กัมพูชาชู CPF แบบอย่างดูแลแรงงาน
หนุนรัฐ-เอกชนร่วมมือจ้างถูกกฎหมาย
นายฮุน มณี สมาชิกสภาแห่งชาติกัมพูชา และทูตกัมพูชา เข้าเยี่ยมพบปะแรงงานชาวกัมพูชาที่โรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้ว ของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ ชูภาคเอกชนไทยเป็นแบบอย่างในการจัดจ้างแรงงานต่างชาติถูกต้องตามกฎหมาย และแรงงานทุกคนได้ดูแลอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม มีมาตรฐานระดับสากล พร้อมร่วมมือกับไทยผลักดันแรงงานกัมพูชาดำเนินการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
นายฮุน มณี สมาชิกสภาแห่งชาติกัมพูชา และนายลอง วิสาโล เอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทย พร้อมคณะสมาชิกสภาแห่งชาติกัมพูชา และข้าราชการจากประเทศกัมพูชา กล่าวระหว่างเดินทางมาเยี่ยม และพบปะพูดคุยกับแรงงานชาวกัมพูชากว่า 500 คนที่โรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้ว ของ ซีพีเอฟ ว่า รู้สึกยินดีที่ได้เห็นชาวกัมพูชาที่ทำงานกับซีพีเอฟในประเทศไทยได้รับการปฏิบัติดูแลเอาใจใส่ที่ดี ชาวกัมพูชาทุกคนมีความสุข ขอขอบคุณที่ซีพีเอฟปฏิบัติต่อแรงงานชาวกัมพูชาเสมอภาคและเท่าเทียมกับแรงงานชาวไทย ตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยรัฐบาลกัมพูชาสนับสนุนการดำเนินมาตรการด้านแรงงานต่างชาติของไทย เพื่อช่วยผลักดันให้แรงงานกัมพูชาที่ทำงานในไทยจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ
นายฮุน มณี กล่าวต่อว่า การมาเยี่ยมชมและพบปะชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย เป็นภารกิจของรัฐบาลในการติดตามดูแลคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวกัมพูชาที่ทำงานในต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานชาวกัมพูชาทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ รัฐบาลไทยและกัมพูชาให้ความสำคัญกับเรื่องการจัดจ้างแรงงาน และมีความร่วมมืออย่างจริงจังเพื่อให้แรงงานชาวกัมพูชาได้รับการจัดจ้างถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ กัมพูชายังได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา เพื่อผลักดันให้แรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทยทุกคนขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐอย่างครบถ้วน และมั่นใจว่าทุกคนได้ทำงานในสภาพแวดล้อมปลอดภัยและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
“การที่แรงงานชาวกัมพูชาในประเทศไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ถือเป็นความสำเร็จที่เกิดจากความร่วมมือกันของทุกภาคส่วน ตั้งแต่ภาครัฐ ภาคเอกชน อย่าง ซีพีเอฟ ที่เป็นแบบอย่างขององค์กรชั้นนำของไทย ที่ช่วยดำเนินการให้แรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยมีงานทำที่มั่นคง และมีความอบอุ่นใจ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของ การเติบโตทางสังคมและเศรษฐกิจที่มั่นคงและยั่งยืนของทั้งสองประเทศในระยะยาว” นายฮุน มณี กล่าว
นางพา ลินดา แรงงานชาวกัมพูชา กล่าวว่า รู้สึกยินดีที่รัฐบาลกัมพูชาไม่ลืมประชาชนกัมพูชาที่ออกมาทำงานในต่างประเทศ และวันนี้ยังได้มีโอกาสพูดคุยและเล่าถึงความเป็นอยู่ให้กับคุณฮุน มณีฟัง เพื่อฝากบอกถึงญาติพี่น้องและครอบครัวที่กัมพูชาได้สบายใจ ว่าเรามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
ด้านนายนิธิวัชร์ จิรายุธัญวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ โรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้ว ซีพีเอฟ กล่าวว่า แรงงานจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะชาวกัมพูชา ถือเป็นกำลังสำคัญของซีพีเอฟในกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย ได้มาตรฐานสากล ของซีพีเอฟ ซีพีเอฟมีนโยบายจัดจ้างแรงงานต่างชาติทุกคนเป็นพนักงานของบริษัท มีการคัดเลือกอย่างโปร่งใส โดยดำเนินตามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจ (MOU) ในการจัดจ้างแรงงานระหว่างประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน โรงงานแปรรูปสุกร แปดริ้วจัดจ้างแรงงานชาวกัมพูชากว่า 800 คนจากพนักงานทั้งหมดที่ 1,500 คน ซีพีเอฟยังมีนโยบายการปฏิบัติต่อแรงงานทุกคนตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานกัมพูชาได้มอบเกียรติบัตรยกย่อง โรงงานแปรรูปสุกรแปดริ้ว ซีพีเอฟเป็นสถานประกอบการดีเด่นในการปฏิบัติต่อแรงงานชาวกัมพูชาอย่างเท่าเทียมและเสมอภาค
“ซีพีเอฟยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาให้ความใส่ใจกับคุณภาพชีวิตของแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในประเทศ และ การมาเยี่ยมของนายฮุน มณี และเอกอัครราชทูตกัมพูชา ประจำประเทศไทยในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการช่วยตอกย้ำความเชื่อมั่นเรื่องการจัดจ้างและดูแลแรงงานต่างชาติของซีพีเอฟต่อรัฐบาลและประชาชนชาวกัมพูชา และนานาประเทศอีกด้วย” นายนิธิวัชร์กล่าว