จาก ‘กรุงเทพสเต็มเซลล์’ สู่ ‘เมดีซกรุ๊ป’
ส่งนวัตกรรมขั้นสูงเพื่อสุขภาพดี-อายุยืน
ในช่วงหลายปีมานี้ ต้องยอมรับว่า “เซลล์ต้นกำเนิด” หรือชื่อทางการแพทย์คือ “สเต็มเซลล์” (Stem cells) ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในแวดวงการแพทย์จากคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยฟื้นฟูเนื้อเยื่ออวัยวะที่เสื่อมเลวลง นำสู่การบำบัด รักษาโรคเพื่อการมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี ช่วยยืดอายุขัยให้ยืนยาว ในประเทศไทย “บริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด” เป็นผู้นำอุตสาหกรรมธุรกิจการให้บริการรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่ประสบความสำเร็จ และได้ก้าวสู่การเป็นกลุ่มบริษัทธุรกิจการแพทย์ชั้นนำระดับโลกในนามของ “MEDEZE GROUP” ที่เพียบพร้อมด้วยทีมงานผู้เชี่ยวชาญให้บริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงแบบครบวงจร ชู 3 นวัตกรรมเด่นเพื่อสุขภาพที่ดีและอายุขัยยืนยาวได้แก่ การบำบัดรักษาด้วยเซลล์ต้นกำเนิด การต่อสู้มะเร็งร้ายด้วยเซลล์ภูมิต้านทานหรือเซลล์ภูมิคุ้มกันและเทคโนโลยีการผ่าตัดแบบไร้แผล
ทั้งนี้ “เซลล์ต้นกำเนิด” หรือ “สเต็มเซลล์” คือ เซลล์ที่มีคุณสมบัติพิเศษ สามารถแบ่งตัวเพิ่มจำนวนตัวเองได้ (self-renew) และยังสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองให้กลายเป็นเซลล์ เนื้อเยื่ออื่น ๆหรือแม้แต่กลายเป็นอวัยวะในร่างกายได้ โดยสเต็มเซลล์แบ่งได้เป็นสเต็มเซลล์ตัวอ่อน(Embryonic stem cell) และสเต็มเซลล์เต็มวัย (Adult stem cells) เช่น ได้จากเลือด ไขกระดูก เลือดจากสายสะดือหรือรก ไขมัน ฟันและผิวหนัง เป็นต้น
นักวิทยาศาสตร์ได้เริ่มบุกเบิกศึกษาวิจัยเรื่องสเต็มเซลล์มานานนับแต่ปี 1932 โดยมีรายงานการศึกษาแรกเป็นของ ดร.ฟลอเรนซ์ ซาบิน ในสหรัฐอเมริกาที่ศึกษาผลกระทบของต่อมน้ำเหลืองและไขกระดูกหลังฉีดธาตุกัมมันตรังสีในกระต่าย ที่ได้ผลลัพธ์สนับสนุนข้อสังเกตที่ว่า สเต็มเซลล์ไขกระดูกมีอยู่และได้รับผลกระทบจากการแผ่รังสี
หลังจากนั้นมีการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านสเต็มเซลล์มาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างการวิจัยและการค้นพบสำคัญ เช่น ปี ค.ศ. 1981 มาร์ติน จอห์น อีวานส์ นักวิจัยมหาวิทยาลัยคาร์ดิฟฟ์ ในอังกฤษ ก่อนย้ายไปอยู่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ค้นพบสเต็มเซลล์ตัวอ่อนในหนู
จากนั้นโลกต้องฮือฮากับการกำเนิดของ “แกะดอลลี่” ในปี 1997 ผลงานของเอียน วิลมุตและทีมงานจากสถาบันโรสลิน ในเอดินบะระของสก็อตแลนด์ ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ถือกำเนิดจากการโคลนนิ่งครั้งแรก เกิดจากวิธีการแทนที่นิวเคลียส โดยใช้นิวเคลียสของเซลล์ต่อมน้ำนม ไปใส่แทนที่นิวเคลียสของเซลล์ไข่ จากนั้นกระตุ้นด้วยไฟฟ้าเพื่อให้เกิดการขยายตัวและพัฒนาไปเป็นตัวอ่อนและนำตัวอ่อนไปฝังในมดลูกของแม่อุ้มบุญ การวิจัยดังกล่าวนี้ทำให้นักวิจัยเชื่อว่า เทคนิคที่คล้ายกัน โดยผสมสเต็มเซลล์ตัวอ่อนกับเซลล์ผู้ใหญ่นี้ จะสามารถสร้างชีวิตใหม่เพื่อให้อวัยวะและเนื้อเยื่อที่มียีนเหมือนกันได้
จากนั้นในปี 1998 การวิจัยสเต็มเซลล์มนุษย์ได้เริ่มขึ้น เมื่อเจมส์ ธอมป์สัน แห่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซินและจอห์น เกียร์ฮาร์ท แห่งมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอพกินส์ในสหรัฐฯคัดแยกสเต็มเซลล์ตัวอ่อนมนุษย์และเพาะเลี้ยงในห้องทดลอง และมีนักวิทยาศาสตร์ศึกษาวิจัยต่อยอดอีกมากมายที่แสดงให้เห็นว่า เซลล์ตัวอ่อนมีศักยภาพในการบำบัดรักษาได้
สเต็มเซลล์ตัวอ่อน จึงกลายเป็นความหวังว่า ที่จะช่วยปฏิวัติการรักษาโรคในอนาคต แต่มีข้อจำกัดด้านจริยธรรมหรือบาปบุญคุณโทษในการนำมาใช้ เพราะนั่นหมายถึงการต้องทำลายชีวิต เพื่อนำเนื้อเยื่อหรืออวัยวะมาใช้ประโยชน์
ดังนั้นการใช้สเต็มเซลล์ผู้ใหญ่จึงเป็นทางออกที่ดีกว่า และการเก็บรักษาสเต็มเซลล์ไว้ เพื่อรักษาตัวเองในยามเจ็บป่วยหรือชะลอความเสื่อมของร่างกาย จึงได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางจากคนรักสุขภาพและต้องการมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ไปนาน ๆ
สำหรับในประเทศไทย บริษัท กรุงเทพสเต็มเซลล์ จำกัด ได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 2553 ด้วยการเป็นธนาคารฝากเก็บและพัฒนาการใช้สเต็มเซลล์ใหญ่ที่สุดในประเทศ และยังเป็นธนาคารสเต็มเซลล์แห่งแรกของโลกที่มอบการฝากเก็บแบบตลอดชีพ ก่อตั้งและบริหารงานโดยทีมของ นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์, รศ.ดร.รังสรรค์ พาลพ่าย และนพ.จำรัส สกุลไพศาล จนก้าวเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดของประเทศในเวลาไม่นานและสามารถขยายสาขาครอบคลุมความต้องการออกไปสู่ประเทศเวียดนาม เมียนมา และสิงคโปร์
นพ.วีรพล ประธานบริหาร ของMEDEZE กล่าวว่า “จากจุดเริ่มต้นที่เป็นความคิดเห็นที่ตรงกันของคน 3 คน มีผม นพ.วีรพล เขมะรังสรรค์, นพ.จำรัส สกุลไพศาล และดร.รังสรรค์ พาลพ่าย จากความคิดสู่การเริ่มต้นลงมือทำด้วยพลังกาย และพลังสมองของพวกเรา กรุงเทพสเต็มเซลล์จึงถือกำเนิดขึ้นมาในวันที่ 19 กรกฎาคม 2553
เพราะเราทั้ง3คนไม่ใช่นักธุรกิจ เราคือแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นการปักธงของงานนี้ เราจึงมุ่งเน้นถึงประโยชน์สูงสุดที่ลูกค้าจะได้รับเป็นอันดับแรก
ดังคำสอนที่ผมจดจำไว้เสมอ “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง ประโยชน์ของผองเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภ ทรัพย์ และเกียรติยศจะตกมาแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพไว้ให้บริสุทธิ์
พระราชปณิธานแห่งสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชชนก”
กรุงเทพสเต็มเซลล์ได้รับความไว้วางใจในระดับสากลสู่การเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่มีผู้คนจากทั่วโลกมาใช้บริการเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในทุกๆปี มีกลุ่มลูกค้าคนพิเศษทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศนับ 10,000 ราย อีกทั้งยังได้รับรางวัลจากกลุ่มนักจัดอันดับบริษัทชั้นนำ Frost & Sullivan คือ รางวัล “2017 Stem Cell Banking Growth Excellence Leadership Award” เพื่อตอกย้ำถึงการเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่มีความเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี งานวิจัยและการตลาดดีเด่น รวมทั้งการเป็นธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดยอดเยี่ยมแห่งประเทศไทย
“เราเป็นธนาคารฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดแห่งแรกของโลกที่มอบการฝากเก็บแบบตลอดชีพ เพราะเราทุกคนรู้ดีว่าโรคภัยไข้เจ็บสามารถเกิดกับใครก็ได้โดยไม่จำกัดช่วงเวลา และนี้คือ พันธะสัญญาที่ชัดเจนที่สุดที่บ่งบอกได้ว่า เราจะดูแลและอยู่เคียงข้างคุณไปตลอดชีวิต และนี่คือความตั้งใจที่จะพาธุรกิจให้เติบโตมั่นคงเคียงข้างคุณเพื่อดูแลคำสัญญานี้เช่นกัน เราจึงเป็นที่แรกที่แสดงศักยภาพในการรับฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากไขมัน เพื่อเปิดโอกาสให้คนทุกเพศทุกวัยมีคลังสุขภาพไว้รักษาแบบเฉพาะบุคคลและเป็นแห่งเดียวที่การันตีคุณภาพเซลล์ทุกเซลล์ด้วยวงเงิน 10 เท่าของค่าธรรมเนียม ในระยะเวลายาวนานที่สุดเพื่อตอกย้ำถึงการทำงานทุกขั้นตอนที่ได้มาตรฐานระดับสากล ความซื่อสัตย์คือสิ่งที่หลอมรวมให้องค์กรเราชัดเจนในทุกการกระทำ เราซื่อสัตย์ต่อตนเองเพราะนี้คืองานที่เรารักและทุ่มเท
เราซื่อสัตย์ต่อเพื่อนร่วมองค์กรและคู่ค้าเพราะไม่ว่าอย่างไรเราจะจับมือเดินไปด้วยกันอย่างไม่เปลี่ยนแปลง เราซื่อสัตย์กับลูกค้าเพราะที่สุดแล้วเราทั้งหมดคือครอบครัวเดียวกันที่จะเดินเคียงข้างกันไปจนตราบสิ้นลมหายใจ เราซื่อสัตย์ต่อสังคมเพราะเมื่อวันที่เราเติบโตยิ่งใหญ่เราไม่เคยลืมที่จะให้ประโยชน์คืนกลับสู่สังคมในทุกรูปแบบเท่าที่จะทำได้ ต้องยอมรับว่าในวันนั้นความตั้งใจของเราคือการเปิดบันทึกหน้าใหม่ให้กับอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดที่ไม่ใช่เพียงการฝากเพื่อเป็นหลักประกันสุขภาพเพียงเท่านั้น แต่เราตระหนักถึงของคุณค่าที่แท้จริงของเซลล์ต้นกำเนิดที่จะสามารถสร้างประโยชน์ และเปลี่ยนแปลงโลกของการรักษาได้จริง
ผมเคยพูดไว้ว่า..เซลล์ต้นกำเนิดจะเป็นเหมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ สำหรับผู้ที่หมดหวังทางการรักษาด้วยการแพทย์ปัจจุบัน.. เราจึงเปิดตัวด้วยการฝากเก็บเซลล์ต้นกำเนิดชนิดมีเซนไคม์ แม้จะเป็นสิ่งที่ยากเพราะเราต้องสร้างห้องปฏิบัติการคุณภาพระดับคลีนรูม คลาส100 ที่ได้มาตรฐานเพื่อทำการคัดแยก และเพาะเลี้ยงเซลล์ทันที สิ่งนี้คือสิ่งที่ถูกต้องและดีที่สุดสำหรับทุกคน เราอาจจะเป็นผู้ก่อตั้งบริษัททีมเดียวบนโลกใบนี้ที่ลงมือทำแล็บได้ด้วยตัวเอง นี่คือความแตกต่างที่สำคัญที่ทำให้เราสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติการดูแลเซลล์ต้นกำเนิดได้ใหญ่ที่สุดในประเทศ เราสามารถควบคุณภาพเซลล์ทุกเซลล์ด้วยตัวเราเอง”
ล่าสุดกรุงเทพสเต็มเซลล์ ประกาศพร้อมเติบโตก้าวสำคัญสู่ธุรกิจด้านการแพทย์ชั้นนำระดับโลก ในนามกลุ่มบริษัททางการแพทย์เมดีซกรุ๊ป -MEDEZE GROUP ซึ่งมุ่งให้บริการด้านสุขภาพด้วยนวัตกรรมขั้นสูงสุดในทุกด้านแบบครบวงจร อย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนและมุ่งเดินหน้าทำการวิจัยและพัฒนาด้านสเต็มเซลล์สู่การรักษาโรคได้อย่างเต็มศักยภาพ และให้บริการครอบคลุมทุกมุมโลก
นพ.วีรพล กล่าวว่า ภายในปี 2026 MEDEZE จะเป็นหนึ่งในผู้นำแบรนด์ระดับโลก ในธุรกิจการให้บริการทางการแพทย์ การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพ โดยมุ่งพัฒนาตนเองในด้านความรู้ ความเชี่ยวชาญ นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อส่งมอบการมีชีวิตที่ยืนยาว ยกระดับการใช้ชีวิตให้ได้อย่างเต็มที่ และมีความสุขเพื่อคนรอบข้างที่เรารักให้ได้ยืนยาวที่สุดนานถึง 120 ปี
ทั้งนี้นอกจากเป็นเลิศในด้านธนาคารฝากสเต็มเซลล์ตลอดชีพแล้ว ยังชู 3 นวัตกรรมในการดูแลรักษาสุขภาพ ได้แก่ 1. การบำบัดรักษาด้วยสเต็มเซลล์ ที่เป็นการรักษาเฉพาะบุคคล ซึ่ง MEDEZE มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านเซลล์ต้นกำเนิดที่มีจำนวนมากที่สุดในประเทศและยังมีความร่วมมือระดับนานาชาติ เช่น ความก้าวหน้าสร้างสรรค์เซลล์ต้นกำเนิดรากผมได้แล้วจากความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยจิชิ (Jichi) ประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประเทศไทย และ MEDEZE STEM CELL หรือ การสร้างอวัยวะสำรอง ซึ่งเป็นความร่วมมือของเมดีซสเต็มเซลล์ และรัฐบาลสิงคโปร์ ด้วยการสร้างกระจกตา เป็นต้น
2.การป้องกัน และรักษาโรคมะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้มกันของตัวเอง ภายใต้การกำกับดูแลของ MEDEZE I NKCELL ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างเมดีซ และ Dr.Junichi Masuyama และDr.Sanehiko Fujita แห่ง New City Osaki Clinic ทั้งสองท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็ง และเป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีการเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวน NK CELL ที่ประสบความสำเร็จ และมีชื่อเสียงสูงสุดในประเทศญี่ปุ่นและระดับโลก เป็นทั้งผู้คิดค้นวิธีการและรักษาคนไข้ด้วยตนเอง ทำให้วันนี้ MEDEZE สามารถเพิ่มการรักษาที่สำคัญให้กับกลุ่มคนไข้ที่เป็นโรคมะเร็งได้แล้ว รวมทั้งสามารถป้องกันความเสี่ยงก่อนจะเป็นมะเร็งได้ด้วย
3.การผ่าตัดที่หวังผลสำเร็จได้ 100% ไร้แผลเป็น ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดผ่านกล้องที่ดีที่สุด โดยแพทย์ผ่าตัดที่มีผลงาน และชื่อเสียงระดับโลก
นับเป็นบริษัทของคนไทยที่มีความก้าวหน้าน่าภาคภูมิใจอีกแห่งในแวดวงสุขภาพ ผู้สนใจเทคโนโลยีดูแลสุขภาพด้วยเซลล์ร่างกายเพื่อตัวคุณเองและสมาชิกในครอบครัวไม่ควรพลาดโอกาสไปใช้บริการกัน
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
-https://ipscell.com
-https://www.slideshare.net
-https://www.newscientist.com
-http://www.bangkokhealth.com
-https://financialtribune.com
–www.stemcellactionnetwork.org