สสจ.สิงห์บุรีชี้ แก้กม.บัตรทอง
ทางออกช่วยรพ.พ้นวิกฤตการเงิน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี เชื่อแก้ พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ จะส่งผลดีถ้วนหน้า ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ รพ. พ้นวิกฤตด้านการเงิน เผยสิงห์บุรีมีประชากรสิทธิบัตรทอง 145,720 คน ได้งบจัดสรร 355 ล้านบาท หักค่าใช้จ่ายบุคลากร 60% 328 ล้านบาท เหลืองบบริการประชาชนเพียง 184.02 บาทต่อหัวต่อปี เทียบกับระดับประเทศที่รัฐตั้งไว้ 2,900บาทต่อหัวต่อปี ทำให้ตัองขอความช่วยเหลือจากส่วนกลางและส่วนอื่นเพิ่ม ปัญหาโรงพยาบาลขาดสภาพคล่องนี้เกิดขึ้นในโรงพยาบาลอีกหลายแห่งตลอดระหว่างใช้พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพ ฉบับเดิม การแก้ไขพ.ร.บ.ใหม่เป็นการแก้ต้นเหตุแห่งปัญหาที่จะส่งผลดีต่อระบบคุณภาพบริการ และขวัญกำลังใจ
นพ.สุขสันติ พักธรรมนัก นายแพทย์เวชกรรมป้องกัน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสิงห์บุรี เปิดเผยว่า การแก้ไข พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ. … จะส่งผลดีต่อผู้รับบริการ โรงพยาบาล และบุคลากรที่ปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการแยกเงินเดือนและค่าตอบแทนออกจากเงินกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับจังหวัดที่ประชากรน้อย แต่อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีหน่วยบริการดูแลพี่น้องประชาชน และจังหวัดที่มีสถานบริการสาธารณสุขหลายแห่ง เช่น สิงห์บุรี, ราชบุรี, สมุทรสงคราม ซึ่งเมื่อหักค่าบุคลากรและค่าสาธารณูปโภคต่างๆ ทำให้งบประมาณในการให้บริการมีจำนวนไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ จ.สิงห์บุรี มีประชากรสิทธิหลักประกันสุขภาพ 145,720 คน มีโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 2 แห่ง โรงพยาบาลขนาด 30 เตียง จำนวน 3 แห่ง และโรงพยาบาลขนาด 10 เตียง จำนวน 1 แห่ง รวมค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรปีละ 543 ล้านบาท โดย พ.ศ. 2559 ทางจังหวัดได้รับงบประมาณ 355 ล้านบาท แต่ถูกหักค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรร้อยละ 60 เป็นเงิน 328 ล้านบาท ทำให้เหลืองบบริการประชาชนเพียง 27 ล้านบาท หรือ 184.02 บาทต่อหัวประชากรต่อปี ทั้งที่ในระดับประเทศจัดสรรไว้ 2,900 บาทต่อหัวประชากรต่อปี จึงจำเป็นต้องขอรับความช่วยเหลือจากส่วนกลาง และจังหวัดอื่นๆ ในเขตสุขภาพเดียวกัน งบประมาณจึงเพิ่มขึ้นเป็น 87 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามสถานการณ์การเงินของโรงพยาบาลใน จ. สิงห์บุรี ที่อยู่ในภาวะวิกฤต ซึ่งมีตั้งแต่ระดับ 1 – 4 ได้ส่งผลกระทบถึงระบบคุณภาพการบริการ การบริหารจัดการ และขวัญกำลังใจของบุคลากร
นพ.สุขสันติ กล่าวด้วยว่า สำหรับ พ.ศ. 2560 หลังหักค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรและสาธารณูปโภค จ.สิงห์บุรี เหลืองบประมาณเพื่อใช้บริหารงานเพียง 11 ล้านบาท ทางกระทรวงสาธารณสุขและคณะกรรมการร่วมการเงินการคลังระดับประเทศ ได้พยายามจัดสรรงบประมาณตามเกณฑ์เพื่อช่วยเหลือแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทางจังหวัดยังคงมีโรงพยาบาลที่วิกฤตระดับ 7 และวิกฤตระดับ 1 – 2 อีก ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเดิมๆ โดยปัญหานี้เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ใช้แนวทาง พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพ ฉบับเดิม ที่ทำให้การบริการของสถานบริการที่มีประชากรน้อยเดือดร้อน
อย่างไรก็ตาม นพ.สุขสันติ กล่าวว่า ขณะนี้ทุกโรงพยาบาลพยายามแก้ปัญหาเรื่องการขาดสภาพคล่องทางการเงินด้วยการชะลอจ่ายหนี้ค่ายา ค่าตอบแทนบุคลากร ค่าปฏิบัติงานนอกเวลาราชการ เพื่อให้สามารถหมุนเงินในระบบได้ ซึ่งนั่นถือเป็นความเสี่ยง แต่การแก้ไข พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นการปรับแก้ต้นเหตุแห่งปัญหาที่จะส่งผลดีต่อระบบคุณภาพบริการ และขวัญกำลังใจ หากโรงพยาบาลอยู่ไม่ได้ นอกจากผู้รับบริการสิทธิหลักประกันสุขภาพ ผู้รับบริการในสิทธิอื่นๆ ยังอาจได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ขอบคุณภาพประกอบจาก-http://www.oag.go.th/th