ชวนสัมผัสดินแดน..ฟูลมูน
พระจันทร์หลากสีเกาะพะงัน
สมาคมโรงแรมเกาะพะงัน ร่วมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ทั้งส่วนจังหวัดสุราษฎร์ธานี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.) บริษัทการบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัทเรือเร็วลมพระยา จำกัด บริษัทประชารัฐสุราษฏร์ธานี สถาบันอาหารและบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา จำกัด ชวนเที่ยวงาน “พระจันทร์หลากสี..ที่เกาะพะงัน Koh Phangan Colormoon Festival 2017” วันที่ 23-27 เม.ย.นี้ ณ อำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี
หลังเสร็จสิ้นสงกรานต์หลายคนอาจเดินทางกลับไปสถานที่ทำงาน แต่เชื่อว่า ยังมีอีกหลายคนที่รอจังหวะ เที่ยวหลังสงกรานต์ เพื่อไม่ต้องไปเผชิญกับความแออัด รถมาก เบียดเสียด ที่พักเต็ม ร้านอาหารเต็ม เหมือนแย่งกันบริโภค แย่งกันใช้
สถานที่ท่องเที่ยวหลังสงกรานต์ นอกจากพื้นที่ใกล้กรุงเทพฯแล้ว ทางภาคใต้ยังมีให้เที่ยวกันได้อยู่ ซึ่งได้แก่ งาน “พระจันทร์หลากสี..ที่เกาะพะงัน Koh Phangan Colormoon Festival 2017” จัดขึ้นระหว่างวันที่ วันที่ 23-27 เม.ย.นี้ ณ อำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี โดยสมาคมโรงแรมเกาะพะงันและหน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชน
งานจัดขึ้นเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวต่างประเทศและชาวไทยให้มาท่องเที่ยว เปิดรับประสบการณ์หลากหลายจากธรรมชาติ ได้สัมผัสวิถีชีวิต เสน่ห์ของเกาะพะงัน ได้สัมผัสเอกลักษณ์ชุมชนและความสนุกสนาน จากดินแดนที่เป็นต้นกำเนิดของ “เทศกาลฟูมูน” กัน นอกจากนี้ยังแสดงถึงพลังความสามัคคี ความร่วมมือและความคิดสร้างสรรค์ของชาวเกาะพะงัน
สำหรับแนวคิดในการจัดงานของปีนี้ คือ “มะพร้าวคือชีวิต” ภายในงานจะได้พบกับการตกแต่งด้วยทุกส่วนจากต้นมะพร้าว พร้อมกิจกรรมที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับมะพร้าว ประกอบด้วย การแสดงแฟชั่นโชว์มะพร้าว การประกวดหนูน้อยมะพร้าวอ่อน การประกวดมิสมะพร้าวห้าว การประกวดมะพร้าวพลัดถิ่น Mr.& Miss International การประกวดเทพีมะแพร้วจำแลง การประกวดเพลงลูกทุ่ง
ส่วนกิจกรรมในแต่ละวันประกอบด้วย การแข่งขันกีฬา การแสดงค่ำคืนแห่งแสงสีฟูลมูน รวมถึงการประกวดนกกรงหัวจุก และกิจกรรมออกร้านค้า และอาหารอร่อยประจำอำเภอเกาะพะงัน พร้อมโชว์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสินค้า GI หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ซึ่งหมายถึงสินค้าที่มีแหล่งผลิตเฉพาะที่เกาะพะงันเท่านั้น
ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์เด่นของท้องถิ่นเกาะพะงันส่วนหนึ่งมาจากบริษัทประชารัฐสุราษฎร์ธานี คุณธัญญะ พูลสวัสดิ์ ประธานกลุ่ม1 และอดีตนายกสมาพันธ์โรงแรมเกาะพะงัน เพิ่งนำมาเปิดตัวระหว่างการแถลงข่าวจัดงาน “พระจันทร์หลากสี..ที่เกาะพะงัน” โดยเป็นผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวGIของเกาะพะงันที่มีลักษณะเฉพาะมีเนื้อหวานมัน เนื้อมี2 ชั้น มีน้ำมันสูงและคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์นำมันมะพร้าวผสมน้ำมันขมิ้นชัน สบู่ เจลสำหรับทาหน้าและทาตัว โลชั่นทาผิว และครีมกันแดด ซึ่งบริษัทได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย(ธพว.หรือ SME Development Bank) ด้วย โดยได้รับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
ผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว GI
คุณมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว.เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้พบกับคุณธัญญะและชักชวนให้มาช่วยพัฒนาเกาะพะงัน โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เป็นชุมชนที่มีความยั่งยืน ไม่ต้องพึ่งเทศกาลฟูลมูนเพียงอย่างเดียว ซึ่งเกาะนี้มีประวัติมายาวนาน มีพระเจ้าแผ่นดินหลายพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จประพาสมาสถานที่แห่งนี ทั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ 5 ได้เคยเสด็จประพาสถึง 15 ครั้ง นอกจากนี้ยังมีรัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 รัชกาลที่ 9 พร้อมด้วยพระราชบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์
จากเหตุดังกล่าวจึงมีแนวคิดว่า จะทำให้เกิดความยั่งยืน เพื่อช่วยชุมชนอย่างไร และได้ยึดตามแนวคิดประเทศไทย 4.0 นั่นเอง ซึ่งหมายถึง “การทำของที่มีอยู่แล้วให้ได้ราคาสูงขึ้น มีมูลค่าเพิ่มขึ้น” ซึ่งไม่ใช่การเพิ่มหรือให้เงินทุนเพียงอย่างเดียว แต่เป็นการติดอาวุธทางปัญญาด้วยที่ให้ผลิตสินค้าได้ ขายชาวต่างประเทศได้ ทำให้ได้ราคาดี โดยต้องทำเสาหลักให้ได้ 3 ด้านคือ 1. ด้านตลาด 2. การจัดการ 3. เทคนิคการผลิต
ทั้งนี้ต่อมาได้เลือก “มะพร้าว” ที่ถือเป็นสินค้าสำคัญ 1 ใน 5 ของจ.สุราษฎร์ธานี เพราะมีความโดดเด่น มีเนื้อเป็น 2 ชั้น แตกต่างจากที่อื่น มีที่เดียวที่นี่
“มะพร้าวคือชีวิตของเกาะพะงัน มีอยู่ประมาณ 6 แสนต้น ให้ผลผลิต 90 ลูก/ต้น/ปี 6 แสนต้นจะได้ประมาณ 54 ล้านลูก/ปี ส่วนที่ว่า มะพร้าวคือ ชีวิต มาจากในสมัยก่อนหลังจากคลอดลูก มีการนำรกไปฝังไว้ใต้ต้นมะพร้าว จึงหมายถึง รกราก รากเหง้า ของท้องถิ่นเกาะพะงัน ซึ่งมีประชากรอยู่ประมาณ 17,000 คน มะพร้าวนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง นำมาทำอาหารการกินหลากหลาย แต่หากขายลูกจะได้ไม่มาก เช่น ลูกละ 10 บาท 54 ล้านลูก จะมีรายได้เพียง 540 ล้านบาท
แต่หากพัฒนาให้ดี ทำจาก 10 บาทให้เป็น 30 บาท จากที่เคยได้ 540 ล้านบาท จะได้เพิ่มเป็น 540×30 เป็นประมาณ 15,000 ล้านบาท”
คุณมงคลกล่าวต่อว่า ธนาคารฯร่วมกับสมาคมโรงแรมเกาะพะงันและชุมชนช่วยกัน นำแนวคิดพัฒนาของดีที่มีอยู่แล้วในท้องถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งในเวลาเกือบ 1 ปีสามารถพัฒนาได้ 5 ผลิตภัณฑ์ โดยนำน้ำมะพร้าวมาพัฒนาเป็นเจล ครีม สบู่ ใส่สมุนไพรเข้าไป เวลานี้ยังกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อไปเสริมธุรกิจสปา ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีอยู่มากบนเกาะ ตามรีสอร์ต โฮมสเตย์ โรงแรม
” ส่วนของดีอื่น ๆ ของเกาะพะงันที่เป็น GI ยังได้แก่ น้ำพริกกะปิ ปลาอินทรีย์ น้ำผึ้นมะพร้าว กล้วย ซึ่งกล้วยมีการพัฒนาของแปลก โดยไปทำเป็นเหล้า กล้วย 60 กิโลกรัมทำเหล้าขายได้ 15,000 บาท แต่ถ้าขายเป็นกล้วยจะได้เงินเพียง 1,200 บาทเท่านั้น ”
เหล้าจากกล้วย
น้ำผึ้งมะพร้าว
คุณมงคลยังกล่าวอีกว่า สำหรับสิ่งที่จะทำในขั้นต่อไปในราว 6-7 เดือน คือ จะนำโฮมสเตย์ เชื่อมโยงกับวิถีชีวิตของชุมชน ทั้งอาหารไทย กิจกรรม โดยร่วมกับกองทุนหมู่บ้านและร้านค้าต่าง ๆ ประมาณ 30 เจ้าพร้อมนำระบบอินเทอร์เน็ตมาใช้ โดยมีโมเดลจากเขื่อนเชี่ยวหลาน ทำให้เป็นระบบ มีไกด์ อาสาสมัครมาช่วยงาน
ความร่วมมือร่วมแรงกันจากหลายภาคส่วน ร่วมกับท้องถิ่น ซึ่งเป็นไปตามแนวประชารัฐของรัฐบาลน่าจะส่งผลดีต่อเกาะพะงันไม่น้อย หลังจากปัจจุบันถือเป็นสวรรค์ดึงดูดนักท่องเที่ยวได้จำนวนไม่น้อย โดยคุณอังคณา พุ่มผกา ที่ปรึกษา 9 การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยว่า สุราษฎร์ธานีมีเกาะพะงัน เกาะสมุยและเกาะเต่า เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ โดยจากสถิติของกรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาสำรวจพบว่า ปี 2558 ที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวและผู้มาเยือนสุราฎร์ธานีถึงกว่า 10 ล้านคน
สำหรับในปี2560 นี้ประเทศไทยคาดหวังมีนักท่องเที่ยวมาเยือนราว 3.6 ล้านคน สร้างรายได้ราว 590,000 ล้านบาท คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาเกาะพะงันราว 900,000 คน สร้างรายได้แก่ชาวบ้านและชุมชนอีกไม่น้อย ซึ่งนักท่องเที่ยวมีอัตราการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคนต่อวันอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาท ส่วนระยะพำนักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวอยู่ที่ราว 4.47 คืน
ใครยังไม่เคยไปเที่ยวเกาะพะงัน เชิญ ชวนไปเที่ยวงาน “พระจันทร์หลากสี..ที่เกาะพะงัน Koh Phangan Colormoon Festival 2017” วันที่ 23-27 เม.ย.นี้ ณ อำเภอเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี