เมืองไทยฯ-โรงพยาบาลคู่สัญญา
มอบรางวัล ยกมาตรฐานบริการ
เมืองไทยประกันชีวิต จับมือโรงพยาบาลคู่สัญญา เดินหน้ายกระดับมาตรฐานบริการ เพื่อตอบโจทย์การมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างความพึงพอใจสูงสุดผ่านการมองรางวัลเกียรติยศ ในโครงการ “Muang Thai Life Assurance Hospital Award 2016” มีโรงพยาบาลคู่สัญญาร่วม 279 แห่งทั่วประเทศ ปีนี้มีโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 31 รางวัล โดยโรงพยาบาลกรุงเทพคว้ารางวัลสูงสุด ได้แก่ “The Pink Gold of Muang Thai Life Assurance Hospital Award 2016” ไปครอง
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานคุณภาพการให้บริการด้านการประกันสุขภาพ รวมถึงให้ลูกค้าได้รับการบริการที่เป็นเลิศ มีมาตรฐาน และเกิดความพึงพอใจสูงสุด เป็นไปตามนโยบายหลักของบริษัทฯ ในการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) นั้น บริษัทฯจึงได้จัดโครงการMuang Thai Life Assurance Hospital Award 2016 ขึ้นโดยมีโรงพยาบาลคู่สัญญาร่วมโครงการจำนวน 279 แห่งทั่วประเทศ
โดยเกณฑ์สำหรับการพิจารณาโรงพยาบาลที่จะได้รับรางวัล จะประเมินจากข้อมูล 2 ส่วนหลัก คือ 1.) ความถูกต้อง ครบถ้วนของการให้บริการผ่านโครงการต่าง ๆ ของบริษัทฯ และ 2.) ความพึงพอใจของลูกค้าผู้เอาประกันภัยที่ใช้บริการในโรงพยาบาล โดยจะมีบริษัทให้บริการวิจัยการตลาดและการประเมินผลชั้นนำของโลกเป็นผู้สำรวจ และมีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจากสาขาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านการแพทย์ ด้านการบริการ ด้านสื่อมวลชน และด้านสังคมและจริยธรรม ร่วมกันพิจารณาตัดสินรางวัล ซึ่งในปีนี้มีโรงพยาบาลที่ได้รับรางวัลรวมทั้งสิ้น 31 รางวัล ประกอบด้วย
– รางวัลสูงสุด รางวัล “The Pink Gold of Muang Thai Life Assurance Hospital Award 2016”
ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ
– รางวัลด้านความรวดเร็ว มีคุณภาพ และเข้าใจความต้องการของลูกค้า
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดใหญ่
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1ได้แก่ โรงพยาบาลนนทเวช
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลเอกชล
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี 1
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดกลาง
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพราชสีมา
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลสิริโรจน์
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพพิษณุโลก
– รางวัลด้านริเริ่ม เปิดรับ ตอบรับนวัตกรรมใหม่
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดใหญ่
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 1
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ รัตนาธิเบศร์
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดกลาง
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลนครธน
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลปากน้ำโพ
– รางวัลด้านการบริหารจัดการทางการแพทย์
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดใหญ่
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 1
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลธนบุรี 1
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดกลาง
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลศูนย์ศรีพัฒน์ คณะแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์รังสิต
– รางวัลด้านความร่วมมือระหว่างองค์กร
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดใหญ่
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลเวชธานี
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขมุวิท
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลเปาโล เมโมเรียล
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดกลาง
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลปิยะเวท
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลเวิลด์เมดิคอลเซ็นเตอร์
– รางวัลด้านการดูแลใส่ใจอย่างเป็นเลิศ
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดใหญ่
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลพญาไท 2
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลกรุงเทพ
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลลาดพร้าว
• ประเภทโรงพยาบาลขนาดกลาง
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ โรงพยาบาลพระรามเก้า
รางวัลชนะเลิศอันดับที่ 3 ได้แก่ โรงพยาบาลเอกชัย
“การจัดโครงการดังกล่าวจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนให้โรงพยาบาลคู่สัญญามุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพด้านบริการให้มีความเป็นเลิศในทุกด้าน อีกทั้งจะเป็นเครื่องตอกย้ำให้ผู้เอาประกันภัยมีความเชื่อมั่นในคุณภาพและบริการที่ได้รับ และยังสร้างความภาคภูมิใจแก่โรงพยาบาลคู่สัญญาที่ได้รับรางวัล ซึ่งการจัดโครงการนี้ยังเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนผลักดันให้พนักงาน รวมถึงองค์กรได้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พร้อมที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมการบริการใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มาใช้บริการได้อย่างตรงจุดมากที่สุด” นายสาระ กล่าว
นายสาระยังกล่าวอีกว่า นอกจากการจัดโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นการสนับสนุนโรงพยาบาลคู่สัญญายกระดับการให้บริการแก่ลูกค้าแล้ว ทางบริษัทฯ ยังมุ่งเน้นประสานความร่วมมือกับโรงพยาบาลคู่สัญญาในด้านอื่น ๆ อีก เพื่อสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีอย่างสูงสุด และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างเข้าถึง และครอบคลุมทุก “เจเนอเรชั่น (Generation)”ของลูกค้าซึ่งมีความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละวัยอีกด้วย