กรมพัฒนาธุรกิจฯเผยเม.ย.60
ผู้จดทะเบียนธุรกิจเพิ่ม20%
กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเผยยอดจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนเมษายน 2560 เพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 หรือเพิ่ม 796 ราย อยู่ที่ 4,783 ราย รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนจดตั้งใหม่จำนวนทั้งสิ้น 21,832 ล้านบาท ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไปมีการจดทะเบียนจดตั้งใหม่มากสุด รองลงมาได้แก่ ธุรกิจโฮลดิ้งและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวนทั้งสิ้น 21,832 ล้านบาท มีบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 1,000ล้าน 4 บริษัท มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท ส่วนการจดทะเบียนเลิก มีจำนวน 878 ราย
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบหมายให้ นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยการจดทะเบียนธุรกิจและผลการให้บริการประจำเดือนเมษายน 2560 โดยการจดทะเบียนธุรกิจ เดือนเมษายนมีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัทจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศเดือนเมษายน 2560 จำนวน 4,783 ราย เพิ่มขึ้น 796 ราย คิดเป็น 20% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 3,987 ราย แต่ลดลงจำนวน 1,989 ราย คิดเป็น 29% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 6,772 ราย
สำหรับนิติบุคคลที่จดทะเบียนเลิก มีจำนวน 878 ราย ลดลง จำนวน 289 ราย คิดเป็น 25% เมื่อเทียบเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 1,167 ราย และลดลง จำนวน 19 ราย คิดเป็น 2% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 897 ราย
มูลค่าทุนจดทะเบียนจัดตั้งใหม่ ในเดือนเมษายน 2560 มีจำนวนทั้งสิ้น 21,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 9,352 ล้านบาท คิดเป็น 75% เมื่อเทียบกับเดือนเมษายน 2559 ซึ่งมีจำนวน 12,480 ล้านบาท แต่มีมูลค่าลดลง จำนวน4,809 ล้านบาท คิดเป็น 18% เมื่อเทียบกับเดือนมีนาคม 2560 ซึ่งมีจำนวน 26,641 ล้านบาท มีธุรกิจที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 1,000 ล้านจำนวน 4 บริษัท มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท
ประเภทธุรกิจที่มีการประกอบธุรกิจใหม่สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 425 ราย รองลงมาธุรกิจโฮลดิ้ง จำนวน 362 ราย ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 273 ราย ธุรกิจร้านขายปลีกเครื่องประดับ จำนวน 236 ราย และธุรกิจภัตตาคาร /ร้านอาหาร จำนวน 109 ราย ตามลำดับ
ห้างหุ้นส่วนบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งทั้งสิ้น (ณ วันที่ 30 เมษายน 60) จำนวน 1,383,897 ราย มูลค่าทุน จดทะเบียนรวม 20.84 ล้านล้านบาท โดยมีห้างหุ้นส่วนบริษัทที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 661,998 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียน 16.10 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นบริษัทจำกัด 479,972 ราย บริษัทมหาชนจำกัด 1,165 ราย และ ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล 180,861 ราย
อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.60) มีการจดทะเบียนจัดตั้ง ห้างหุ้นส่วนบริษัท จำนวน 23,585 ราย เพิ่มขึ้น จำนวน 2,075 ราย คิดเป็น 10% เมื่อเทียบกับในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-เม.ย.59 = 21,510 ราย) ซึ่งสูงกว่าที่กรมคาดการณ์ไว้ว่าทั้งปีมีอัตราการจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 3%
การจดทะเบียนธุรกิจเพิ่มขึ้นเนื่องจากปัจจัยสนับสนุนจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายเพิ่มมากขึ้นจากการส่งออกสินค้าที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่เริ่มมีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาดจีน ยุโรป และกลุ่มประเทศ CLMV
นอกจากนี้การใช้จ่ายภาครัฐ ที่เกี่ยวกับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนาดใหญ่ ยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะสร้างความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนในประเทศได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชนยังได้รับผลบวกจากการขยายเวลามาตรการภาษี เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศต่อไปอีก 1 ปี เป็นสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2560
แม้ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าต่าง ๆ แต่ นางสาวบรรจงจิตต์ เชื่อว่า อนาคตน่าจะดีขึ้น เพราะมีความชัดเจนหลายอย่างทั้งนโยบายของประธานาธิบดี นายโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสเสร็จสิ้นแล้ว
ทางด้านผลการให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเดือนเมษายน2560 นั้น ด้าน DBD e-Registration หลังจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เริ่มให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคล (ห้างหุ้นส่วนและบริษัทจำกัด) ผ่านระบบ จดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2560 เป็นต้นมา กระทั่งวันที่ 30 เมษายน 2560 มีผู้สมัครใช้ระบบงาน จำนวน 2,765 ราย ได้รับการอนุมัติ จำนวน 970 ราย โดยมีการเข้าไปยืนยันการใช้ระบบ (Activate) จำนวน 696 ราย และมีการยื่นจดทะเบียนทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) จำนวน 20 ราย
นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าวว่า “การจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์จะช่วยให้การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัททำได้ง่ายขึ้น และเป็นพัฒนาการจากระบบกระดาษสู่ระบบไร้กระดาษและอาจจะมีผลต่อการประเมินจัดอันดับความยากง่ายในการเริ่มต้นธุรกิจของธนาคารโลกที่อาจทำให้ดีขึ้น โดยการจดทะเบียนนิติบุคคลออนไลน์ช่วยลดขั้นตอนจาก 5 ขั้นตอนเหลือ 3 ขึ้นตอน ใช้เวลาน้อยลง จาก 25.5 วัน เหลือเพียง 2 วัน และยังช่วยลดค่าใช้จ่ายลงจาก 6,600 บาท เหลือ 5,800 บาท”
ทั้งนี้ใน รายงาน Doing Business 2017 ประเทศไทยได้อันดับ 46 จากทั้งหมด 190 ประเทศ ดีขึ้นจากปีที่ผ่านมา 3 อันดับ โดยมีคะแนนดีขึ้นจาก 71.42 คะแนน เพิ่มเป็น 72.53 คะแนน
บริการ DBD e-Service เพื่อตรวจสอบข้อมูลทั่วไปของนิติบุคคลโดยค้นหาข้อมูลนิติบุคคลจากรายชื่อหรือเลขทะเบียนงบการเงิน รายชื่อร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนพาณิชย์ และข้อมูลสมาคมการค้าและหอการค้า รวมทั้งมีบริการข่าวสาร กิจกรรม โครงการต่างๆและสถานที่ให้บริการของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าผ่านมือถือ (Application: DBD e-Service) ซึ่งสามารถใช้งานได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2557เป็นต้นมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคลได้ด้วยตนเอง มีสถิติผู้เข้าใช้บริการระบบจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2560 รวมทั้งสิ้น 3,134,692 ครั้ง โดยในเดือนเมษายน 2560 มีผู้ใช้บริการ จำนวน 124,243 ครั้ง เพิ่มขึ้น จากเดือนก่อน (ม.ค.57–มี.ค.60 = 3,010,449 ครั้ง) คิดเป็น 4%
สำหรับด้าน DBD e-Filing กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เปิดให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนและนิติบุคคลทั่วไปตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2558 เป็นต้นมา จนถึงณ วันที่30 เมษายน 2560มีสถิติผู้สมัครลงทะเบียน จำนวน 540,331 ราย แสดงตัวตนต่อเจ้าหน้าที่และได้รับอนุมัติ จำนวน 503,491 ราย