เปิดแล้ว“ตลาดนัดวิถีวิทย์60”
ก.วิทย์ให้ช้อปของดีSMEsไทย
“ตลาดนัดวิถีวิทย์ 2560” โดยกระทรวงวิทย์ฯ ณ คลองผดุงกรุงเกษม เริ่มขึ้นแล้ว โดยมีดร.อรรชกา สีบุญเรือง รมว.กระทรวงวิทย์ฯ เป็นประธานเปิดงาน มุ่งเผยแพร่ผลงานด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมฝีมือคนไทย ทั้งของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และหน่วยงานในเครือข่าย เน้นคัดเลือกผลงาน ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกว่า 240 ผลิตภัณฑ์มาจัดแสดงและจำหน่าย หรือให้บริการ เพื่อช่วยชุมชน วิสาหกิจชุมชน รวมถึงผู้ประกอบสร้างรายได้และกระจายสินค้าบริการแก่ประชาชน งานมีถึง 29 ม.ค.นี้ คาดเงินสะพัดกว่า 160 ล้าน
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) มีหน้าที่คือการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้าไปช่วยส่งเสริมและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ ให้มีความเข็มแข็ง ในด้านมาตรฐาน ความปลอดภัย รวมถึงการสร้างนวัตกรรมใหม่แก่สินค้าหรือผลิตภัณฑ์ จนกระทั่งมีความพร้อมเข้าสู่เชิงพาณิชย์ ทำให้บุคคลทั่วไปได้เห็นบทบาทของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมมากขึ้น จากตัวอย่างของกลุ่มผู้ผลิตสินค้าในวันนี้ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของท่านนายกรัฐมนตรี ซึ่งเน้นการพัฒนาสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” ด้วยความเข็มแข็งจากภายใน ปรับเปลี่ยนการทำน้อยให้ได้มากทั้งด้านคุณภาพและมาตรฐาน อันจะเป็นพื้นฐานในการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มาพัฒนาประเทศไปสู่ไทยแลนด์4.0 ในอนาคตต่อไป
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสร้างอาชีพ สร้างรายได้ และสร้างความมั่นคงให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการ และได้ดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 จนถึงปัจจุบัน มีการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ เพื่อหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพในการจัดงานอย่างต่อเนื่อง กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้รับโอกาสเข้าร่วมจัดงาน ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษม ครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2558 โดยใช้ชื่องาน “นวัตกรรมและเทคโนโลยีไทยเพื่อ SMEs”
ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้แสดงเจตจำนงเข้าร่วมจัดงานอีกครั้งผ่านคณะกรรมการดำเนินโครงการตลาดคลองผดุงกรุงเกษม สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เพื่อเผยแพร่ผลงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และหน่วยงานเครือข่ายของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่มีโอกาสเข้าร่วมพัฒนา สร้างความเข็มแข็งให้แก่วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการในการผลิตสินค้า เพื่อนำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้แก่เจ้าของผลิตภัณฑ์และกระจายสินค้าหรือบริการให้แก่ประชาชนทั่วไปได้รู้จัก
สำหรับการจำหน่ายสินค้าภายในงานจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือ 9-18 และ 19-29 มกราคม 2560 โดยแบ่งโซนพื้นที่และกิจกรรมสำคัญภายในงานประกอบด้วย 1.การจำหน่ายสินค้า STI มากกว่า 250 ผลิตภัณฑ์ เป็นสินค้าที่ได้รับการพัฒนาจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ที่มีโอกาสนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ไปช่วยส่งเสริมและพัฒนาจนได้ผลิตภัณฑ์หรือผลงานที่มีมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้บริโภค มีความพร้อมเข้าสู่เชิงพาณิชย์ แบ่งจำหน่ายเป็นโซนต่างๆ อาทิ โซนตลาดนัดชุมชน โซนสมุนไพรเพื่อสุขภาพ โซนหมู่บ้านวิทย์ เศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น 2. การจำหน่ายอาหารปรุงสุก
3.การจำหน่ายสินค้าเพื่อการเรียนรู้ และกิจกรรมสร้างความตระหนักบนเวที (อุปกรณ์ สื่อเรียนรู้ เครื่องเล่นภูมิปัญญา การให้ข้อมูลความรู้ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาด้วย STI เป็นต้น) 4. การจัดตลาดน้ำเพื่อจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม บริเวณท่าเทียบเรือคลองผดุงกรุงเกษม 5. การจัดแสดงผลงานสิ่งประดิษฐ์จากข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ที่มีความพร้อมใช้งานและเข้าสู่การผลิตในเชิงพาณิชย์ เช่น เรือดูดตะกอนเลน เครื่องทำฟองอากาศแบบBubble กังหันน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องอัดอากาศใต้น้ำพลังงานแสงอาทิตย์ 6.การฝึกอบรมถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อต่อยอดการสร้างอาชีพสำหรับบุคคลทั่วไป ฟรีจำนวน 20 หลักสูตร (วันละ 1 หลักสูตร)
สวทช. ก.วิทย์ฯโชว์เรือดูดเลนแบบพื้นฐาน ลอกแบบเฉพาะหัวดูดเลนพร้อมใบกวาด และพัฒนาเพิ่มหัวกระชอนตัวตักขยะได้สูงสุด 200 กก.ใช้ตักขยะหรือก้อนผักตบชวา เหมาะกับการทำความสะอาด คูคลองทั่วไปความลึกท้องน้ำไม่เกิน 3 เมตร หรือดูดเลนในบึง หรือสนามกอล์ฟ บ้านจัดสรร
การจัดงาน “ตลาดนัดวิถีวิทย์ 2560” ของกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ในครั้งนี้จะช่วยสร้างโอกาสการกระจายสินค้าของวิสาหกิจชุมชน และผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปมากขึ้น รวมถึงเป็นประโยชน์ต่อเยาวชน และประชาชนทั่วไป ที่จะได้รับรู้ถึงการนำเอาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในการพัฒนา การดำรงชีวิตและสามารถสร้างอาชีพได้จริง และจากความสำเร็จที่ผ่านมา คาดว่ากระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จะสามารถทำยอดจำหน่ายภายในงานและยอดสั่งชื้อรวมกันมากกว่า 160 ล้านบาท