการแถลงออกมา เพื่อช่วยให้ประวัติทางการเงินได้รับการดูแลตามความเป็นจริง และสามารถตรวจเครดิตบูโรของตนเองเพื่อดูความถูกต้องของข้อมูลได้
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเหตุประสบปัญหาอุทกภัยอย่างหนักและอย่างต่อเนื่องในหลายจังหวัดภาคใต้ของประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ การประกอบอาชีพ การประกอบกิจการ และรายได้ของประชาชน และความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ ธนาคารและสถาบันการเงินเป็นอย่างมากนั้น เครดิตบูโรในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของระบบสถาบันการเงินไทยมีความเป็นห่วงใยเป็นอย่างยิ่งสำหรับความเดือดร้อนของประชาชนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และด้วยเหตุที่ในอนาคตอันใกล้นี้ บุคคลเหล่านั้นคงจะมีการขอสินเชื่อเพื่อการซ่อมแซม หรือเพื่อเป็นทุนหมุนเวียน เป็นต้น เครดิตบูโรจึงได้ดำเนินการดังนี้
เครดิตบูโร ออกหนังสือถึงธนาคารและสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกกว่า 94 แห่งเพื่อให้ระมัดระวังในการรายงานและนำส่งข้อมูลของลูกหนี้ กลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยเฉพาะ หากมีการผ่อนผันหรือผ่อนปรนการชำระหนี้ให้กับลูกค้าที่ได้รับผลกระทบที่เกิดขึ้นดังกล่าว ก็ควรยึดถือข้อเท็จจริงตามนโยบายที่ได้ช่วยเหลือหรือผ่อนผันให้กับลูกค้า เช่น กรณีที่ลูกค้าสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงหรือข้อผ่อนผันได้ สมาชิกสามารถรายงานและนำส่งข้อมูลการชำระหนี้ตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นตามข้อตกลงหรือข้อผ่อนผันนั้นในสถานะบัญชี “บัญชีปกติ” แทนการรายงานและนำส่งข้อมูลว่า “ลูกค้าผิดนัดชำระหนี้” เพื่อช่วยเหลือลูกค้าไม่ให้เกิดความเสียหายในประวัติของตน
นอกจากนี้ตามประกาศของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่อง รหัสสถานะบัญชี ก็มีการระบุไว้อย่างชัดเจนว่าในกรณีที่มีการพักชำระหนี้ตามนโยบายของรัฐ หรือตามนโยบายของสมาชิกที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐ เช่น ประสบภัยธรรมชาติ หรือภัยพิบัติอื่น อาจนำส่งเป็น “พักหนี้ตามนโยบายของรัฐ” มาตรการนี้จะเป็นการช่วยเยียวยาทางด้านจิตใจและการดำเนินธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องหลังน้ำลดแล้วแก่ผู้ประสบอุทกภัยอีกทางหนึ่งด้วย
ในกรณีสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก 94 แห่งมีการติดต่อลูกหนี้ได้ในภายหลัง เนื่องจากตอนประสบภัยยังหาตัวกันไม่พบเพราะต่างก็ถูกน้ำท่วม แม้จะมีการส่งข้อมูลเข้ามาว่าผิดนัดชำระหนี้ก็ตาม เมื่อมีการเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนของสถาบันการเงินนั้นๆ และให้มีผลย้อนหลังไปยังเดือนที่เคยส่งข้อมูลว่าผิดนัดชำระหนี้ สถาบันการเงินนั้นก็สามารถแจ้งแก้ไขให้บัญชีดังกล่าวกลับมาเป็นสถานะ บัญชีสินเชื่อนั้นมีประวัติการชำระ “ปกติไม่ค้างชำระ” หรือบัญชีนั้นปรับโครงสร้างหนี้ หรือบัญชีนั้นพักชำระหนี้แล้วแต่กรณี เครดิตบูโรจะดำเนินการแก้ไขหรือปรับปรุงให้เป็นไปตามที่มีการตกลงกัน
อนึ่งเครดิตบูโรมีข้อแนะนำว่า ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบเมื่อน้ำลดควรรีบติดต่อสถาบันการเงินเจ้าหนี้เพื่อแจ้งความเสียหาย ปรึกษาหารือเพื่อเข้าโครงการผ่อนผันหรือผ่อนปรนตามที่มีการแถลงออกมา อันจะทำให้ประวัติทางการเงินของท่านเหล่านั้นได้รับการดูแลตามความเป็นจริง นอกจากนี้ในส่วนของเครดิตบูโรก็จะมีการเฝ้าติดตามข้อมูลที่สมาชิกนำส่งทุกสิ้นเดือนว่า ไม่มีความผิดปกติหรือไม่มีการส่งข้อมูลบัญชีที่มีการแสดงสถานะว่าผิดนัดชำระหนี้เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดือนก่อนหน้า หากพบความผิดปกติจะแจ้งสมาชิกให้ตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งก่อนนำข้อมูลเข้าฐาน
หลังจากเหตุการณ์สู่ภาวะปกติ ลูกค้าสามารถตรวจเครดิตบูโรของตนเองเพื่อดูความถูกต้องของข้อมูลได้ ซึ่งเครดิตบูโรมีช่องทางสำหรับประชาชนทั่วไปสามารถตรวจเครดิตบูโรได้ในหลายช่องทาง อาทิ ศูนย์ตรวจเครดิตบูโร หรือยื่นคำขอผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารกรุงไทย ธนาคารธนชาต ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ที่ทำการไปรษณีย์ หรือที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 0-2643-1250 อีเมล consumer@ncb.co.th หรือตรวจสอบช่องทางการตรวจเครดิตบูโรได้ที่ www.ncb.co.th ทางเครดิตบูโรมีเจ้าหน้าที่ให้บริการปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลประวัติสินเชื่อผ่าน Call Center ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-16.30 น.
ภาพประกอบคุณสุรพลจาก-www.youtube.com