ออสซี่ขายที่ดินสถานทูตถ.สาทร
วางใจแต่งตั้ง “JLL” ตัวแทนขาย
สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำกรุงเทพฯ เตรียมย้ายไปยังที่ทำการใหม่ที่ใกล้สร้างเสร็จในย่านสวนลุมพินี กระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียจึงประกาศขายที่ดินบนถนนสาทร ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานที่ทำการของสถานทูตในปัจจุบัน โดยแต่งตั้งให้บริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ เจแอลแอล เป็นตัวแทนในการขาย ชี้เป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับบริษัทที่ต้องการซื้อกรรมสิทธิ์ขาดในที่ดินแปลงใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บในย่านสาทร ทำเลทองศูนย์กลางธุรกิจอีกแห่งของกรุงเทพฯ พื้นที่โซนสีแดงตามผังเมืองของกรุงเทพมหานคร ประเภทพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก และอนุญาตให้สร้างอาคารสูงในอัตราส่วน 10 ต่อ 1 เปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคาถึงต้นเดือนมิถุนายนศกนี้
นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ เจแอลแอลกล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียบนถนนสาทรเสนอขายกรรมสิทธิ์ขาด มีเนื้อที่รวมทั้งสิ้น 7 ไร่ 382 ตารางวา ตั้งอยู่ริมถนนสาทรใต้ หนึ่งในย่านธุรกิจและที่พักอาศัยชั้นดีในศูนย์กลางธุรกิจของกรุงเทพฯ การเป็นแหล่งรวมของอาคารสำนักงานเกรดเอ โรงแรมชั้นนำ เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และคอนโดมิเนียมหรู ทำให้สาทรเป็นทำเลยอดนิยมที่บริษัทชั้นนำทั้งข้ามชาติและบริษัทไทยชั้นนำเลือกเป็นที่ตั้งสำนักงาน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทประกันภัย ธนาคาร และสถาบันการเงินอื่นๆ และเป็นหนึ่งในทำเลที่พักยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกด้วย
“ตลาดอาคารสำนักงานเกรดเอและตลาดคอนโดมิเนียมระดับหรูในย่านศูนย์กลางธุรกิจกรุงเทพฯ มีผลประกอบการที่ดีติดต่อกันมาเป็นเวลาหลายปี ดังนั้น จึงยังคงมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์-นักลงทุนที่ต้องการพัฒนาโครงการใหม่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง แต่อุปสรรคสำคัญคือ ที่ดินที่เหมาะสำหรับการพัฒนาโครงการใหม่ในย่านนี้หาได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นการเสนอขายที่ดินของสถานทูตออสเตรเลียบนถนนสาทรครั้งนี้ เป็นโอกาสที่หาได้ยาก ไม่ได้มีมาบ่อย ๆ สำหรับบริษัทที่ต้องการซื้อกรรมสิทธิ์ขาดในที่ดินแปลงใหญ่เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์บนถนนสายนี้”
นอกจากการมีทำเลชั้นเยี่ยมในใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯแล้ว อีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ที่ดินแปลงนี้มีความน่าสนใจเป็นพิเศษคือ การที่สาทรอยู่ในโซนสีแดงตามผังเมืองของกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ประเภทพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัยหนาแน่นมากและอนุญาตให้สร้างอาคารสูงในอัตราส่วนพื้นที่อาคารรวมต่อพื้นที่ดิน (Floor Area Ratio: FAR) สูงถึง 10 ต่อ 1
“จากการที่แปลงที่ดินของสถานทูต มีหน้าที่ดินติดถนนสาทรค่อนข้างกว้างมาก ทำให้โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ใดๆ ที่จะสร้างบนที่ดินแปลงนี้ จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากการสามารถสร้างอาคารได้เต็มเพดาน FAR ที่ 10 ต่อ 1 และสามารถเลือกสร้างอาคารสูงได้หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียมระดับหรู อาคารสำนักงานเกรดเอให้เช่าหรือขาย อาคารที่ทำการของบริษัทขนาดใหญ่ หรืออาคารที่ใช้ประโยชน์ผสมผสาน (mixed-use)
ส่วนรูปแบบการเสนอขายที่ดินสถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำกรุงเทพฯ เป็นการเปิดให้ผู้สนใจยื่นซองเสนอราคา โดยจะเปิดรับไปจนถึงต้นเดือนมิถุนายนศกนี้ ซึ่งหลังเริ่มเปิดขายไม่นาน มีบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำรายใหญ่แสดงความสนใจแล้วหลายราย เพื่อเพิ่มโอกาสการขายให้มากที่สุด เจแอลแอลจะมีการกระจายข้อมูลการเสนอขายที่ดินของแปลงนี้ไปตามเครือข่ายสำนักงานที่มีอยู่ทั่วโลก เชื่อว่า การเสนอราคาครั้งนี้ จะมีการแข่งขันสูง”
อนึ่งเจแอลแอลเป็นบริษัทที่ปรึกษาและบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของโลก มีสำนักงานสาขากว่า 280 แห่งทั่วโลก สำหรับในประเทศไทย เจแอลแอลเริ่มดำเนินธุรกิจมานับตั้งแต่ปี 2533 ปัจจุบันเป็นบริษัทข้ามชาติรายใหญ่ที่สุดในธุรกิจบริการด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ด้วยพนักงานมากกว่า 1,600 คน และมีอสังหาริมทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการคิดเป็นพื้นที่รวมทั้งสิ้นกว่า 5 ล้านตารางเมตร นอกจากนี้ เจแอลแอลยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์โดยภาพรวมอันดับหนึ่งของประเทศไทยติดต่อกัน 6 ปีซ้อน ในการสำรวจความคิดเห็นของคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ประจำปี 2559 โดยนิตยสารยูโรมันนี (Euromoney Real Estate Survey 2016)