5 แบงก์ปฏิวัติรูปแบบชำระเงิน
ตั้งเครื่องEDCรวมฟังก์ชั่น5แบงก์
5 ธนาคารยักษ์ใหญ่ ได้แก่ กรุงไทย กรุงศรีอยุธยา ทหารไทย ไทยพาณิชย์ และธนชาต จับมือพลิกโฉมปฏิวัติรูปแบบการชำระเงินครั้งแรกในไทย ภายใต้ชื่อกลุ่ม TAPS เป้าหมายเพื่อเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศและสร้างเครือข่ายการให้บริการที่แข็งแกร่ง เตรียมบุกขยายฐานติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) รูปแบบใหม่ที่รวมฟังก์ชั่นของ 5 ธนาคารมาไว้ในเครื่องเดียว ขานรับนโยบายรัฐ National e-Payment อำนวยความสะดวกร้านค้าและประชาชน ไม่ต้องถือเงินสด พร้อมลดค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตเหลือ 0.55% เวลานี้ได้รับคัดเลือกจากกระทรวงการคลังให้เป็นผู้บริการติดตั้งเครื่องรับบัตรแก่ร้านค้า ตั้งเป้าติดตั้งครอบคลุมร้านค้าทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 5แสนร้านในมี.ค. 2561
5 ธนาคารพันธมิตรกลุ่ม TAPS เปิดเผยว่า นับเป็นครั้งแรกและเป็นปรากฏการณ์สำคัญในวงการธนาคารไทยที่ 5 ธนาคารใหญ่ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ จับมือเพื่อสร้างความแตกต่างในนามกลุ่ม Thai Alliance Payment System หรือกลุ่ม TAPS เพื่อให้บริการติดตั้งเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (EDC) แก่หน่วยงานภาครัฐ ร้านค้าและบริษัทภาคเอกชนทั้งใหญ่-เล็ก ตอบรับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) โดยเฉพาะโครงการขยายการใช้บัตร (Card Expansion) เพื่ออำนวยความสะดวกกับประชาชน ไม่ต้องพกเงินสด
การจัดตั้งกลุ่ม TAPS มีเป้าหมายเพื่อเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ และสร้างเครือข่ายการให้บริการที่แข็งแกร่ง จากการจับมือของ 5 ธนาคารสมาชิก ได้ร่วมกันพัฒนาฟังก์ชั่นในการใช้งาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ร้านค้าเพิ่มขึ้นในทุกๆด้าน เพราะเป็นการระดมสมองจาก 5 แบงก์ใหญ่ เครื่องรับบัตรกลุ่ม TAPS จึงเป็นเครื่องรับบัตรรูปแบบใหม่ แตกต่างจากเครื่องรับบัตรแบบเดิมๆ สามารถเพิ่มช่องทางการจัดโปรโมชั่นระหว่างร้านค้ากับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด และเข้าถึงลูกค้าได้เป็นจำนวนมาก เพราะในตัวเครื่องจะรวมฟังก์ชั่นพิเศษของทั้ง 5 ธนาคารสมาชิกไว้ในเครื่องเดียว เช่น ฟังก์ชั่นการผ่อนชำระ และฟังก์ชั่นการสะสมแต้ม ทำให้ร้านค้าไม่จำเป็นต้องมีหลายเครื่องเพื่อรองรับบัตรของแต่ละธนาคารอีกต่อไป จะช่วยลดความซ้ำซ้อนด้านการลงทุนและการใช้งานแก่ร้านค้าได้เป็นอย่างมาก อีกทั้ง ด้วยจำนวนผู้ถือบัตรเดบิตและบัตรเครดิตของทั้ง 5 ธนาคารซึ่งมีอยู่จำนวนมาก ทำให้ร้านค้าที่ติดตั้งเครื่องรับบัตรของกลุ่ม TAPS มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะมาซื้อสินค้า/บริการและชำระเงินด้วยบัตรอย่างแน่นอน
การจับมือกันของพันธมิตร 5 แบงก์ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของความร่วมมือระหว่างธนาคารที่จะเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับผู้บริโภคขึ้นใน 2 ระดับ ระดับแรกคือ จากการร่วมกันลงทุนด้านโครงสร้าง และพัฒนานวัตกรรม ซึ่งมีผลให้ต้นทุนในการให้บริการลูกค้าต่ำลง ซึ่งผลที่ได้จะตกอยู่กับลูกค้าในที่สุด และระดับที่สอง คือ ทั้ง 5 ธนาคารจะมีการพัฒนาและมีการออกแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อจูงใจให้กับร้านค้า ดังนั้น ร้านค้าจึงสามารถเลือกแบงก์ที่ให้ผลประโยชน์ดีที่สุด เพิ่มทางเลือกให้กับร้านค้าที่จะได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้นได้อีก
ขณะนี้ กลุ่ม TAPS ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงการคลังให้เป็นผู้ให้บริการติดตั้งเครื่องรับบัตรแก่ร้านค้าแล้ว ในช่วงแรกตั้งเป้าติดตั้งเครื่องรับบัตรให้ครอบคลุมร้านค้าทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 500,000 ร้าน ภายในเดือนมีนาคม 2561 โดยกลุ่ม TAPS มีความพร้อมในการให้บริการได้ทันที เนื่องจากธนาคารสมาชิกทั้ง 5 ต่างก็มีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านค้ารับบัตร อีกทั้งมีความแข็งแกร่งทั้งด้านเงินทุน บุคลากร เทคโนโลยี และมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยสำหรับการชำระเงินเนื่องจากการดำเนินงานภายในมีการตั้งคณะทำงานด้านต่างๆ ขึ้นมา เช่น ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาทาง IT และเทคโนโลยี และด้านการตลาดซึ่งธนาคารสมาชิกทั้ง 5 ได้ส่งตัวแทนผู้เชี่ยวชาญเข้าร่วมในคณะทำงานด้วยกันอย่างใกล้ชิดตลอดมา
นอกจากนี้ กลุ่ม TAPS ได้ปรับลดค่าธรรมเนียมการรับบัตรสำหรับบัตรเดบิตจากปกติ 1,5 – 1.8% เหลือเพียง 0.55% และโปรโมชั่นพิเศษอื่นๆ ที่จะตามมา เพื่อรองรับการเติบโตของการใช้จ่ายผ่านบัตร เดบิต โดยกลุ่ม TAPS พร้อมแล้วที่จะให้บริการเครื่องรับบัตรรูปแบบใหม่ที่จะมอบความสะดวกให้ร้านค้าทำธุรกิจได้อย่างสมาร์ท เติบโต และแตกต่าง เพื่อผลกำไรสูงสุด
โดยลูกค้าสามารถสมัครขอใช้บริการได้แล้ววันนี้ที่สาขาธนาคารสมาชิกทั้ง 5 ธนาคารกว่า 4,100 สาขาทั่วประเทศ หรือติดต่อผ่าน Call Center ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) 0-2111-1111, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) 0-2296-5885, ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) 0-2643-7000, ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) 0-2795-2777 และ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) 1770