กรมพัฒน์ฯดึงกูรูอสังหาฯติวเข้ม
ผู้ประกอบการเหนือคุมคอนโดฯ
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ดึงกูรูด้านอสังหาริมทรัพย์ติวเข้มผู้ประกอบการเชียงใหม่ บุคลากรดูแลอาคารชุด เผยกลยุทธ์และเทคนิคการบริหารคอนโดมิเนียมยุคใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เปิดโอกาสธุรกิจบริหารจัดการอสังหาฯ แนะใช้ไอทีและนวัตกรรมมาช่วยในการบริหารจัดการธุรกิจ พร้อมพัฒนาจุดเด่น เน้นความเป็นมืออาชีพ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคที่ต้องการที่อยู่อาศัยสำหรับชีวิตในเมืองใหญ่มากขึ้น ระบุทั่วประเทศมีธุรกิจบริหารทรัพย์สินน้อยเพียง 1,600 รายจากอาคารชุดจดทะเบียน 3,300 แห่ง 860,000 ยูนิต
นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันผู้บริโภคนิยมอยู่อาศัยในโครงการอาคารชุดมากขึ้น ส่งผลให้อาคารชุดย่านใจกลางเมืองมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดสังคมในอาคารสูงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย การบริหารอาคารหรือนิติบุคคลของอาคาร จึงจำเป็นต้องเพิ่มบุคลากรเข้ามาในสายงานนี้มากขึ้นตามจำนวนของอาคารชุดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้จำนวนบุคลากรที่อยู่ในธุรกิจนี้ยังขาดแคลนอยู่เป็นอย่างมาก โดยจากตัวเลขสถิติการจดทะเบียนอาคารชุดทั่วประเทศของกรมที่ดิน (ปี 2541 – 2559) มีจำนวนประมาณ 3,300อาคาร รวมกว่า 860,000 ยูนิต ในขณะที่มีธุรกิจบริหารทรัพย์สินประมาณ 1,600 รายเท่านั้น ซึ่งมีจำนวนไม่สอดคล้องกันอย่างชัดเจน
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงร่วมกับสมาคมบริหารทรัพย์สินแห่งประเทศไทย เสริมสร้างองค์ความรู้ให้ผู้ประกอบธุรกิจด้านนี้ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดที่มีความหนาแน่นของอาคารชุด ด้วยหลักสูตร “สร้างมืออาชีพธุรกิจบริหารคอนโดมิเนียม” ระหว่างวันที่ 15-16 มีนาคม 2560 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากเล็งเห็นว่าจังหวัดเชียงใหม่มีอาคารชุดเป็นจำนวนมาก แต่ยังขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการในสาขานี้อย่างเพียงพอ
ทั้งนี้หลักสูตร “สร้างมืออาชีพธุรกิจบริหารคอนโดมิเนียม” เป็นการเสริมสร้างองค์ความรู้ที่จำเป็นให้ ผู้ประกอบธุรกิจบริหารคอนโดมิเนียม บุคลากรของธุรกิจบริหารทรัพย์สินและนิติบุคคลอาคารชุด โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านบริหารทรัพย์สินมาให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารคอนโดมิเนียม การสร้างชุมชนน่าอยู่ในคอนโดมิเนียม และสตาร์ทอัพกับนวัตกรรมการบริหารคอนโดมิเนียม รวมถึงเทคนิคการทำตลาดออนไลน์ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาจุดเด่นของธุรกิจให้มีศักยภาพและความเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีและซอฟแวร์มาใช้ ยังทำให้การบริหารจัดการมีคุณภาพ ถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส น่าเชื่อถือ และเพิ่มประสิทธิภาพ การทำงานที่เป็นระบบและมีมาตรฐาน รวมทั้งสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่ธุรกิจ
สำหรับผู้สนใจเข้าร่วมการสัมมนา สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนส่งเสริมธุรกิจบริการ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 0 2547 5954 สายด่วน 1570 และwww.dbd.go.th