“เมโทรโพลิสฯ” ลุยเฟสใหม่
รับแรงบวกรถไฟฟ้าเขียว-เหลือง
เครือว่องไววิทย์ เร่งสยายปีกอสังหาฯ ดัน “เมโทร โพลิสพรอพเพอร์ตี้ส์ ลุยพัฒนาคอนโด ปักธงทำเล “สำโรง” รับแรงบวกรถไฟฟ้าสายสีเขียว–สาย สีเหลือง บูมทำเล “ทอง” แห่งใหม่ พร้อมแรงหนุนจากการเปิดAEC ส่งผลความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มจากนักธุรกิจและแรงงานต่างชาติเข้าไทย จ่องัดแลนด์แบงก์ลุยพัฒนาต่อ เตรียมเปิดเฟสใหม่โครงการ เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์ หลังกระแสตอบรับดีเฟสแรกปิดการขายได้ 100% (70%ของโครงการ)จากทำเลเลิศ ติดรถไฟฟ้าเพียงก้าวเดียว เข้าใจกลางเมืองสะดวกสบาย และใช้เวลาเดินทางไปทองหล่อแค่ 17 นาที ราคาขายช่วงพรีเซลส์ เริ่ม 2.5 ล้าน* ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท*
นายเฉลิมชัย ว่องไววิทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เมโทร โพลิสพรอพเพอร์ตี้ส์ จำกัด บริษัทในเครือว่องไววิทย์ อุตสาหกรรมจักรกล จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในไตรมาส 2 ปี 2560 ยังมีทิศทางเติบโตในบาง เซกเม้นท์ (segment) โดยเฉพาะทำเลแนวรถไฟฟ้า เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มในแนวรถไฟฟ้าอยู่แล้ว บวกกับการเปิดการค้าเสรีอาเซียน ทำให้มีทุนต่างชาติและนักธุรกิจ รวมถึงคนทำงานหลั่งไหลเข้ามาในไทย
ทั้งนี้ ทำเลได้รับปัจจัยบวกจากแรงกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในการอนุมัติ ส่วนต่อขยายรถ ไฟฟ้าสายสีเขียวและสายสีเหลือง ในปี2559ที่ผ่านมา ส่งผลให้เมืองสมุทรปราการมีการป รับตัวครั้งใหญ่ ทำให้บริเวณถนนบางนา- ตราด และถนนเทพารักษ์กลายเป็นทำเลทอง แห่งใหม่
“แม้ภาพรวมตลาดคอนโดมิเนียม ชะลอตัว แต่เป็นที่น่าสนใจว่าในบางทำเล ยังสามารถปิดการขายได้เรื่อยๆ โดยทำเล “ทอง” หนีไม่พ้น ที่ติดสถานีรถไฟฟ้าจริงๆ ยิ่งเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ ถือว่ายังไปได้ดี”
ดังนั้น บริษัทฯเดินหน้าขยายการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ในพื้นที่ทำเลดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ มีที่ดินที่รอการพัฒนาจำนวนหลาย แปลง หลังจากบริษัทฯ ประสบความสำเร็จจากการขายโครงการแรก”The Metropolis Samrong Interchange” (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ตั้งอยู่ติดกับสถานีสำโรง ซึ่งในอนาคต สถานีสำโรงจะเป็นสถานี อินเตอร์เชนจ์ (Interchange) เชื่อมต่อการเดินทางกับรถไฟฟ้า สายสีเหลือง (เทพารักษ์ – ลาดพร้าว) ปัจจุบันทำยอดขายได้แล้วประมาณ 70% และอีกหนึ่งปัจจัยที่ลูกค้าประทับใจ ในการเลือกใช้วัสดุตกแต่งภายในห้องชุด นอกจากเป็นทำเลที่ดีมากติดรถไฟฟ้าเพียงก้าวเดียว ประหยัดเวลา สู่ใจกลางเมืองอย่างสะดวกสบาย ใช้เวลาเดินทางไปทองหล่อแค่ 17 นาที
จากปัจจัยดังกล่าว บริษัทฯ ลงทุนเปิดเฟสใหม่ ตั้งอยู่หน้าสุดของโครงการฯ อาคาร B พัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม สูง 30 ชั้น จำนวนทั้งหมด 552 ยูนิต จุดเด่น จำนวนยูนิตไม่หนาแน่น ถ้าเทียบกับโครงการในละแวกนี้, เป็นอาคารที่มี Retail Shop ลูกบ้านที่อยู่ในอาคารนี้ จะได้รับความสะดวกสบาย, ใกล้ BTS สถานีสำโรง เพียงก้าวเดียว, Fully Furnished ในส่วนของราคาขายนั้น ช่วงพรีเซลส์ เริ่ม 2.5 ล้าน* ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท* ด้านเฟสแรก สามารถปิดการขายได้ 100 เปอร์เซนต์ ( คิดเป็นยอดเฉลี่ย 70% ของทั้งหมดโครงการฯ) อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจมาก
“นโยบายของเราคือการใส่ใจกับรายละเอียด คนที่จะซื้อที่อยู่อาศัยเขาเก็บ เงินมาทั้งชีวิต ดังนั้นเราไม่ใช่แค่สร้างที่อยู่อาศัย เราสร้างการยอมรับด้วย จากที่เราเปลี่ยนกลยุทธ์ จากการทำบ้านจัดสรรธุรกิจแนวราบ มาเป็นคอนโดมิเนียม ต้องดึงคนหมู่มาก กลุ่มเป้าหมายเพิ่มขึ้น เป็นความท้าทาย แต่คาดว่าน่าจะได้รับผลตอบรับดี เพราะที่ตั้งเป็นทำเลทองและคาดว่ าจะเป็นมหานครแห่งใหม่ในอนาคต โดยไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน คนเมืองชอบมากที่ไม่ต้องเดินทาง ไกล ขณะที่คอนโดในเมืองที่อยู่ติดกั บรถไฟฟ้าราคาแพงมาก จุดขายของโครงการคือขยายแนวความ คิด “ถ้าเราออกมาอยู่ข้างด้านนอกหน่ อยแต่การเดินทางสะดวกเท่าๆ กัน และราคาที่ถูกกว่าเกือบครึ่ง ออกมาไกลกว่านิด แต่ก็อยู่ติดกับรถไฟฟ้า โดยเฉพาะด้านหน้าคอนโดมิเนียมขอ งเราอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าสอง สายด้วยกัน ใช้ เวลาการเดินทางไม่ต่างกัน จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า”
สำหรับรายละเอียดโครงการ The Metropolis Samrong Interchange (เดอะเมโทรโพลิส สำโรง อินเตอร์เชนจ์) เป็นคอนโดมิเนียม High Rise จำนวน 2 อาคาร A สูง 39 ชั้น รวม 1,056ยูนิต, อาคาร B สูง 30 ชั้น รวม 552 ยูนิต และ Low Rise อาคาร Cสูง 7 ชั้น จำนวน144 ยูนิต รวมอาคารจอดรถ 5 ชั้น 1 อาคาร รวมที่จอดรถประมาณ 750 คัน (ไม่รวมซ้อนคันคิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์) สำหรับรูปแบบห้อง แบ่งเป็น Studio 28 ตารางเมตร, 1 Bedroom 35 – 45 ตารางเมตร , 2 Bedrooms 52 – 53, ฝ้าเพดานสูง 2.55 เมตร
นอกจากนี้สิ่งอำนวยความสะดวกค รบ ประกอบด้วย สระว่ายน้ำระบบเกลือ 2 สระ ขนาด 12 x 28 เมตร(อาคารA), 12 x 30 เมตร(อาคารB) และสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.3 เมตร, ห้องออกกำลังกาย, สวนหย่อมรอบโครงการ, สนามแบดมินตัน 2 สนาม, ห้องไดร์ฟกอล์ฟ, ห้องอเนกประสงค์, ลิฟท์โดยสารความเร็วสูง ที่อาคาร A,B 4 ตัว/อาคาร และที่อาคาร C,D 2 ตัว/อาคาร, อัตราส่วนลิฟท์อาคาร A 264:1, อัตราส่วนลิฟทาคาร B 138:1, อัตราส่วนลิฟท์อาคาร C 81:1, Service Lift 1 ตัว/อาคาร, ที่จอดรถไม่รวมซ้อนคันประมาณ 40% ระบบความปลอดภัยCCTV / Access Card ผ่าน EIA เรียบร้อยแล้ว